"โอเรียนท์ สตาร์" ส่ง อินฟลูเอนเซอร์ รุกตลาดนาฬิกาหรู

21 พ.ย. 2562 | 12:24 น.

 “โอเรียนท์ สตาร์” แบรนด์นาฬิกาสุดหรูจากญี่ปุ่นบุกตลาดนาฬิกาออโตเมติกในไทย เปิดตัวนาฬิกา สปอร์ต  2 คอลเลคชั่นใหม่ นาฬิกาดำน้ำ  และ นาฬิกาแบบ Semi Skeleton เจาะกลุ่มลูกค้าผู้ชายไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ พร้อมดึงอินฟลูเอนเซอร์ สื่อสารภาพลักษณ์เสริมแกร่งตลาดนาฬิกาหรู

"โอเรียนท์ สตาร์" ส่ง อินฟลูเอนเซอร์ รุกตลาดนาฬิกาหรู

นายคิมิโนริ ไซโต้ ผู้จัดการ โอเรียนท์ สตาร์ เปิดเผยว่า ในฐานะที่ โอเรียนท์ สตาร์ เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดนาฬิกาข้อมือระบบออโตเมติก (automatic) และเป็นหนึ่งในสามแบรนด์นาฬิกาออโตเมติกที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศญี่ปุ่น จึงมองเห็นศักยภาพและโอกาสเติบโตของตลาดนาฬิกาลักซ์ชัวรี่ในประเทศไทย ที่นับว่าเป็นตลาดใหญ่ จึงได้นำนาฬิกาข้อมือคอลเลคชั่นใหม่ทั้ง 2 รุ่นมาเปิดตัวในประเทศไทย

"โอเรียนท์ สตาร์" ส่ง อินฟลูเอนเซอร์ รุกตลาดนาฬิกาหรู

สำหรับนาฬิกาข้อมือ 2 คอลเลคชั่นใหม่ ได้แก่ นาฬิกาดำน้ำ (Diver) รุ่น RE-AU03 (28,000 - 29,500 บาท) จะมีด้วยกัน 3 แบบ ซึ่งจะมีให้เลือกทั้งแบบสายหนัง และสายซิลิโคน โดยความพิเศษของรุ่นนี้ คือดีไซน์ได้แรงบันดาลใจมาจากรุ่น “King Diver” ที่ผลิตในช่วงปี 60 โดยได้ผสมผสานเทรนด์นาฬิกายุโรป ด้วยหลักเวลาเรืองแสงที่สามารถมองเห็นได้แม้อยู่ในน้ำทะเลลึก โดยจะสามารถกันน้ำได้ถึง 200 เมตร  และ นาฬิกาแบบ Semi Skeleton รุ่น RE-AT01  (32,500 – 34,000 บาท) ที่มีด้วยกัน 5 แบบ และมีสายให้เลือก 2 แบบ คือ สายหนัง และสายเหล็ก ความสวยงามอยู่บนหน้าปัดนาฬิกาที่เล่นระดับแบบ 2 ชั้น และเข็มนาฬิกาเรืองแสง พิเศษกับรุ่น Black Edition ที่มาในแบบตัวเรือน PVD พร้อมกับสายหนังแท้สีดำ ผลิตแบบจำนวนจำกัดเพียง 700 เรือน  

"โอเรียนท์ สตาร์" ส่ง อินฟลูเอนเซอร์ รุกตลาดนาฬิกาหรู

ด้านนายยุทธพล ตันติวงษากิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหกรุงทอง เทรดดิ้ง จำกัด ตัวแทนจำหน่าย แบรนด์นาฬิกา Orient Star และ Orient  ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เปิดเผยว่า “โอเรียนท์ สตาร์ เป็นแบรนด์นาฬิกาเก่าแก่ที่จะก้าวเข้าสู่ปีที่ 70 ในปี 2564 นี้ โดย โอเรียนท์ สตาร์ ได้วางจำหน่ายในประเทศไทยมานานกว่า 50 ปี ทำให้แบรนด์มีฐานลูกค้าคนไทยที่ให้ความเชื่อมั่นในมาตรฐานของแบรนด์อย่างเหนียวแน่น แต่ที่ผ่านมาแบรนด์ไม่ได้มีแผนการทำการตลาดในประเทศไทย จึงอาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง วันนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ผันผวน บริษัทในฐานะตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาที่ดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน มองว่าตลาดนาฬิกาข้อมือในกลุ่มลักซ์ชัวรี่ยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และมีแนวโน้มที่จะเติบโต เพราะกลุ่มลูกค้ายังคงมีกำลังซื้ออยู่  โดยผู้บริโภคในกลุ่มนี้ยังคงมองหาสินค้าที่แตกต่างเพื่อแสดงตัวตนของตัวเอง บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสที่จะขยายฐานลูกค้าผ่านการสื่อสารทางการตลาดที่เน้นเข้าถึงไลฟ์สไตล์ผู้ชายยุคใหม่ในช่วงอายุ 25 – 50 ปี ที่มีความสนใจที่หลากหลาย

"โอเรียนท์ สตาร์" ส่ง อินฟลูเอนเซอร์ รุกตลาดนาฬิกาหรู

“เราเชื่อว่าด้วยราคาที่อยู่ระหว่าง 20,000 – 40,000 บาท กลุ่มลูกค้าเรายังเป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ (Hi-end) ที่มองหานาฬิกาข้อมือเรียบหรูสะท้อนตัวตนและความเป็นตัวตนที่จะสามารถใส่ได้ในทุกวัน”

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนทางการตลาด ที่มุ่งเน้นในเรื่องของการสร้างแบรนด์ (Brand Character) ผ่านกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ที่ตรงกับคาแรคเตอร์ของแบรนด์ และสะท้อนไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้า เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น  โดยจะเน้นสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก รวมทั้งยังมีแผนจัดกิจกรรมอื่นๆ อาทิ การทำเวิร์คช้อป หรือร้าน pop-up เป็นต้น โดย เราเชื่อว่าหากลูกค้าเข้าใจตัวตนของแบรนด์แล้ว คงไม่ยากที่ โอเรียนท์ สตาร์ จะครองใจทุกคน” 

"โอเรียนท์ สตาร์" ส่ง อินฟลูเอนเซอร์ รุกตลาดนาฬิกาหรู

อย่างไรก็ตามปัจจุบันสัดส่วนทางการตลาดของตลาดนาฬิกาในประเทศไทย ในส่วนของนาฬิกาแบบ Traditional แบ่งได้เป็น 4 กลุ่ม ตามราคา ได้แก่ กลุ่มนาฬิกาลักซ์ชัวรี่ ราคาจะอยู่ที่ 500,000 บาทขึ้นไป คิดเป็น 20%, กลุ่มนาฬิกาไฮเอนด์  ที่อยู่ในช่วงราคา 100,000 – 500,000 บาท ประมาณ 35%, กลุ่มมิดเอนด์ 20,000 – 100,000 บาท 30% และกลุ่มที่เป็นแฟชั่น เทรนด์ ในช่วงราคา 5,000 – 20,000 บาท จะอยู่ที่ประมาณ 15% สำหรับตลาดใหม่อย่าง กลุ่มนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ จะมีส่วนที่ซ้อนทับกันอยู่บ้าง เพราะจะมีผู้บริโภคบางกลุ่มที่มีทั้งนาฬิกาปกติทั่วไปและมีนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ สำหรับกิจกรรมเฉพาะทางด้วย