ไทม์โซนบุกนาฬิกาหรูดันไทยฮับอาเซียน

09 พ.ย. 2562 | 08:03 น.

ตลาดนาฬิกาหรูโตไม่หยุด “ไทม์ โซน” ทุ่ม 250 ล้านบาท ผุดแฟล็กชิพสโตร์ “บูทีค” นาฬิกาหรูแห่งแรกในไทย ก่อนวางแผนงาน 3 ปี ดันไทยฮับภูมิภาค สยายปีกทั่วภูมิภาคและทั่วโลก พร้อมรั้งเบอร์ 1 อาเซียน

นายอีริค ไมเจอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทม์ โซน จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายนาฬิกาลักชัวรีแนวอินดิเพนเดนซ์ ภายใต้ชื่อ “ไทม์โซน” เปิดเผยว่า แนวโน้มการเติบโตในตลาดนาฬิกาหรูของเมืองไทยที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จากความต้องการที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการซื้อเพื่อลงทุน สะสม และชื่นชอบฟังก์ชันในการใช้งานส่งผลให้ตลาดมีการเติบโต 10% ต่อปี และมีมูลค่าพุ่งสูงขึ้นเป็น 260 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 7,800 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา

ไทม์โซนบุกนาฬิกาหรูดันไทยฮับอาเซียน

ทำให้บริษัทเล็งเห็นโอกาสทางการเติบโตจึงได้ใช้งบประมาณกว่า 250 ล้านบาท ในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ด้วยการเปิด “ไทม์โซน บูทีค” เป็นแห่งแรก ที่เกษรวิลเลจ โดยรวบรวมแบรนด์นาฬิกาแนวอินดิเพนเดนซ์จากทั่วโลกมาจัดแสดงและจำหน่ายให้แก่ผู้ที่มีความสนใจนาฬิกาได้ชม ศึกษา และเปรียบเทียบ เพื่อเลือกแบรนด์ที่ตรงใจ ซึ่งมีระดับราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1 แสนบาท ไปจนถึงกว่า 240 ล้านบาท

“ความตั้งใจในการออกแบบร้านคือ การเชิญชวนให้ลูกค้าและผู้ที่มีความสนใจในนาฬิกาเข้ามาชมผลิตภัณฑ์ในร้าน ด้วยการมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์และบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าในทุกขั้นตอนเริ่มตั้งแต่การต้อนรับด้วยเครื่องดื่มที่บริเวณเลานจ์ เพราะสำหรับบริษัทลูกค้าไม่ใช่เฉพาะผู้ซื้อสินค้า แต่เป็นผู้ที่หลงใหลในเสน่ห์ของศาสตร์และศิลป์ของนาฬิกาก็คือลูกค้าของเราเช่นกัน ขณะที่อีกสิ่งหนึ่งที่บริษัทให้ความสำคัญเท่ากัน ก็คือบริการหลังการขายระดับพรีเมียม โดยต้องการให้ลูกค้าสัมผัสถึงความสะดวกสบาย ไร้ความกังวลตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามา ซึ่งนี่เป็นสิ่งสำคัญต่อแนวคิดทางธุรกิจของบริษัท และแน่นอนว่าบริษัทจะใช้ความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีให้เป็นส่วนหนึ่งของเกณฑ์ในการวัดความสำเร็จไทม์โซน บูทีคแห่งนี้”

ไทม์โซนบุกนาฬิกาหรูดันไทยฮับอาเซียน

สำหรับจุดเด่นของร้านคือความเป็นยูนีคของนาฬิกาแนวอินดิเพนเดนซ์ระดับไฮเอนด์หลากหลายแบรนด์ ซึ่งนำเข้าแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ไม่ว่าจะเป็น Jacob & Co รุ่น  Billionaire II ผลิตจากทองขาว 18K นํ้าหนัก 247 กรัม ประดับด้วยเพชร 176.1 กะรัต เม็ดมะยมผลิตจากทับทิมขนาด 1.23 กะรัต มูลค่า 240 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ชั้นนำมากมาย อาทิ แบรนด์ DeWitt, Jaquet Droz, Carl F. Bucherer, HYT, Cyrus, Speake-Marin, Schwarz-Etienne, Pierre DeRoche และ Rudis Sylva รวมถึงแบรนด์ Montres DeWitt เข้ามาเป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้าและผู้ที่สนใจนาฬิกาเข้ามาชมผลิตภัณฑ์ในร้าน โดยในปีหน้ามีแผนนำเข้าแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาเสริมทัพเพิ่มเติมอีกมากมาย

 

 ขณะที่แผนงานระยะยาวช่วง 3 ปีนับจากนี้ บริษัทวางเป้าหมายให้ขึ้นแท่นสู่ผู้นำตลาดในภูมิภาคอาเซียน ด้วยการเดินหน้าขยายสาขาทั่วภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็น เวียดนาม เมียนมา ลาว มาเลเซีย หรือเปิดสาขา 5-8 แห่ง นอกจากนี้ยังมีแผนขยายสาขาในอเมริกา เน้นเจาะตลาดลอสแองเจลีส ไมอามี และนิวยอร์ก รวมทั้งเปิดตลาดโมนาโก อเมริกาใต้ และยุโรปตะวันออก

 “การเลือกลงทุนในไทยเป็นสาขาแรกเนื่องจากมองเห็นโอกาสทางการเติบโต โดยเฉพาะในตลาดระดับลักชัวรีที่พบว่าตลาดมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยวางเป้าหมายในช่วง 3 ปีข้างหน้าบริษัทจะขึ้นแท่นผู้นำตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมทั้งวางให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการขยายการลงทุนของไทม์โซนในภูมิภาคอาเซียน” นายอีริคกล่าว

หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3520 ระหว่างวันที่ 7 - 9 พฤศจิกายน 2562