BATMAN V SUPERMAN DAWN OF JUSTICE
แบทแมน v ซูเปอร์แมน แสงอรุณแห่งยุติธรรม
เข้าฉายวันที่ 24 มีนาคม 2559 / แนว Action, Adventure, Fantasy / เวลา 2 ชั่วโมง 33 นาที
กำกับภาพยนต์โดน เเซ็ค ชไนเดอร์
หลังจากความสำเร็จของภาพยนต์ MAN OF STEEL (2013) ที่เป็นการเปิดจักรวาลภาพยนต์ของซูเปอร์ฮีโร่ทางฝั่ง สำนักพิมพ์ Dc Comics โดยผู้กำกับ เเซ็ค ชไนเดอร์ หลังจากนั้น แซ็ค ก็มีการประกาศถึงการปะทะกันของตัวละครที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกภาพยนต์ BATMAN V SUPERMAN: DAWN OF JUSTICE ซึ่งกลายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่สุดที่เหล่าบรรดาเเฟนๆ ของทั้งสองตัวละครตั้งตารอวันที่จะได้รับชม ศึกปะทะกันระหว่างทั้งคู่อย่างใจจดใจจ่อ
แหละสิ่งที่ทุกคนถามถึงคือ "ใครกัน ? ที่จะมารับบท อัศวินรัตติกาลอย่างแบทแมน" ในเมื่อเราเพิ่งจะได้ดูไตรภาคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตัวละครตัวนี้จากการกำกับของผู้กำกับเเห่งยุคอย่าง คริสโตเฟอร์ โนแลนด์ The Dark Knight Trilogy (2005-2012) ของ โนเเลนด์ สร้างปรากฎการณ์ที่ทุกคนไม่อาจจะปฎิเสธถึงความยอดเยี่ยมและความสำเร็จได้ ความกดดันจึงตกไปอยู่กับตัวผู้กำกับ แซ็ค ชไนเดอร์ ถึงขั้นเขาเอ่ยถาม คริส ซึ่งในตอนแรกเขาอยู่ในตำแหน่ง เอ็กคลูซีฟ โปรดิวเซอร์ ในโปรเจค BATMAN V SUPERMAN นี้ว่า "คุณอยากให้ทำมันไหม ? คุณสบายใจหรือเปล่าในสิ่งที่เรากำลังจะทำ" แต่ คริส กลับบอกว่า " เขาไม่ใช่เจ้าของตัวละคร คุณทำเถอะ ถึงคุณไม่ทำ คนอื่นก็จะทำมันอยู่ดี " ซึ่งนั้นทำให้ แซ็ค เดินหน้าถ่ายทำและสร้างโลกของสองซูเปอร์ฮีโร่ขึ้นมา หลังจากนั้นคริสก็ถอนตัวจากโปรเจคนี้ไปอย่างเงียบๆ แต่ก็ยังประกาศว่าจะติดตามชมหนังเรื่องนี้ ต่อมา เเซ็ค ก็ปล่อยภาพแรกของแบทแมน ที่ดูมืดมน บึกบึนและชุดค้างคาวที่ไม่เหมือนกับฉบับไหนมาก่อน มันดูดุดัน ก้าวร้าวและแสดงออกถึงความรุนแรงและประกาศว่าผู้ที่จะมารับบท แบทแมน ในครั้งนี้ได้แก่ เบน เอฟเฟล็ค
"พูดตรงๆ ผมไม่คิดว่าจะได้เล่นหนังซูเปอร์ฮีโร่อีก" นี่คือคำพูดของ เบน เอฟเฟล็ค หลังจากที่เขาได้รับคำเชื้อเชิญในเข้ามาพูดคุยเพื่อที่จะรับบทเป็นอัศวินรัตติกาลคนใหม่ หลังจากที่เขาเพิ่งรับรางวัลออสการ์จากหนังเรื่อง ARGO และเตรียมแสดงในหนังเรื่อง GONE GIRL ด้วยความที่เขาเคยรับบทฮีโร่ตาบอดจากสำนักพิมพ์ มาร์เวล ที่ได้รับคำวิจารณ์ที่ไม่สู้ดีนักและถอดใจจะมาทำอะไรแบบนี้แล้ว แต่เมื่อเขาได้มีโอกาสได้เข้าไปพุดคุยกับ เเซ็ค ความคิดเขาก็เปลี่ยนไปและตื่นเต้นกับโปรเจคนี่เป็นอย่างมาก เขามั่นใจว่ามันจะต้องเป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด
เรื่องย่อ เป็นเวลา 18 เดือนหลังจากเหตุการณ์ "แบล็กซีโร่" นายพลซ็อด (ไมเคิล แชนน่อน) บุกโลกและมนุษย์ต่างดาวที่ผู้คนเรียกเขาว่า ซูเปอร์แมน (เฮนรี่ คาวิลล์) ช่วยโลกไว้ได้ทันแต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้ครั้งนั้นทำให้ เมืองเมโทรโพลิสเสียหายไปอย่างมหาศาล การปรากฎตัวของ ซูเปอร์แมน สร้างข้อถกเถียงของมนุษย์โลกออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายนึงก็เทิดทูน ศรัทธาในตัวเขา อีกฝ่ายก็แคลงใจและหวั่นเกรงในพลังของเขา และหนึ่งในนั้นคือ อัศวินรัตติกาลของเมืองก็อธแธมอย่าง แบทแมน (เบน เอฟเฟล็ค)
ซึ่งคนที่ตั้งข้อสงสัยแบบเดียวกันยังมีอีกคน เล็กซ์ ลูธอร์ (เจสซี่ ไอเซนเบิร์ก) นักธุรกิจหนุ่มแห่งเมือง เมโทรโพลิส เขามีความสงสัย และอิจฉา ซูเปอร์แมน และต้องการจะแสดงให้โลกเห็นว่าคนธรรมดาก็สามารถทำอะไรได้มากกว่าและเหนือไปกว่านั้น หากเขาสามารถทำให้ ซูเปอร์แมน พ่ายแพ้ได้ มันก็เป็นสิ่งที่เขาสนใจเป็นอย่างมาก เล็กซ์ ได้เข้ามาบริหารงานในบริษัท เล็กซ์คอปป์ อินดัสทรี และเริ่มสร้างธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ หลังจากผ่านเหตุการณ์ต่างๆ เขาได้ครอบครองศพของนายพลซ็อด ซึ่งนั้นคือจุดเริ่มต้นของความหายนะที่เขาสร้างขึ้น
จากตัวอย่างที่ออกมาทำให้เราได้เห็นตัวละครที่เป็นสัตว์ประหลาดที่ใครก็เรียกว่า ดูมส์เดย์ เขาเป็นสิ่งทดลองที่เกิดจาก เล็กซ์ กลายเป็นศัตรูที่น่ากลัวที่สุด และยังเป็นเหตุผลในการปรากฎตัวของตัวละครสุดคลาสิกอีกคนอย่าง วันเดอร์ วูแมน (กัล กาโดต์) นักรบสาวจากเผ่าอเมซอนในตำนานที่มีอายุยืนยาวมาเกือบ 5000 ปี แม้จะยังไม่รู้ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของเธอ แต่ศึกครั้งนี้จะเป็นการรวมกันของทั้งสามคน ซูเปอร์แมน, แบทแมน และ วันเดอร์ วูแมน
นอกจากหนังจะเต็มไปด้วยนักแสดงมากมาและผู้กำกับ เเซ็ค ชไนเดอร์ ยังบอกอีกว่าภาพยนต์เรื่อง BATMAN V SUPERMAN DAWN OF JUSTICE คือจุดเริ่มต้นของ "จักรวาลหนังของดีซี คอมมิค" ที่เป็นการปรากฎตัวครั้งแรกของเหล่าซูเปอร์ ฮีโร่ อย่าง อะควาแมน (เจสัน โมมัว), เเฟลช (เอซรา มิลเลอร์) และ ไซบอร์ก (เรย์ ฟิสเชอร์) มาร่วมในเรื่องนี้เพื่อเป็นปฐมบทของภาพยนต์ Justice League ที่จะฉายในปี 2017 และ 2019
พลังของ ซูเปอร์แมน
ด้วยพลังอันมหาศาลที่เขาได้รับจากดวงอาทิตย์ ทำให้เขามีพลังในระบบ ซูเปอร์ความแข็งแกร่ง, ซูเปอร์ความเร็ว บินได้ และมีดวงตาสามารถ X-ray และปล่อยลำแสงพิฆาตจากตัวตาได้ แถมเขายังมีประสาทสัมผัสที่สุดยอดอีกด้วย หากจะนับอะไรที่เป็นจุดอ่อนของเขานอกจาก แร่อย่างคริปโตไนท์ ก็อาจจะเป็นความอ่อนโยน ใจอ่อนเกินไปของเขาที่รักและไม่อยากทำร้ายมนุษย์ จนทำให้กลายเป็นแต้มต่อของ แบทแมน ก็เป็นได้
ทีเด็ดของ แบทแมน
ด้วยความเป็นเพียงคนธรรมดาไม่มีพลังพิเศษอะไร แต่สิ่งที่ บรูซ เวย์น มีนั้นคือเงินอันมหาศาลและเทคโนโลยีและวิทยาการอันล้ำสมัย เราจะมาดูทีเด็ดของ แบทแมน กันว่ามีอะไรบ้าง
ชุดค้างคาว ออกแบบโดยตัว บรูซ เวย์น เอง ผลิตจากเส้นใยเคฟลาร์ผสมเกราะอ่อน ป้องกันร่างกายจากแรงกระเทก ของมีคม และอาวุธปืน มีน้ำหนักเบาทำให้เคลื่อนไหวได้คล่องเเคล่ว หน้ากากสามารถปรับเสียงให้ดูน่ากลัวเพื่อพรางตัวไม่ให้ใครจำเขาได้ ผ้าคลุมสีดำยาวใช้ชะลอความเร็วเมื่อตกจากที่สูงและยังช่วยร่อน มีเกราะที่แขนและมีเเง่งเหล็กใช้ได้ทั้งโจมตีและป้องกัน
BATMOBILE รถค้างคาวที่ออกแบบด้วยตัวขอ บรูซ เวย์น มีความเเข็งแกร่งและใช้เทคโนโลยีของ เวย์น เอ็นเตอร์ไพร์ท จนได้รถหุ้นเกราะที่มีทั้งความเร็วและอาวุธหนัก มีปืนกลคู่ที่ด้านนอก เป็นพาหนะคู่ใจของอัศวินรัตติกาล
ชุดเกราะค้างคาว ใช้เทคโนโลยีเพิ่มศักยภาพของร่างกาย สร้างมาเพื่อต่อกรกับบุรุษเหล็กโดยเฉพาะ
พบกับการต่อสู้สุดยิ่งใหญ่ของทั้งสองซูเปอร์ฮีโร่ขวัญใจของผู้ชมอย่าง อัศวินรัตติกาลแห่งก็อธแธมแบทแมน และ บุรุษเหล็กแห่งเมโทรโพลิส ซูเปอร์แมน ได้ในภาพยนต์แห่งปี 2016 BATMAN V SUPERMAN DAWN OF JUSTICE แบทแมน v ซูเปอร์แมน แสงอรุณแห่งยุติธรรม
RISEN กำเนิดใหม่แห่งศรัทธา
เข้าฉายวันที่ 24 มีนาคม 2559
แนว Action, Adventure, Drama
เวลา 1 ขั่วโมง 47 นาที
กำกับภาพยนต์ เควิน เรย์โนลด์ส
สัปดาห์นี้มีหนังเข้าใหม่เกี่ยวกับเรื่องราวของศาสนาใน RISEN กำเนิดใหม่แห่งศรัทธา กล่าวถึงช่วงเวลาสำคัญที่สุดของความเชื่อของเหล่าคริสต์ศาสนิกชน อย่างการกลับมาฟื้นคืนพระชนม์ขององค์เยซู ที่นำมาถ่ายทอดเป็นหนังเรื่องยาว นำแสดงโดย โจเซฟ ไฟน์ส และ ทอม เฟลตัน เรื่องราวย้อนกลับไปในช่วงก่อนเกิดคริสตกาล ทหารหนุ่มโรมันผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้า คลาเวียส (โจเซฟ ไฟนส์) เขากร่ำศึกมามากมายจนมาถึง นครเยรูซาเล็ม ประเทศ อิสราเอล และพบว่าชาวเมืองที่นี้มีองค์เยซูเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิต เขาต้องการจะยึดครองให้ทุกคนในเมืองอยู่ภายใต้อาณัติ จึงจับตัวเยซูตรึงกางเขนจนสิ้นชีพ แต่ทว่าหลังจากนั้นพระศพขององค์เยซูก็ได้หายไปอย่างลึกลับ ทั้งตัว คลาเวียส และ ลูเซียส (ทอม เฟลตัน) จึงร่วมกันสืบหาความจริงของปริศนานี้ เพื่อสยบข่าวลือว่าองค์เยซูจะกลับมาเพื่อโปรดเหล่าสาวกอีกครั้ง