บทวิเคราะห์สถานการณ์ราคาทองคำแท่ง ประจำวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561 โดยบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
คำแนะนำ
แบ่งปิดสถานะซื้อทำกำไรบางส่วนหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,224 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,204-1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้
วานนี้ราคาทองคำสามารถทรงตัวในระดับสูง ขณะที่การอ่อนตัวลงค่อนข้างจำกัด โดยราคาแกว่งตัวในกรอบแคบเพื่อสะสมแรงซื้อ ทั้งนี้ ทำให้ประเมินแนวรับระยะสั้นนั้นอยู่ในบริเวณ 1,204-1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่หลุดยังคงมีโอกาสที่ราคาจะทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,224 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ 1,200 1,191 1,180
แนวต้าน 1,224 1,236 1,244
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้จะเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยต่างๆ ทั้งการแข็งค่าของดอลลาร์จากการดิ่งลงของค่าเงินปอนด์และการเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกที่พุ่งขึ้น 0.8% ในเดือนต.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% ด้านดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 200 จุดหลังไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า สหรัฐได้ชะลอการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเอาไว้ชั่วคราว ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเริ่มส่งสัญญาณคลี่คลายลง สถานการณ์ดังกล่าวแม้จะเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ แต่ราคาก็สามารถพยุงตัวรักษาระดับไว้ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากรัฐมนตรีช่วยฝ่ายกิจการ Brexit, รัฐมนตรีช่วยศึกษาธิการ, รัฐมนตรีฝ่ายกิจการ Brexit และรัฐมนตรีฝ่ายกิจการบำนาญของอังกฤษประกาศลาออก เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยต่อข้อตกลง Brexit ที่นางเทเรซา เมย์ นายกอังกฤษได้ยื่นต่อสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งบ่งชี้ถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในของอังกฤษและอาจทำให้นางเมย์ ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการเรียกร้องเสียงสนับสนุนจากพรรคอนุรักษ์นิยมสำหรับข้อตกลง Brexit สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยอัตราการใช้กำลังผลิตและการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ
ที่มา : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
[caption id="attachment_348122" align="aligncenter" width="335"]
[/caption]