นางบุศรินทร์ เกิดแก้ว ผู้ดูแลด้านการตลาด นํ้าตาลมะพร้าว “บ้านสวน” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการต่อยอดธุรกิจ เพื่อขยายฐานลูกค้าและเพิ่มรายได้ โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นลักษณะของไซรัป เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการดูแลสุขภาพ และกลุ่มคนทำงานที่ปัจจุบันหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลกันเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแบรนด์มองว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจ และยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมากในอนาคต จากเดิมที่จะมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นนํ้าตาลปี๊บ
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นการนำนํ้าตาลมะพร้าวแท้ 100% มาผ่านกระบวนการผลิตให้กลายเป็นไซรัป โดยจะมีปริมาณความหวานน้อยกว่านํ้าตาลปี๊บที่ทำมา
จากนํ้าตาลมะพร้าว เนื่องจากจะไม่ได้เข้มข้นเท่าและมีความใสของนํ้า แต่ยังคงกลิ่นความหอมของนํ้าตาลมะพร้าว ซึ่งผู้บริโภคสามารถนำไปผสมกับเครื่องดื่มประเภทชา หรือกาแฟได้ รวมถึงยังมีความสะดวกสบายในการนำไปปรุงอาหารประเภทต่างๆตามที่ต้องการ และยังช่วยในการควบคุมปริมาณนํ้าตาลให้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานได้อีกด้วย
“นํ้าตาลมะพร้าวจะมีค่าของดัชนีนํ้าตาล (Glycemic Index : GI) น้อยที่สุด โดยมีอยู่ที่ระดับประมาณ ซึ่งน้อยกว่านํ้าตาลทรายและนํ้าผึ้ง มีแคลอรีตํ่า โดยมีข้อมูลอ้างอิงมาจากสถาบันอาหารและโภชนาการประเทศฟิลิปปินส์ เพราะฉะนั้น จึงมีความเหมาะสมกับร่างกายของผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ ด้วยการควบคุมปริมาณนํ้าตาล”
ด้านกลยุทธ์การทำตลาดเพื่อเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายนั้น อาจจะมีการขยายเพิ่มเติมไปสู่ร้านที่จำหน่ายอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น เลมอนฟาร์ม เป็นต้น โดยคงไม่สามารถนำเข้าไปจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ได้ เนื่องจากกำลังการผลิตยังไม่เพียงพอ ซึ่งมาจากปริมาณนํ้าตาลมะพร้าวที่น้อยลง ทำให้ไม่สามารถควบคุมปริมาณ นํ้าตาลได้ โดยเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับทุกสวน เพราะนํ้าตาลมะพร้าวหมดงวง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากมีออร์เดอร์เข้ามาและไม่ได้ต้องการแบบเร่งด่วน ก็สามารถที่จะผลิตให้ได้แบบทยอยผลิต
“เราไม่มีหน้าร้านในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์แต่จะมุ่งเน้นบนช่องทางออนไลน์เป็นหลักทั้งเพจเฟซ บุ๊กส่วนตัวและเพจของร้าน โดยถือว่าเป็นช่องทางที่มีความสำคัญ และสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างทั่วถึงตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งปัจจุบันจะสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยที่ตนก็จะมีการพัฒนากลยุทธ์การทำตลาดบนช่องทางดังกล่าวนี้ให้มีประสิทธิภาพ มากขึ้น ทั้งการให้ความรู้ผู้บริโภคเกี่ยวกับนํ้าตาล และการจัดโปรโมชันเพื่อส่งเสริมการขาย”
นางบุศรินทร์ กล่าวต่อไปอีกว่า จากกลยุทธ์การทำตลาดดังกล่าวเชื่อว่าจะทำให้รายได้เติบโตขึ้นประมาณ 20-30% จากที่ผ่านมา โดยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์นํ้าตาลมะพร้าวบ้านสวน หากเป็นในส่วนของนํ้าตาลปี๊บจะอยู่ที่การใช้นํ้าตาลมะพร้าวแท้ในการผลิต ซึ่งจะไม่มีส่วนผสมของนํ้าตาลทราย หรือแบะแซ รวมถึงไม่มีการใส่สารฟอกสี และสารกันบูด ทำให้มีความหอมอร่อย คงความเป็นดั้งเดิมของนํ้าตาลมะพร้าว ขณะที่ในส่วนของไซรัปจะมีจุดเด่นเรื่องของความสะดวกสบายในการนำไปปรุงอาหารประเภทต่างๆ และผสมกับเครื่องดื่ม
สำหรับจุดมุ่งหมายหลักในการทำธุรกิจนั้น แน่นอนว่าย่อมมองไปที่ผลของกำไรที่จะได้กลับมา แต่ที่นอกเหนือไปจากนั้นก็คือการได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการช่วยชุมชนและเกษตรกรที่ทำสวนมะพร้าว โดยใช้วัตถุดิบจากชุมชนมาใช้ในการผลิต ซึ่งจะเลือกใช้ของสวนที่นํ้าตาลมะพร้าวเพียงพอที่จะสามารถแบ่งปันมาให้ได้ นอกเหนือไปจาก ออร์เดอร์ของสวนนั้นๆที่ได้รับเข้ามา
“ตนจะมีความได้เปรียบกว่าเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวทั่วไปในเรื่องของการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ เพราะมีงานหลักประจำที่มีความจำเป็นจะต้องใช้เทคโนโลยีดังกล่าวนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว รวมถึงยังคงมีโอกาสในการเรียนรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ และยังมีเครือข่ายที่กว้างขวาง ช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จัก และกระจายไปได้มากยิ่งขึ้น โดยบางสวนไม่มีช่องทางในการทำตลาด รอเพียงลูกค้าเข้ามาหาเองเท่านั้น ดังนั้น ตนจึงมีส่วนช่วยชุมชนได้ด้วยการรับซื้อวัตถุดิบมาแปรรูปต่อ”
หน้า 8 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3528 วันที่ 5-7 ธันวาคม 2562