เมื่อ 2 ปีก่อน “เอส” ธนาวัฒน์ โพธิ์เผื่อนน้อย กรรมการผู้จัดการ บริษัทพี.พี.เอ็น.ฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตนํ้าพริกสำเร็จรูปในแบบทานพอดีมื้อ ตามแบบฉบับนํ้าพริกมินิสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์ “รุ่งเจริญ” ออกมาประกาศชัดเจน ถึงอานิสงส์ที่ได้รับหลังจากคำสั่งซื้อทะลัก ผลิตน้ำพริกออกสู่ตลาดไม่ทัน ครั้งนั้นต้องประกาศแผนลงทุนเพิ่ม โดยขยายพื้นที่ผลิตน้ำพริกออกสู่ตลาดจำนวนมากขึ้น ในย่านบางปู จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ รสชาติใหม่ และโปรดักต์ใหม่เพิ่มขึ้น และศึกษาสูตรใหม่รอไว้ล่วงหน้า ดูจังหวะเหมาะพร้อมเปิดตัว
เอส” เปิดใจผ่าน “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงเบื้องหลังความสำเร็จในยุคเจเนอเรชัน 2 ว่า ทุกอย่างยึดตามแนวเดิมที่ผู้ใหญ่เดินไว้ทั้งสูตร รสชาติ และความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ยังดำเนินรอยตามรุ่นบุกเบิกมาอย่างต่อเนื่องเกือบทุกอย่าง เพราะมั่นใจว่าตลอด 40 ปีกับนํ้าพริก “รุ่งเจริญ” ทำให้ได้รับการยอมรับจากลูกค้าอย่างยาวนานแสดงว่าลูกค้าพอใจกับคุณภาพนํ้าพริก
อีก 5 ปียอดโตแน่ 100 ล้าน
นํ้าพริก “รุ่งเจริญ” มีความสามารถในการผลิตได้ 3-5 ล้านถ้วยต่อเดือน แต่ปัจจุบันผลิตได้จริงอยู่ที่ 2.5 ล้านถ้วยต่อเดือน “เอส” ตั้งเป้าว่าอีกไม่เกิน 3 ปีนับจากนี้ไปจะผลิตได้เต็มเพดาน และคาดว่าจะมีระดับการเติบโตของยอดขายสูงขึ้นจากที่ปี 2561 มียอดขายอยู่ที่ 70 ล้านบาทต่อปี และจะเพิ่มเป็น 80 ล้านบาทต่อปี ในปี 2562 นี้ นอกจากนี้ยังคาดการณ์ต่ออีกว่า อีกไม่เกิน 5 ปีนับจากนี้ไป บริษัทจะมียอดขายเติบโตถึง 100 ล้านบาท
ปัจจุบันนํ้าพริกที่ผลิตออกมามีจำนวน 14 ชนิด 14 รสชาติ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ แบบ “นํ้าพริกมินิ” ขนาดพอดีรับประทาน ไล่ตั้งแต่นํ้าพริกนรก, นํ้าพริกนรกแมงดา, นํ้าพริกแมงดา,
นํ้าพริกตาแดง, นํ้าพริกกุ้งสวรรค์, นํ้าพริกปลาร้าทรงเครื่อง, นํ้าพริกปลาย่าง, นํ้าพริกปลาดุกฟู, นํ้าพริกนรกกุ้ง, นํ้าพริกเผา, นํ้าพริกเผานรกเจ, นํ้าพริกตาแดงเจ, นํ้าพริกเผาเจ ทั้งหมดนี้ถูกแพ็กเป็นนํ้าพริกมินิขนาดนํ้าหนัก 12 และ 20 กรัม และแบบที่ 2 เป็นแบบกระปุกมีขนาด 50 กรัม, 90 กรัมและ 500 กรัม เป็นนํ้าพริกกุ้งเสียบ และกลุ่มที่ทำรายได้ดีที่สุดจะมาจากนํ้าพริกนรก สินค้าทั้งหมดจะขายในประเทศ 90% และส่งออก 10% ไปจีน อเมริกา และตลาดอาเซียน โดยมีช่องทางในการจำหน่ายหลากหลายขึ้น (ดูกราฟิก)
ดันยอดขายสู่ช่องทางใหม่
นํ้าพริก “รุ่งเจริญ” ตั้งเป้าว่ารายได้ส่วนใหญ่ยังให้นํ้าหนักจากการขายในรูปแบบเดิม เช่น ขายในห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านค้าส่ง และรับจ้างผลิต(โออีเอ็ม) โดยใช้แบรนด์ลูกค้าที่บรรจุลงในรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่ลูกค้าต้องการ รวมถึงการขยายตลาดไปสู่ช่องทางใหม่ๆมากขึ้น เช่น ผลิตในปริมาณที่มากขึ้นเพื่อป้อนภัตตาคาร ร้านอาหาร หรือโรงงานอุตสาหกรรมอาหาร รวมถึงการขายผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นต้น
นอกจากนี้บริษัทมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเน้นการผลิตที่มีนวัตกรรมมากขึ้นที่พร้อมออกสู่ตลาด เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าโดยล่าสุดเพิ่งเปิดตัวนํ้าพริกสำหรับรับประทานเป็นอาหารว่าง ในรูปของนํ้าพริก-ข้าวพอง ขายคู่กัน และในปี 2563 กำลังพัฒนาสินค้าตัวใหม่ในรูปของข้าวคลุกนํ้าพริกพร้อมรับประทาน และพัฒนานํ้าพริกที่บรรจุลงในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จากปัจจุบันบรรจุลงในถ้วยพลาสติกก็จะพัฒนาไปสู่รูปแบบใหม่ออกมา โดยมีความพร้อมด้านวัตถุดิบรองรับ ทั้งพริก กระเทียม ปลา กุ้งแห้ง มะขาม ที่ส่วนใหญ่ส่งเสริมโดยการซื้อจากชุมชนในจังหวัดสมุทรปราการ สมุทรสาคร และระนอง เป็นหลัก
ส่วนกุญแจสู่ความสำเร็จนอกจากเดินตามรอยผู้บุกเบิกหลังรับไม้ต่อจากรุ่นพ่อ (จำเริญ โพธิ์เผื่อนน้อย) ผู้สร้างตำนานนํ้าพริก “รุ่งเจริญ” จนติดตลาดแล้ว “เอส” ยังมีหลักประจำใจในการทำธุรกิจ คือการไม่หยุดที่จะพัฒนา โดยมองว่าการทำธุรกิจใดก็ตามต้องมีความมุ่งมั่นและพัฒนาอยู่ตลอดเวลาจึงจะไปต่อได้
หน้า 8 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3523 วันที่ 17-20 พฤศจิกายน 2562