สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท
เงินบาทกลับมาแข็งค่ากว่าระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ เงินบาทอ่อนค่าลงช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์ท่ามกลางปัจจัยหนุนเงินดอลลาร์ฯ จากแนวโน้มการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟด อย่างไรก็ดี เงินบาททยอยฟื้นตัวขึ้นในช่วงต่อมา ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงขาย ท่ามกลางความคาดหวังต่อข้อสรุปการเจรจาข้อตกลง BREXIT ระหว่างอังกฤษและอียู และข้อพิพาททางการค้าสหรัฐฯ และจีน นอกจากนี้ เงินบาทอาจจะได้รับแรงหนุนบางส่วนจากผลการประชุมกนง. (14 พ.ย.) ซึ่งแม้ว่า กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.50% ตามเดิม แต่ก็มีคณะกรรมการฯ จำนวนมากขึ้นที่มองว่า ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบนี้ ทั้งนี้ เงินบาทกลับมาทรงตัวในกรอบแคบๆ ในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่ ตลาดยังคงรอความชัดเจนของประเด็น BREXIT และการเจรจาทางการค้าของสหรัฐฯ และจีนอย่างใกล้ชิด
ในวันศุกร์ (16 พ.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.95 เทียบกับระดับ 33.03 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (9 พ.ย.)
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (19-23 พ.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.80-33.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศน่าจะอยู่ที่ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/61 ของไทย ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนพ.ย. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด และประเด็นทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ประเด็นเกี่ยวกับการเจรจาเรื่อง BREXIT ของอังกฤษกับอียู
ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
[caption id="attachment_348592" align="aligncenter" width="335"]
[/caption]