สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุเมื่อ 29 พ.ย.62 ว่าบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เตรียมแยกธุรกิจเบียร์ออกมาขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ซึ่งอาจจะกลายเป็นการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์ในรอบเกือบ 10 ปีนับตั้งแต่การจดทะเบียนของบริษัท Hutchison Port Holdings Trust ในปี 2554 ซึ่งมีระดมทุนได้ไป 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ข่าวระบุว่า ไทยเบฟกำลังทาบทามบริษัทที่ปรึกษาที่จะเข้ามาช่วยดำเนินการนำหุ้นธุรกิจเบียร์เข้าตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ในครั้งนี้ มูลค่าที่บริษัทคาดหวังจากการระดมทุนดังกล่าวอาจจะอยู่ที่ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 300,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ท่ามกลางข่าวที่หลุดออกมาทำให้ราคาหุ้นของไทยเบฟในตลาดสิงคโปร์ช่วงปลายสัปดาห์นี้พุ่งขึ้น 5.2% ซึ่งพุ่งสูงสุดในรอบ 3 เดือน
หากพิจารณาจากมูลค่าการระดมทุนที่คาดไว้ 10,000 ล้านดอลลาร์ในเบื้องต้นนี้ นั่นจะทำให้ธุรกิจเบียร์ของไทยเบฟขึ้นอยู่แถวหน้าของบริษัทเบียร์รายใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชีย อาทิ ชิงเต่า บริวเวอรี่ ของจีน ทั้งนี้ ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา บริษัท บัดไวเซอร์ บริว อิ้งค์ ซึ่งเป็นบริษัทในเอเชียภายใต้เครืออันฮอยเซอร์-บุช อินเบฟ จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงโดยระดมทุนได้ 5,000 ล้านดอลลาร์ นับเป็นการทำ IPO ขนาดใหญ่อันดับ 4 ของโลกในปีนี้
แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า การแยกนำหุ้นธุรกิจเบียร์เข้าตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ครั้งนี้อาจครอบคลุมถึงธุรกิจเบียร์ของไทยเบฟในประเทศไทยและเวียดนามด้วย
นอกเหนือจาก ‘เบียร์ช้าง’ ที่เป็นสินค้าหลักที่คนทั่วไปรู้จักกันมากที่สุดแล้ว “ไทยเบฟ” ยังมีเบียร์แบรนด์อื่นๆ อีก เช่น อาชา (Archa) และเฟดเดอร์บรอย (Federbrau) และก่อนหน้านี้ในปี 2560 บริษัทในเครือของไทยเบฟที่เวียดนาม ยังได้เข้าซื้อหุ้นใหญ่ของบริษัท ซาเบโก (Sabeco) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนาม ในราคา 4,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ขณะที่การบริโภคเบียร์ในตลาดใหญ่ที่อิ่มตัวแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และจีน จะไม่มีการเติบโตเลยหรือหดตัวลง แต่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลับมีการเติบโตที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก ข้อมูลจาก Euromonitor International ชี้ว่า ชนชั้นกลางและประชากรวัยหนุ่มสาวที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นของเวียดนาม ทำให้ความต้องการบริโภคเบียร์ในเวียดนามเพิ่มขึ้นในอัตราถึง 300% ระหว่างปี 2545-2560
หุ้นของไทยเบฟ เพิ่มขึ้น 43% ในการซื้อขายที่สิงคโปร์ในปีนี้จนถึงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (28 พ.ย.) ทำให้มูลค่าตลาดของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราวๆ 4.8 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความแน่นอนเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นข่าวนี้ และตัวแทนของไทยเบฟฯ ก็ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นแก่บลูมเบิร์ก
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในเช่นกันว่า บริษัทไทยเบฟ มีแผนจะเสนอขายหุ้นธุรกิจเบียร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แก่สาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในตลาดสิงคโปร์ภายในปีหน้า (2563) โดยคาดว่าจะระดมเงินได้ราว 2,000-3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด ทั้งนี้ หลังจากมีข่าวดังกล่าวออกมาหุ้นของบริษัทถูกสั่งระงับการซื้อขายชั่วคราว หลังจากทะยานขึ้นถึง 5.2% วันนี้ (29 พ.ย.)
จากข้อมูลของ Refinitiv ผู้ให้บริการข้อมูลด้านตลาดการเงิน ระบุว่าหากไทยเบฟระดมเงินได้เกิน 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะทำให้การทำ IPO ครั้งนี้เป็นครั้งที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 6 ปีของตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ และหากระดมเงินได้มากกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯขึ้นไป ไทยเบฟจะขึ้นแท่นเป็นบริษัทที่ระดมเงินได้มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2553