อานิสงส์มาตรการรัฐอุ้มอสังหาฯดัน แอร์-เครื่องทำนํ้าอุ่นยอดพุ่ง

นายสินเมธ อิ่มเอม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ฟูจิตสึ เจเนอรัล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศภายใต้แบรนด์ “ฟูจิตสึ” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า  โครงการบ้านดีมีดาวน์ หนึ่งในมาตรการที่รัฐออกมาเพื่อช่วยลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัย ค่าผ่อนดาวน์ สนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองนั้น มองว่ามาตรการดังกล่าวถือว่าจะเป็นยาแรงที่เข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทยได้ถึง 2 เด้ง ไล่เลียงมาตั้งแต่มาตรการลดภาษี โอนบ้านในครั้งแรกและตามมาด้วย  “โครงการบ้านดีมีดาวน์” ที่ช่วยลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัย ค่าผ่อนดาวน์ ที่จะช่วยกระตุ้นและระบายสต๊อก เพื่อให้กลุ่มผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ได้ปล่อยขายโครงการในล็อตเก่าออกและสร้างการหมุนเวียนโครงการใหม่เกิดขึ้น

“ล่าสุดดัชนีการออกแบบอาคารในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2562 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาพบว่าลดลงกว่า 20% นั่นสะท้อนให้เห็นว่าในอนาคตเรื่องของภาคการก่อสร้างจะไม่โต จึงจำเป็นต้องมีการกระตุ้นเพื่อให้เกิดการซื้อขายในภาคอสังหาริมทรัพย์และเกิดการหมุนเวียน และมีโครงการใหม่เกิดขึ้น”

ทั้งนี้ในส่วนของกลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าประเมินว่า ตลาดเครื่องปรับอากาศจะเป็นกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้อานิสงส์มากที่สุด โดยเฉพาะในตลาดลูกค้าโครงการ  ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มลูกค้าโครงการได้รับอานิสงส์จากมาตรการดังกล่าวในสัดส่วน 10% จากที่มีสัดส่วนอยู่ 30% ในมูลค่าตลาดรวมเครื่องปรับอากาศกว่า 3 หมื่นล้านบาทของเมืองไทย ทั้งนี้ประเมินว่าในช่วงที่มีการจัดโครงการจะผลักดันให้ตลาดเครื่องปรับอากาศเติบโตเพิ่มขึ้น 3-5%

“หากพูดถึงตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าในวันนี้แต่ละเซ็กเมนต์อาจจะได้รับผลประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป เนื่องจากการซื้อบ้านและโอนบ้านในช่วงมาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงจำกัดประชาชนอาจจะมีการโอนบ้านในช่วงจัดแคมเปญเพื่อขอรับสิทธิ์  แต่ยังไม่มีการเข้าไปอยู่จริงจึงยังไม่มีการจับจ่ายมากนัก แต่ในส่วนของเครื่องปรับอากาศซึ่งส่วนใหญ่จะมีติดตั้งในทุกโครงการและทุกหลังอยู่แล้วจึงน่าจะมีการเติบโตสูงสุด”

ด้านนายพัลลภ เชี่ยวชาญวิทยเวช ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเซีย จำกัด ผู้ผลิตเครื่องทำนํ้าอุ่น นํ้าร้อน “สตีเบล เอลทรอน” จากประเทศเยอรมนี กล่าวว่า สำหรับมาตรการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายประเมินว่าจะช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในตลาดเครื่องทำนํ้าอุ่น หลังจากช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนที่ผ่านมาติดลบ 5% ซึ่งเป็นผลพวงจากสภาพอากาศที่ไม่หนาวและไม่เอื้อต่อการซื้อเครื่องทำนํ้าอุ่น ซึ่งคาดการณ์ว่าจากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลจะช่วยให้ภาพรวมตลาดนํ้าอุ่นกลับมาเติบโตได้ที่ 10% ในช่วงที่มีการจัดโครงการ หรือจะทำให้ตลาดโดยภาพรวมกลับมาเติบโตได้ที่ 5% ขณะที่อากาศที่เริ่มเย็นลงในช่วงนี้บวกกับการจัดแคมเปญของภาครัฐจะช่วยให้ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเติบโตเป็นอย่างดี

“มาตรการภาครัฐที่ช่วยผลักดันให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เติบโตได้ก็จะเป็นผลดีต่อกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ธุรกิจตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ซึ่งโดยส่วนตัวมั่นใจว่าจากมาตรการนี้จะสามารถช่วยให้ภาพรวมธุรกิจที่เกี่ยวข้องและกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี”

ทั้งนี้ในส่วนของบริษัทเองก็มีความพร้อมในการจับมือกับพันธมิตรทั้งในส่วนของห้างสรรพสินค้าคู่ค้าต่างๆ หรือแม้กระทั่งดีลเลอร์ต่างๆ ในการจัดแคมเปญโปรโมชัน เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนหรือโครงการต่างๆ ที่ต้องการซื้อเครื่องทำนํ้าอุ่นเข้าไปติดภายในบ้านหรือโครงการต่างๆ อยู่แล้ว

หน้า 30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,529 วันที่ 8-11 ธันวาคม 2562