“สุวรรณภูมิ”ลดแออัด เปลี่ยนจุดตรวจในปท.

21 พ.ย. 2562 | 11:11 น.

           นับจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนจุดตรวจค้นผู้โดยสารภายในประเทศใหม่ มาเป็นระบบ Concourse Screening ตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยได้ย้ายจุดตรวจค้นผู้โดยสารภายในประเทศ จากเดิมที่อยู่บริเวณอาคารผู้โดยสาร ชั้น 4 และจุดตรวจค้นผู้โดยสารผ่านและเปลี่ยนลำจากต่างประเทศไปภายในประเทศ (INTER to DOM) บริเวณ Concourse B ชั้น 2  ปรับใหม่มาอยู่บริเวณจุดตรวจค้นอาคารเทียบเครื่องบิน A และ อาคารเทียบเครื่องบิน B (Concourse A และ B) ชั้น 2 และ ชั้น 3  ก็พบว่าทำให้เกิดการไหลเวียนของผู้โดยสารได้อย่างคล่องตัวขึ้น ลดความแออัด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับผู้โดยสารมากยิ่งขึ้น

“สุวรรณภูมิ”ลดแออัด  เปลี่ยนจุดตรวจในปท.
             นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 1) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ย้ายจุดตรวจค้นผู้โดยสารภายในประเทศ ไปยังจุดใหม่ ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน 2562

“สุวรรณภูมิ”ลดแออัด  เปลี่ยนจุดตรวจในปท.

        การดำเนินการปรับเปลี่ยนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่งผลให้การไหลเวียนผู้โดยสารมีความคล่องตัวมากขึ้น เนื่องจากผู้โดยสารกระจายไปยังบริเวณจุดตรวจค้นอาคารเทียบเครื่องบิน A และ อาคารเทียบเครื่องบิน B (Concourse A และ B) ชั้น 2 และ ชั้น 3
           สำหรับพื้นที่ตรวจค้นผู้โดยสารผ่านและเปลี่ยนลำจากต่างประเทศไปภายในประเทศ (INTER TO DOM) ซึ่งจากเดิมตั้งอยู่บริเวณ Concourse B ชั้น 2 ที่กีดขวางแนวทางเดิน ได้ทำการรื้อออกเรียบร้อยแล้วทำให้เพิ่มพื้นที่สัญจรให้กับผู้โดยสาร และได้เปลี่ยนป้ายบอกทิศทางภายใน Concourse A และ B ใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเดินไปยังจุดตรวจค้นที่ทำการปรับเปลี่ยนใหม่ได้อย่างถูกต้อง ไม่สับสนเส้นทาง และยังได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์คอยช่วยเหลือแนะนำเส้นทางแก่ผู้โดยสาร

“สุวรรณภูมิ”ลดแออัด  เปลี่ยนจุดตรวจในปท.
         นอกจากนี้การปรับเปลี่ยนจุดตรวจค้นฯ ทำให้ผู้โดยสารขาออกที่ผ่านการตรวจค้นแล้วกับผู้โดยสารขาเข้าที่ยังไม่ได้ผ่านการตรวจค้นไม่เกิดการปะปนกัน ในส่วนของการรักษาความปลอดภัย ทสภ. ยังคงถือปฏิบัติตามมาตรการการรักษาความปลอดภัยตลอดจนมาตรการการตรวจค้นผู้โดยสารและสัมภาระอย่างเคร่งครัดเช่นเดิม เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และข้อกำหนดของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.)