เปิดมุมคิด วิชา พูลวรลักษณ์ ขับเคลื่อนMajor5.0ดันหนังไทยสู่ Tollywood

30 พ.ย. 2562 | 07:25 น.

“เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” ครบรอบ 25 ปี เดินธุรกิจภายใต้นโยบาย Major 5.0 มุ่งเน้นนวัตกรรมและเทคโนโลยี ตั้งเป้าภายในปี 2568 เปิดโรงภาพยนตร์ครบ 1,200 โรง ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมดันหนังไทยโกอินเตอร์ในรูปแบบ Tollywood

 

ในวันนี้เมื่อพูดถึงโรงภาพยนตร์ชั้นนำในประเทศไทยที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดแล้วคงไม่มีใครไม่รู้จัก “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” เมเจอร์ ในวัยเบญจเพส ความสำเร็จที่ก้าวมาไกลนี้ เกิดขึ้นไม่ได้หากขาดผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ ล้ำหน้าและสู้ไม่ถอยอย่าง “วิชา พูลวรลักษณ์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) และนี่คือบทสัมภาษณ์ที่ “ฐานเศรษฐกิจ” นำมาถ่ายทอด

เปิดมุมคิด  วิชา พูลวรลักษณ์  ขับเคลื่อนMajor5.0ดันหนังไทยสู่ Tollywood

จากโรงหนังสู่เอ็นเตอร์เทนเมนต์

 “วิชา” เล่าให้ฟังว่า การสืบทอดธุรกิจโรงภาพยนตร์จากพ่อสู่ลูกเป็นไปอย่างยาวนานกว่า 40 ปี และในยุคนี้เป็นการดำเนินงานในเจเนอเรชันที่ 2 หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2537 เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ได้เริ่มกำเนิดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “World Best Cinema and Entertainment Complex” พร้อมขับเคลื่อนกลยุทธ์โดยการตลาดนำธุรกิจ

 

แม้ครอบครัวของ “วิชา” จะมาจากการทำธุรกิจโรงหนังก็ตาม แต่ด้วยการแข่งขันของตลาดโรงภาพยนตร์ในช่วงหลายสิบปีก่อนในเมืองไทยต้องเจอกับการแข่งขันที่ดุเดือด โดยเฉพาะกลุ่มนายทุนต่างชาติเงินหนาหลายรายที่มาลงแข่งขันในเกมนี้ แต่วันนั้น “วิชา” กลับมองว่าเราไม่สามารถสู้กับเงินทุนที่เขามีมหาศาลได้ แต่สามารถสู้ด้วย “ไอเดีย” ได้ จึงเป็นที่มาของการปรับธุรกิจจากโรงภาพยนตร์ธรรมดา สู่การเป็นโรงภาพยนตร์ มัลติเพล็กซ์ ที่ให้บริการความบันเทิงครบวงจร อาทิ ร้านอาหาร โบว์ลิ่ง คาราโอเกะ ฯลฯ รวมไว้ในที่เดียวกัน

เปิดมุมคิด  วิชา พูลวรลักษณ์  ขับเคลื่อนMajor5.0ดันหนังไทยสู่ Tollywood

ปัจจุบันเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป มีโรงภาพยนตร์อยู่ใน 60 จังหวัด ซึ่งสามารถเข้าถึงในระดับอำเภอ และตำบล พร้อมทั้งในช่วงที่ผ่านมาเมเจอร์ได้วางแผนขยายสาขาโรงภาพยนตร์เพิ่มไปอีก 17 จังหวัด ที่ยังไม่มีโรงภาพยนตร์เพื่อให้ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน, แพร่, กาฬสินธุ์, บึงกาฬ, เลย, สุรินทร์, อำนาจเจริญ, ชัยนาท, อุทัยธานี, นครนายก, สมุทรสงคราม, ตราด, ภูเก็ต, ตรัง, ยะลา, นราธิวาส, ปัตตานี และภายในสิ้นปี 2562 เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จะมีสาขารวมทั้งสิ้น 169 สาขา 810 โรง แบ่งเป็น สาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 46 สาขา 355 โรง ต่างจังหวัด 115 สาขา 416 โรง และต่างประเทศ 8 สาขา 39 โรง

เปิดมุมคิด  วิชา พูลวรลักษณ์  ขับเคลื่อนMajor5.0ดันหนังไทยสู่ Tollywood

 

ชูนวัตกรรมนำ Major 5.0

 “วิชา” บอกว่า เป้าหมายของเมเจอร์คือ การขยายโรงภาพยนตร์ทั้งในประเทศและกลุ่มประเทศ CLMV ให้ได้ 1,200 โรง ในปี 2568 โดยในปี 2563 เมเจอร์วางแผนการลงทุนขยายสาขาเพิ่มอีก 30 โรง อาทิ เมเจอร์ ซีนีมา โลตัส หาดใหญ่ สงขลา, เมเจอร์ ซีนีมา Mark 4 แพร่, เมเจอร์ ซีนีมา โลตัส พะเยา ฯลฯ อีกทั้งในโอกาสที่เดินทางครบรอบ 25 ปีของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จึงได้ประกาศนโยบายใหม่ คือ Major 5.0 ที่มุ่งเน้นการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ลํ้าสมัยเข้ามา อาทิ โรงภาพยนตร์ ไอแมกซ์ จอยักษ์ 3 มิติ, 4DX, Screen X, LED Cinema Screen, Esports, Kids Cinema, ระบบฉายแบบดิจิทัล, ระบบฉายแบบเลเซอร์ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็น Movie Experience

 

อัพอุตฯหนังไทยสู่ตลาดโลก

นอกจากนี้ไม่เพียงแต่ธุรกิจโรงภาพยนตร์เท่านั้นที่ “วิชา” ให้ความสำคัญ แต่ยังมีเป้าหมายใหม่คือการยกระดับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้ได้มาตรฐานเป็น Tollywood (Thailand+Hollywood) เพิ่มเติมเพราะมองว่าหากประเทศไทยสามารถผลักดันส่งภาพยนตร์ไทยออกขายไปยังตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเป้าหมายหลัก คือ จีน และกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ เมียนมา, เวียดนาม, กัมพูชา, ลาว, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, มาเลเซีย, บรูไน, ฟิลิปปินส์ รวมถึง ส่งภาพยนตร์ไทยให้บริการบนสายการบิน อาทิ Thai Airways, Hong Kong Airlines, Oman Air และบนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Netflix ได้จะทำให้ภาพยนตร์ไทยสามารถมีช่องทางตลาดเก็บรายได้เพิ่มมากขึ้น

เปิดมุมคิด  วิชา พูลวรลักษณ์  ขับเคลื่อนMajor5.0ดันหนังไทยสู่ Tollywood

“อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยได้รับการยอมรับจากตลาดต่างประเทศมากขึ้น ทำให้ไม่เพียงแต่การส่งออกภาพยนตร์ไทยไปฉายในต่างประเทศเท่านั้น แต่ดาราไทยหลายคนก็ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก มีดาราไทยไม่น้อยที่ออกไปสร้างชื่อเสียงในตลาดฮอลลีวูด ประเทศจีน และเกาหลี เป็นต้น ซึ่ง เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ได้ดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร ทั้ง โรงภาพยนตร์ และพร้อมเดินหน้าสนับสนุนการสร้างภาพยนตร์ไทยอย่างเต็มที่ เพื่อให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ของบ้านเรามีการเติบโตมากยิ่งขึ้นและพัฒนาเป็น Tollywood ต่อไป”

หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3526 ระหว่างวันที่ 28 - 30 พฤศจิกายน 2562