เปิดแนวรบ "เซ็นทรัล" ลุยลงทุนต่างแดน "ยุโรป-เวียดนาม" บ้านหลังใหม่

07 พ.ย. 2562 | 03:30 น.

 

การประกาศเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศให้เป็น 60:40 จากเดิมที่ในประเทศทำรายได้ราว 70% และต่างประเทศ 30% แน่นอนว่า “กลุ่มเซ็นทรัล” ต้องเดินหน้าขยายการลงทุนให้มากขึ้น สำหรับในเมืองไทยนั้นกลุ่มเซ็นทรัลจะใช้เงินลงทุน 4-5 หมื่นล้านบาทต่อปี ไม่นับรวมการเข้าซื้อกิจการหรือเทกโอเวอร์ที่สามารถปิดดีลได้ระหว่างปี เช่นเดียวกับในต่างประเทศที่ไม่ได้วางงบลงทุนตายตัว เพราะมีดีลที่อยู่ระหว่างการเจรจาจำนวนมาก หากบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ ก็พร้อมที่จะเดินหน้าเข้าลงทุนไม่ว่าจะต้องใช้เม็ดเงินลงทุนเท่าไรก็ตาม

เปิดแนวรบ "เซ็นทรัล" ลุยลงทุนต่างแดน "ยุโรป-เวียดนาม" บ้านหลังใหม่

บาทแข็งหนุนลงทุนเร็ว

 ล่าสุดการประกาศทุ่มเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาทลงทุนใน 3 เมืองท่องเที่ยวใน 3 ประเทศ ได้แก่ โครงการมิกซ์ยูสที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย, โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซากา ประเทศญี่ปุ่น และห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต เมืองตูริน ที่รีโนเวตใหม่ทั้งหมดพร้อมเพิ่มพื้นที่อีกเกือบเท่าตัว ถือเป็นการตอกยํ้ายุทธศาสตร์ การเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอนาคต จากการที่เตรียมพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในเร็วๆ นี้

เปิดแนวรบ "เซ็นทรัล" ลุยลงทุนต่างแดน "ยุโรป-เวียดนาม" บ้านหลังใหม่

 “ทศ จิราธิวัฒน์” ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล บอกว่า ยุทธศาสตร์การขยายธุรกิจ ในต่างประเทศของกลุ่มเซ็นทรัลได้แรงหนุนจากค่าเงินบาทแข็งช่วยทำให้การพัฒนาธุรกิจในต่างประเทศเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยรายได้ของธุรกิจในต่างประเทศของกลุ่มเซ็นทรัล ในปี 2561 ประกอบด้วย เวียดนาม ยุโรป และมัลดีฟส์ คิดเป็นสัดส่วน 30% ของรายได้ทั้งหมดของกลุ่มเซ็นทรัล และจะเติบโตขึ้นต่อเนื่องในอีก 5 ปีข้างหน้าจากการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ที่เข้าไปลงทุน

 

ไทยเที่ยวยุโรปพุ่ง

“ทศ” ยังบอกอีกว่า แม้ภาพรวมของเศรษฐกิจยุโรปจะชะลอตัว แต่ธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัลในยุโรปทั้งที่อิตาลี เดนมาร์ก และเยอรมนี ยังคงมีการเติบโตที่สดใส โดยมาจากยอดขายจากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น 12-20% จากปีก่อน รวมถึงยอดใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวไทยที่ไปช็อปปิ้งตามห้างของกลุ่มเซ็นทรัลในยุโรปที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะห้างโอเบอร์โพลลิงเกอร์ที่มิวนิก และห้างรีนาเชนเต ประเทศอิตาลี ที่ยอดขายจากนักท่องเที่ยวไทยในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ เติบโตขึ้น 30% และ 50% ตามลำดับ

“ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นถึงไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวของลูกค้าไทยยุคใหม่ที่เปลี่ยนไป คนไทยนิยมไปเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น โดยแรงจูงใจมาจากราคาสินค้าที่ต่ำกว่าเนื่องจากไม่มีภาษีนำเข้าและเมื่อค่าเงินบาทไทยแข็งค่าขึ้นทำให้สินค้าและบริการมีราคาถูกลง”

เปิดแนวรบ "เซ็นทรัล" ลุยลงทุนต่างแดน "ยุโรป-เวียดนาม" บ้านหลังใหม่

 

ร่วมทุนผุด 3 โปรเจ็กต์ใหญ่

ดังนั้นการลงทุนของกลุ่มเซ็นทรัลจะมุ่งเป้าตามเทรนด์การท่องเที่ยวโลก (Global Tourism Trend) โดยแต่ละหมุดหมายจะมีความโดดเด่นเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าและนักท่องเที่ยวทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น การร่วมทุนกับกลุ่มซิกน่า (SIGNA GROUP) ลงทุนมิกซ์ยูส กลางกรุงเวียนนา บนพื้นที่ 5.8 หมื่นตารางเมตร ใจกลางถนนมาเรียฮิลเฟอร์ สตราเซ แหล่งช็อปปิ้งยอดนิยม ซึ่งที่นี่จะมีทั้งห้างสรรพสินค้าและโรงแรมหรูขนาด 150-165 ห้อง พร้อมร้านค้า ร้านอาหาร สวนสาธารณะลอยฟ้า ที่ออกแบบเชื่อมโยงตัวอาคารเข้ากับตัวเมือง ทำให้เชื่อว่าจะเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของออสเตรียในอนาคต

เปิดแนวรบ "เซ็นทรัล" ลุยลงทุนต่างแดน "ยุโรป-เวียดนาม" บ้านหลังใหม่

ขณะที่การลงทุนในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัล โดยบริษัทเซ็นทารา เจแปนฯ ถือหุ้น 51% ร่วมทุนกับ Taisei Corporation ถือหุ้น 25% และ Kanden Realty & Development ถือหุ้น 23.5% พัฒนา “โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซากา” โรงแรม 5 ดาว สูง 34 ชั้น ขนาด 515 ห้องพักด้วยงบลงทุนราว 1 หมื่นล้านบาท ใจกลางย่านนัมบะ ศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเมืองโอซากาและภูมิภาคคันไซ ซึ่งเมืองโอซากา ถือเป็นหนึ่งในเมืองหลักและใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2562 และแน่นอนว่าที่นี่จะเป็นโรงแรมแลนด์มาร์คใหม่ของโอซากา

อีกหนึ่งโปรเจ็กต์เป็นการปรับปรุงและขยายพื้นที่ขายอีกเกือบเท่าตัวของห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต สาขาตูริน หลังจากที่ใช้งบลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาทในการเข้าซื้อที่ดินอาคารเมื่อปี 2560 และนำมาออกแบบพัฒนาโครงการใหม่ เพื่อมุ่งหวังให้ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับห้างรีนาเชนเต สาขาโรม และมิลาน ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

 

ปั้นเวียดนามบ้านหลังที่ 2

ขณะที่การลงทุนในประเทศเวียดนาม ซึ่งอนาคตจะเป็นบ้านหลังที่ 2 ของกลุ่มเซ็นทรัลนั้น ตลอด 5 ปีที่กลุ่มเซ็นทรัลเข้าไปลงทุน พบว่ามียอดขายเติบโตเฉลี่ย 340% โดยกลุ่มเซ็นทรัลตั้งเป้าหมายที่จะมีร้านค้าทั้งหมดกว่า 753 ร้าน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2.5 ล้านตารางเมตร ใน 57 จังหวัดทั่วประเทศภายในปี 2565 จากปัจจุบันที่มีทั้งหมด 217 ร้าน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 7 แสนตารางเมตรใน 37 จังหวัด มีลูกค้ามาใช้บริการกว่า 1.75 แสนคนต่อวัน ดังนั้นจึงเดินหน้าขยายการลงทุนในเวียดนามเต็มที่ ทั้งในกลุ่มธุรกิจแฟชั่น ทั้งซูเปอร์สปอร์ต, มาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ฯลฯ กลุ่มธุรกิจฮาร์ดไลน์ อาทิ บีทูเอส, เหงียนคิม ฯลฯ ธุรกิจอาหาร อาทิ บิ๊กซี, ลานชีมาร์ท เป็นต้น

เปิดแนวรบ "เซ็นทรัล" ลุยลงทุนต่างแดน "ยุโรป-เวียดนาม" บ้านหลังใหม่

รวมถึงศูนย์การค้าเซ็นทรัล ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจากับพาร์ต เนอร์ เพื่อขยายการลงทุนในโครงการมิกซ์ยูสใหม่ สร้างเครือข่ายของธุรกิจศูนย์การค้าสู่ความเป็น “Regional Retail Platform” ในการเป็นช่องทางแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการสำหรับผู้ประกอบการในระดับภูมิภาคด้วยเส้นทางธุรกิจในต่างประเทศของกลุ่มเซ็นทรัลยังสดใสและงดงาม

หน้า 30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3520 ระหว่างวันที่ 7 - 9 พฤศจิกายน 2562