ตลาดชุดว่ายนํ้าร้อนฉ่า!คอลเลกชันเอวตํ่าเว้าสูงสุดแรง
ชี้เทรนด์ตลาดชุดว่ายนํ้าแรงเว่อร์! คนไทยเห่อช็อปทั้งวัน พีซ - ทู พีซ เอวตํ่า ขาเว้าสูง อวดหุ่นดันยอดขายบิกินีเพิ่ม “I.C.C.” ขนทัพคอลเลกชันใหม่จับทั้งกลุ่มสปอร์ต/ แฟชั่น/ ฟังก์ชั่น ดันตลาดรวมกว่า 3,000 ล้านบาทคึกคัก
ต้องยอมรับว่า “ชุดว่ายนํ้า” ถือเป็นอีกหนึ่งสีสันช่วงซัมเมอร์ที่นอกจากจะได้เห็นสาวๆในชุดว่ายนํ้าสุดร้อนแรงแล้ว บรรดาค่ายยักษ์แบรนด์ดังที่ต่างหันมาส่งคอลเลกชันสุดฮอตรุกตลาดก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผลักดันให้การแข่งขันในตลาดชุดว่ายนํ้ามูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาทสูงขึ้น ขณะที่แนวโน้มการเติบโตส่วนหนึ่งน่าจะมาจากความนิยมและกล้าที่จะสวมใส่ชุดว่ายนํ้าของสาวไทยที่มีมากขึ้นตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้ตลาดชุดว่ายนํ้ากลายมาเป็นอีกหนึ่งเซ็กเมนต์ที่สร้างสีสันให้กับวงการแฟชั่นได้ไม่น้อย ซึ่งเมื่อย่างเข้าสู่หน้าร้อนทีไรมักจะได้เห็นไอเท็มใหม่ๆ จากแบรนด์ชั้นนำที่ขนทัพเอามาล่อใจสาวๆ
นางสาวอภิญญา จันทร์เจิมทอง ผู้ช่วยผู้จัดการส่วนผลิตภัณฑ์ชุดว่ายนํ้า บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ I.C.C. ผู้ทำตลาดสินค้าแฟชั่นแถวหน้าของเมืองไทย อาทิ bsc Streamline, Swim World by bsc Streamline , ELLE เป็นต้น เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ชุดว่ายนํ้าแบบ one piece ถือว่าเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลกในขณะนี้ โดยในส่วนของเทรนด์ชุดว่ายนํ้าในแถบยุโรปแนวโน้มชุดว่ายนํ้าแบบ เอวตํ่า ขาเว้าสูงที่ Hi cut สูงมากทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทั้งในแบบ two pieces บิกินี หรือ one piece ที่เน้นขาสูงเว้ากำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ขณะที่ในส่วนของสาวไทยเริ่มหันมาสวมใส่ชุดว่ายนํ้าแบบบิกินีชิ้นเล็กเพิ่มมากขึ้น จากในอดีตที่นิยมสวมชุดว่ายนํ้าแบบเอวสูง โดยรูปแบบของการแข่งขันจะเน้นรูปแบบที่สวยสะดุดตา ราคาที่ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มค่า และการเข้าถึงลูกค้าก็เป็นส่วนที่สำคัญ พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปทำให้ผู้ขายต้องพยายามเข้าหาลูกค้ามากกว่าเมื่อก่อน
“แนวโน้มการแข่งขันในตลาดชุดว่ายนํ้าเมืองไทยนั้นสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่มีแบรนด์ชุดว่าย นํ้า ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์ไทย,จีน และแบรนด์ต่างชาติ ที่เข้ามาทำตลาดมากขึ้น ส่งผลให้รูปและราคามีความหลากหลายตั้งแต่แพงมากไปจนถึงราคาถูกมาก ซึ่งการเติบโตในตลาดชุดว่ายนํ้าในไทยประกอบไปด้วย 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่เป็นลูกค้าคนไทย เติบโตตามเศรษฐกิจประเทศ กับส่วนที่เป็นลูกค้าต่างชาติ โตตามสัดส่วนนักท่องเที่ยว”
ทั้งนี้เพื่อเป็นการรุกตลาดในช่วงหน้าร้อนซึ่งถือเป็นช่วงไฮซีซันของตลาดชุดว่ายนํ้าในปีนี้ บริษัทได้เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ของแบรนด์ในเครือทั้ง 4 แบรนด์ ออกมารุกตลาดได้แก่ แบรนด์ bsc Streamline ที่มาพร้อมกับคอลเลกชันใหม่ 3 แบบ ได้แก่ Flannel / Sensory Soft / Happy Beach เน้นจุดขายที่ความเป็นแฟชั่น Hi Cut เว้าหน้าหลังสูง และ ชุดว่ายนํ้าสไตล์เกาหลี แบบน่ารัก ไม่โป๊เกินไป เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีความแฟชั่นนิสต้า อายุ 25-40 ปี ที่ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา, SL by bsc Streamline ที่มาในคอนเซ็ปต์ SL (sport Luxury) เจาะกลุ่มลูกค้าใช้งานบ่อย ระยะเวลานานกลุ่มนี้จะเน้นใช้งานบ่อย ระยะเวลานาน ต้องการคุณภาพ และมีนวัตกรรม เช่น เทคโนโลยีผ้ารักษาอุณหภูมิร่างกาย, ผ้ารีดนํ้าฯ กลุ่มเป้าหมายที่มีอายุระหว่าง 25-45 ปี
นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ Swim World by bsc Streamline ชูจุดเด่นชุดว่ายนํ้าแบบ Basic Running จุดเด่นอยู่ที่ราคา ซื้อง่าย ขายคล่อง เจาะทุกกลุ่มเป้าหมาย และELLE ส่ง 2 คอนเซ็ปต์ใหม่ Culture Jam และ Floal Keepsakes เจาะลูกค้าสายแฟชั่น ขณะที่ ELLE Sport fashion ก็ส่ง 2 คอนเซ็ปต์ใหม่ Common Ground และ Light Magic เจาะลูกค้าสายสปอร์ตเช่นกัน
สำหรับแนวทางการทำตลาดของบริษัทนับจากนี้ได้เตรียมใช้งบประมาณการทำกิจกรรมทางการตลาดราว 12 ล้านบาท โดยจะให้ความสำคัญกับการเพิ่มสัดส่วนการทำการตลาดไปยังช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทั้งในส่วนของการขาย และสื่อสารแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งนับได้ว่าเป็นช่องทางใหม่ และสามารถสร้างการเติบโตและการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ได้เป็นอย่างดี โดยได้เพิ่มส่วนของ Blogger Influencer online รีวิว แนะนำสินค้าควบคู่ไปกับการทำสื่อออฟไลน์แบบเดิมรวมถึงการเข้าสนับสนุนเวที Miss Universe Thailand อย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ยังมีการจัดแคมเปญและโปรโมชันมากมาย โดยวางเป้าหมายรายได้ในช่วงหน้าร้อนไว้ที่ 150 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายตลอดทั้งปีคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 250 ล้านบาท
ด้านนางสาวชลิตา หงสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวคกิ้งบี จำกัด เจ้าของแบรนด์เวคกิ้งบี กล่าวว่า เพื่อเป็นการต้อนรับหน้าร้อนนี้บริษัทจับมือกับนางเอกชื่อดัง แต้ว-ณฐพร ร่วมเป็นดีไซน์เนอร์ ส่งคอลเลกชัน “เวคกิ้งบี บาย แต้ว สวิม แอนด์ สเวท” รุกตลาดซัมเมอร์ ที่สะท้อนผ่านเสื้อผ้าออกกำลังกายแนวใหม่ที่สามารถใช้ทำกิจกรรมทางนํ้าได้ด้วย เพื่อเพิ่มความหลากหลายในฟังก์ชันให้เข้ากับไลฟ์สไตล์แอกทีฟ ที่มาในโทนสีมารูน, สีนํ้าเงิน, สีคอรัล, สีขาว, สีดำ และสีนู้ด ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากเกลียวคลื่น และความสวยงามใต้ท้องทะเลของปะการังและสิ่งมีชีวิต ถ่ายทอดออกมาในลายพิมพ์สุดพิเศษซึ่งออกแบบขึ้นใหม่สำหรับคอลเลกชันนี้โดยเฉพาะ
“ชุดออกกำลังกายกับชุดว่ายนํ้านั้นมีความคล้ายกันในเรื่องของฟังก์ชันการใช้งาน จึงเกิดเป็นไอเดียที่อยากจะออกแบบชุดออกกำลังกายที่สามารถทำกิจกรรมทางนํ้าได้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการผู้หญิงยุคใหม่ที่ชื่นชอบการทำกิจกรรมที่หลากหลายเช่นกัน”
หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3464 ระหว่างวันที่ 25-27 เมษายน 2562
