กล้วยอบแผ่นแบรนด์มิสเตอร์บันเล็งขยายตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมเตรียมส่งผลิตภัณฑ์เข้าจำหน่ายในเซเว่นอีเลฟเว่น เผยตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 4-5 ล้านบาท ชูจุดเด่นรสชาติกล้วยอบที่ไม่เหมือนใคร สูตรไม่ผสมนํ้าตาล และสารกันเสีย
นางกรุณา ลำดับวงศ์ เจ้าของผลิตภัณฑ์กล้วยอบแผ่นแบรนด์ “มิสเตอร์บัน” (Mr.Ban) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กลยุทธ์การทำตลาดของแบรนด์ในระยะถัดไปจะมุ่งเน้นการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่นิยมสั่งซื้อผลิตภัณฑ์บนช่องทางดังกล่าว อีกทั้งยังเป็นช่องทางที่มีต้นทุนในการดำเนินการไม่มาก แต่มีประสิทธิภาพค่อนข้างสูง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอบุตรสาวซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่รู้เรื่องเทคโนโลยีมากกว่ามาช่วยดำเนินการ
“เดิมทีแบรนด์เองก็ทำตลาดผ่านทางเฟซบุ๊กอยู่แล้ว โดยได้รับความสนใจเป็นจำนวนมากจากผู้บริโภค ซึ่งการดำเนินการในลำดับต่อไป ก็จะเน้น
การสื่อสารไปยังกลุ่มผู้บริโภคให้ได้รู้จักแบรนด์เพิ่มมากขึ้น และได้เห็นถึงความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ เพื่อนำไปสู่การสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์ผ่านหน้าร้านที่มีผลิตภัณฑ์ของแบรนด์วางจำหน่ายอยู่”
อย่างไรก็ดี แบรนด์ยังเตรียมขยายช่องทางการจำหน่ายในรูปแบบออฟไลน์ให้เพิ่มมากขึ้นด้วย โดยล่าสุดกำลังจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้สามารถนำเข้าไปจำหน่ายที่ร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่นอีเลฟเว่น เพื่อเพิ่มจำนวนฐานลูกค้าของแบรนด์ให้ครอบคลุม จากเดิมที่ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์จะมีจำหน่ายอยู่ที่ร้านจิฟฟี่ ในปั๊มนํ้ามัน ปตท. กว่า 100 สาขา รวมถึงจำหน่ายผ่านร้านขายส่ง และขายปลีกทั่วไป ร้านขายของฝากที่จังหวัดเพชรบุรี ชลบุรี และขอนแก่น เป็นต้น
“กลยุทธ์ดังกล่าวเหล่านี้จะเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น หลังจากที่บุตรสาวได้เข้ามาช่วยดูแลกิจการ ส่วนการขยายตลาดไปต่างประเทศนั้น หากถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมแบรนด์ก็พร้อมที่จะดำเนินการ แต่ในเวลานี้คงยังไม่สามารถทำได้ เพราะกำลังการผลิตยังไม่เพียงพอ”
นางกรุณา กล่าวต่อไปอีกว่า แบรนด์ตั้งเป้าหมายทางด้านรายได้อยู่ที่ประมาณ 4-5 ล้านบาทภายในปีนี้ โดยเชื่อว่ารายได้จะเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามกลยุทธ์ทางการตลาดที่วางเอาไว้ ด้านจุดเด่นของผลิตภัณฑ์แบรนด์มิสเตอร์บัน อยู่ที่รสชาติความอร่อยที่ไม่เหมือนผู้ใด โดยจะมีการคัดเลือกกล้วยนํ้าว้าลูกใหญ่มาใช้ในกระบวนการแปรรูป ซึ่งกระบวนการผลิตจะไม่มีการเติมนํ้าตาล และไม่ใส่สารกันเสีย โดยการเก็บรักษาไม่ต้องแช่เย็นสามารถอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน
ขณะที่กลุ่มลูกค้าของแบรนด์จะเป็นผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย แม้กระทั่งเด็กที่ไม่ชื่นชอบการรับประทานผลไม้ก็สามารถรับประทานได้ จากความคิดเห็นของผู้ปกครองที่ส่งคำชมผ่านช่องทางออนไลน์โดยตรงมายังแบรนด์ โดยแบรนด์เองก็จะพยายามรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เพื่อรักษาฐานลูกค้า และวางรากฐานของธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต
หน้า 8 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3520 วันที่ 7-9 พฤศจิกายน 2562