การสร้างอิมแพ็กต์ให้ “อาเซียนเป็นจุดหมายปลายทางเดียวกัน” ภายใต้กลยุทธ์ ASEAN Tourism Strategic Plan 2016-2025 ซึ่งวันนี้การขับเคลื่อนแผนงานดังกล่าวไม่ได้เดินโดยภาครัฐเท่านั้น
ล่าสุดในการประชุม “อาเซียนต้า คอนเฟอร์เรนซ์ 2019” ที่พัทยา เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน-2 ธันวาคมที่ผ่านมา สมาคมท่องเที่ยวอาเซียน หรืออาเซียนต้า ซึ่งสมาชิกล้วนเป็นสมาคมด้านการท่องเที่ยวของ 10 ประเทศอาเซียน อาทิ สมาพันธ์บริษัทนำเที่ยวอาเซียน(FATA), International Hotel & Restaurant Association (IHRA) สายการบินหลักในอาเซียน ต่างชูธงร่วมกันส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งเดียว หรือ “ASEAN As One” กระตุ้นให้อาเซียนเที่ยวกันเอง และการโปรโมตตลาดระยะไกล อย่างยุโรป เที่ยวในอาเซียน
รับยุทธศาสตร์อาเซียน
“เราได้ริเริ่มโครงการส่งเสริมการตลาด ตลอดจนการเพิ่มศักยภาพบุคลากรด้านการท่องเที่ยวไปพร้อมๆกัน เพื่อให้เดินไปในทางเดียวกับ ปฏิญญาความร่วมมือยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวอาเซียน พ.ศ. 2559 - 2568 (ASEAN Tourism Strategic Plan) ของภาครัฐทั้ง 10 ประเทศ ซึ่งตั้งเป้าผลักดันให้อาเซียน สามารถเพิ่มมูลค่าต่อคนของนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศจาก 877 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 1,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ให้สำเร็จ ภายในปี 2568” นางมิ่งขวัญ เมธเมาลี ประธานสมาคมท่องเที่ยวอาเซียน (อาเซียนต้า)
ดังนั้นในปีหน้า อาเซียนต้า จะโฟกัสเรื่อง “ASEAN As One” และเตรียมจะผลักดันให้เกิดแคมเปญ “อาเซียน พลัส” เพื่อส่งเสริมให้อาเซียนเดินทางเที่ยวกันเอง (Intra ASEAN) ซึ่งอยู่ระหว่างหารือร่วมกับแอร์เอเชีย ทำแพ็กเกจ 3 วัน 2 คืน ตั๋วเครื่องบินรวมห้องพัก 2 คืน มองราคาเริ่มต้นที่ 350 ดอลลาร์สหรัฐฯ หวังกระตุ้นการเพิ่มวันพักเฉลี่ย 2 คืนต่อประเทศ คาดว่าน่าจะเปิดตัวได้ต้นปีหน้า และการผลักดันให้คนจากนอกอาเซียนเที่ยวอาเซียนเพิ่มขึ้น โดยเน้นโปรโมตการเดินทางเที่ยวเชื่อมโยงเพิ่มอีก 2-3 ประเทศต่อทริป และให้ความสำคัญเรื่อง ASEAN “B-Sustainability” หรือการท่องเที่ยวยั่งยืน
* หมายเหตุ : 10 ประเทศอาเซียนมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมกันอยู่ที่128 ล้านคน แยกเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนออกไป จะเห็นว่ามีคนจีนเดินทางเที่ยวอาเซียน28.3 ล้านคน
กระจายความเสี่ยงตลาด
การผสานความร่วมมือของเอกชนท่องเที่ยวใน 10 ประเทศ ภายใต้ “ASEAN As One” เอกชนยังมองว่าเป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยกระจายความเสี่ยงด้านการท่องเที่ยวไปพร้อมๆกัน เนื่องจากปัจจุบันท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก เบร็กซิท สงครามการค้าสหรัฐอเมริกา-จีน ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อด้านการท่องเที่ยวของอาเซียน โดยส่วนใหญ่หลายประเทศในอาเซียน ยกเว้นเวียดนาม กำลังเผชิญกับการลดลงหรือเติบโตแบบถดถอยของนักท่องเที่ยวจากตลาดระยะไกลอย่างยุโรป เพราะคนยุโรปเลือกจะเดินทางเที่ยวใกล้ๆมากกว่าบินมาระยะไกล เนื่องจากค่าเดินทางท่องเที่ยวที่ถูกกว่ามาก หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักของอาเซียน ซึ่งในปีที่ผ่านมามีคนจีนเที่ยวอาเซียนกว่า 28.3 ล้านคน ขณะที่มีนักท่องเที่ยวจากชาติอื่นรวมกันอยู่ที่ 102 ล้านคน จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเที่ยวอาเซียน 128 ล้านคน ซึ่งในปีนี้เห็นชัดเจนถึงการเติบโตของการท่องเที่ยวที่ถดถอยลง
ดังนั้น การกระตุ้นให้อาเซียนที่มีประชากรมากถึง 650 ล้านคนเที่ยวกันเอง จึงเป็นสิ่งที่หวังผลได้ และลดผลกระทบอันเกิดจากการถดถอยของตลาดการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี จากการกระจายตลาด เพื่อไม่ให้มีการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่งมากจนเกินไป เพราะหากตลาดไหนมีปัญหาก็จะกระทบต่อการท่องเที่ยวในภาพรวมของประเทศนั้นๆค่อนข้างมาก
“ปัจจุบันต้องยอมรับจากปัญหาเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้นักท่องเที่ยวยุโรปและจีน มาเที่ยวกัมพูชาลดลง ซึ่งก็เหมือนกับหลายประเทศในอาเซียน ดังนั้นบอร์ดของอาเซียนต้า จึงมุ่งที่จะผลักดันการรวมกันขายการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกัน เช่น การทำโปรแกรมเที่ยว 3 ประเทศ ไทย-กัมพูชา-ฟิลิปปินส์ ก็จะกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาเที่ยวอาเซียน รวมไปถึงการผลักดันให้คนอาเซียนเดินทางเที่ยวกันเองในอาเซียน ก็จะทำให้เกิดประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย อย่างคนกัมพูชาเข้ามาเที่ยวไทย และเราก็พยายามโปรโมตให้คนไทยมาเที่ยวกัมพูชา ซึ่งนอกจากเสียมเรียบและพนมเปญที่คนไทยรู้จักอยู่แล้ว ก็อยากโปรโมตเมืองอื่นๆให้คนไทยรู้จักมากขึ้น เช่น สตรึงแตรง,รัตนคีรี เป็นต้น” เจนดา ไคลส์ นายกสมาคมโรงแรมกัมพูชา กล่าว
MOUกับททท.บูมท่องเที่ยว
นอกจากนี้ในการประชุมครั้งนี้อาเซียนต้า ยังได้ลงนาม MOU ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกันด้วย
นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า การทำ MOU ที่เกิดขึ้น จะเน้นการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะแนวโน้มทางการตลาด ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวระหว่างกัน เพราะอาเซียนต้า ก็จะมุ่งผลักดันเรื่องของ “ASEAN As One” ก็จะเป็นโอกาสในการโปรโมตการท่องเที่ยวของอาเซียน
สำหรับประเทศไทย จะเห็นว่าตลาดนักท่องเที่ยวจากอาเซียน จัดมีการเติบโตที่ดี เนื่องจากระยะทางใกล้ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไม่สูงมาก การกระตุ้นตลาด เพื่อเพิ่มความถี่ในการเดินทางท่องเที่ยวก็จะเห็นผลได้เด่นชัด ซึ่งปีนี้ททท.คาดว่าไทยจะมีนักท่องเที่ยวจากเอเชียเพิ่มขึ้นไม่ตํ่ากว่า 10.5 ล้านคน ทั้งหมดเป็นภาพรวมในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวร่วมกันของอาเซียนต้าที่เกิดขึ้น
รายงาน โดย ธนวรรณ วินัยเสถียร
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,528 วันที่ 5-7 ธันวาคม 2562