ปรับโฉม‘โอเรียนเต็ล’2.7พันล. เนรมิต301ห้องรับทัวริสต์ไฮเอนด์

16 พ.ย. 2562 | 02:30 น.

 

อิตัลไทยเปิดตัวโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ โฉมใหม่ หลังทุ่มงบกว่า 2.7 พันล้านบาท รีโนเวตครั้งใหญ่ รองรับการขยายตัวของธุรกิจริม 2 ฝั่งแม่นํ้า เจ้าพระยา โดยเอาต์เลตอาหารและบาร์รวม 11 แห่งพร้อมเปิดให้บริการแล้ว ส่วนห้องพักโซน ริเวอร์ วิงค์ เริ่มทยอยเปิด คาดแล้วเสร็จทั้งหมด 301 ห้อง Q2 ปีหน้า

โรงแรมแมนดาริน โอเรียน เต็ล กรุงเทพฯ แม้จะไม่ได้ถูกจัดอยู่ใน 6 กลุ่มธุรกิจของกลุ่มบริษัทอิตัลไทย จำกัด แต่ได้แยกธุรกิจออกมาต่างหาก ภายใต้การดำเนินธุรกิจของบริษัท โอเอชทีแอล จำกัด (มหาชน) หรือ OHTL หลังจากใช้เวลากว่า 8 เดือนที่ผ่านมา (นับจากเดือนมีนาคม 2562) ปรับปรุงโรงแรมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ 143 ปี ของโรงแรม โดยลงทุนไปกว่า 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 2,700 ล้านบาท ในขณะนี้พร้อมทยอยเปิดให้บริการแล้ว เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มไฮเอนด์ รับช่วงไฮซีซันนี้

ทั้งนี้โฉมใหม่ของอาคารริเวอร์ วิงค์ ซึ่งเป็นอาคารห้องพักหลักของโรงแรม หลังการปรับปรุงเสร็จ จะมีห้องพักอยู่ที่ 301 ห้อง ลดลงจากเดิมที่ อยู่ที่ 338 ห้อง เนื่องจากห้องพักในอาคารริเวอร์ วิงค์  ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงสร้างห้องใหม่ เพิ่มจำนวนห้องสวีต และขยายพื้นที่ห้องพักให้กว้างขวางขึ้น ซึ่งหากรวมกับห้องพักในส่วนอาคาร ดิ ออเธอร์ส วิงค์ และการ์เด้น วิงค์ ที่ได้ปรับปรุงไปแล้วเมื่อปี 2559 ก็จะทำให้ปัจจุบันโรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล กรุงเทพฯ จะมีจำนวนห้องพักทั้งหมด 331 ห้อง


 

 

 

อย่างไรก็ตามห้องพักในอาคารริเวอร์ วิงค์ จะเริ่มทยอยเปิดให้บริการแล้ว โดยโรงแรมได้จัดแพ็กเกจห้องพักราคาพิเศษ ในช่วงเปิดตัว ราคาเริ่มต้น 2.98 หมื่นบาทต่อคืน  และคาดว่าจะเปิดให้บริการห้องพักในอาคารนี้ทั้งหมด 100% ภายในช่วงไตรมาส 2 ปีหน้า

 

ปรับโฉม‘โอเรียนเต็ล’2.7พันล.  เนรมิต301ห้องรับทัวริสต์ไฮเอนด์

 

นอกจากนี้การปรับปรุงดังกล่าว ยังรวมถึงพื้นที่ในส่วนของห้องอาหารและบาร์ ที่ถูกปรับปรุงใหม่หมด ซึ่งหลังการปรับปรุง ทำให้โรงแรมจะมีห้องอาหารและบาร์ จำนวนรวมกว่า 11 เอาต์เลต ซึ่งในขณะนี้พร้อมเปิดให้บริการแล้ว ไม่ว่าจะเป็นห้องอาหารเดิมอันเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว อย่าง ห้องอาหาร ลอร์ด จิมส์, ห้องอาหาร เดอะ เวอร์รันด้า, ห้องอาหาร ริเวอร์ไซด์ เทอเรซ ทางโรงแรมยังมีการเปิดตัวห้องอาหารใหม่ ที่เป็นห้องอาหารญี่ปุ่น คินู บาย ทาคากิ ซึ่งให้บริการตามธรรมเนียมอย่างไคเซกิ ให้บริการ 10 คนต่อมื้อเท่านั้น จากการรังสรรค์เมนูโดยได้เชฟระดับ 2 ดาวมิชลิน ทาคากิ  คาซูโอะ ผู้โด่งดังด้านการปรุงอาหารดั้งเดิมจากเมืองโกเบประเทศญี่ปุ่น

รวมถึงบริเวณล็อบบี้ของโรงแรม ที่จัดว่าเป็น ICONIC ที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูป ก็ได้รับการตกแต่งภายในรูปแบบใหม่ ประดับด้วยสิ่งลํ้าค่าดั้งเดิมที่ถูกดัดแปลงและนำกลับมาจัดวางใหม่สวยงาม

 

นายเกร็ก ลิดเดล ผู้จัดการใหญ่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 143 ปีที่ผ่านมา โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ แห่งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ซึ่งมีชีวิตชีวา การปรับ ปรุงอาคาร ริเวอร์ วิงค์ เป็นการปรับปรุงทางด้านสถาปัตยกรรม และการออกแบบตกแต่งภายในให้สอดคล้องกับการตกแต่งที่งดงามของอาคารประวัติศาสาตร์ ดิ ออเธอร์ส วิงค์ และการ์เด้น วิงค์ ผมเชื่อว่าเราจะยังคงเป็นหนึ่งในโรงแรมระดับตำนานของโลกต่อไป พนักงานทุกคนมุ่งมั่นที่จะมอบบริการที่เป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของ แมนดาริน โอเรียนเต็ล เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าและคอยต้อนรับอย่างอบอุ่นแบบไทย ซึ่งได้ดำเนินการปรับปรุงทุกอย่างให้แล้วเสร็จสมบูรณ์พร้อมต้อน รับนักท่องเที่ยว

โรงแรม แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ มีชื่อเสียงในตำนานด้านการบริการด้วยอัธยาศัยไมตรีอย่างสุภาพต้อนรับลูกค้าโดยมีพนักงานทั้งหมด 1,300 คน คอยให้บริการลูกค้า 1 คน ด้วยพนักงาน 4 คน (4:1) ซึ่งถือว่า เป็นจำนวนพนักงานที่สูงเป็นที่สุดในกรุงเทพฯ ด้วยการให้บริการจากพนักงานที่ทำงานมาอย่างยาวนานโดยเฉลี่ย 14 ปี ทำให้โรงแรมจึงขึ้นชื่อในเรื่อง ของการให้บริการที่ดีที่สุด

 

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,522 วันที่ 14-16 พฤศจิกายน 2562

ปรับโฉม‘โอเรียนเต็ล’2.7พันล.  เนรมิต301ห้องรับทัวริสต์ไฮเอนด์