‘นีออน’ ผนึกทุนยานยนต์ บุกตลาดความงามเกาหลี

03 ต.ค. 2562 | 00:00 น.

“นีออน ไวท์” ผนึกกลุ่มทุนยานยนต์ “ฮวาชินเทค” นำทัพแบรนด์ “นีออน” บุกตลาดความงามเกาหลี พร้อมใช้เป็นฐานผลิตใหญ่ ก่อนเดินหน้ากรุยทางสร้างแบรนด์คลุมอาเซียน มั่นใจโกยรายได้กว่าพันล้านบาทในปีหน้า

นายธนกฤต โรจนตรีภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นีออน ไวท์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ไวเทนนิ่งสกินแคร์แบรนด์ “นีออน” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า บริษัทได้ตกลงร่วมทุนกับบริษัท ฮวาชินเทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ในเกาหลี ดำเนินธุรกิจทางด้านซัพพลายเชนผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และสนใจเข้ามาลงทุนในธุรกิจด้านความงาม เครื่องสำอาง และสกินแคร์ โดยจัดตั้งบริษัท นีออน ไวท์ (เกาหลี) จำกัด ขึ้นมาในประเทศเกาหลี พร้อมถือหุ้นในสัดส่วน 51% และบริษัทถือหุ้น 49% โดยเบื้องต้นจะมีการย้ายฐานการผลิตทั้งหมดของแบรนด์ไปอยู่ที่เกาหลี จากปัจจุบันเป็นการจ้างผลิตในประเทศไทย โดยโรงงานใหม่นี้จะเน้นผลิตผลิตภัณฑ์แบรนด์นีออนทั้งหมด รวมถึง OEM ให้แบรนด์อื่นในเกาหลีด้วย

‘นีออน’ ผนึกทุนยานยนต์ บุกตลาดความงามเกาหลี

“ นีออนเป็นแบรนด์สกินแคร์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมามียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 200-300 ล้านบาท การเติบโตดังกล่าวทำให้เกาหลีสนใจในตัวแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของนีออน ส่งผลให้เกิดการร่วมทุนและย้ายฐานการผลิตดังกล่าว”

‘นีออน’ ผนึกทุนยานยนต์ บุกตลาดความงามเกาหลี

ธนกฤต โรจนตรีภูมิ

ทั้งนี้ในปีหน้าบริษัทจะเริ่มเดินหน้าทำการตลาดเชิงรุกเพื่อสร้างแบรนด์อย่างจริงจังในเกาหลี ด้วยการขยายสาขา 10 แห่ง หลังจากนำร่องเปิดให้ไปแล้ว 1 แห่งในย่านเมียงดง ในชื่อ “นีออน ไวท์ โคเรียน ช้อป” เพื่อทดลองสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก โดยสาขาในเกาหลีจะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าชาวเกาหลีและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พร้อมกันนี้ยังมีการเดินหน้าทำตลาดในการสื่อสารแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมายด้วยการดึงไอดอลชื่อดังของเกาหลีมาเป็นพรีเซนเตอร์ในการสร้างแบรนด์ ควบคู่กับการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างการรับรู้อย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ยังมีแผนขยายตลาดเข้าไปในกลุ่มประเทศ CLMV ภายใต้ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 7 ชนิด คือ มาสก์, โลชั่น, เซรั่ม, เจล, ครีม, สบู่ และสครับ

‘นีออน’ ผนึกทุนยานยนต์ บุกตลาดความงามเกาหลี

“ในปีหน้าจะดึงไอดอลเกาหลีมาเป็นพรีเซนเตอร์ จะช่วยสร้างแบรนด์ในเกาหลี ไทยและประเทศเพื่อนบ้านอย่างจริงจัง เพื่อสร้างการเติบโตและเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น”

ขณะที่ตลาดในประเทศไทยก็จะให้ความสำคัญกับการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง และเน้นการจำหน่ายผ่านระบบตัวแทนที่มีกว่า 1 หมื่นรายในปัจจุบัน ขณะที่รายได้สิ้นปีนี้คาดว่าจะมียอดขาย 500 ล้านบาทเติบโตเป็นเท่าตัว และในปีหน้ามั่นใจว่าจะเพิ่มเป็น 1,000 ล้านบาท 

หน้า 30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3509 ระหว่างวันที่ 29 กันยายน - 2 ตุลาคม 2562