WHA เร่งรีแบรนด์ดิ้งธุรกิจตั้งเป้าโกยรายได้ 1.7 หมื่นล. 

25 ก.พ. 2559 | 08:25 น.
บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น หรือ WHA ประกาศผลการดำเนินงานปี 2558 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 มีรายได้รวม 12,064.1 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,953.7 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้จากค่าเช่า ค่าบริการและค่าสาธารณูปโภค จำนวน 2,970.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 439% จากปีก่อน ด้านผู้บริหาร “ จรีพร จารุกรสกุล ” เตรียม รีแบรนด์ดิ้งธุรกิจทั้งกรุ๊ป เร่งการขยายธุรกิจ  มั่นใจปีนี้ ตั้งเป้ารายได้แตะ 1.7 หมื่นล้านบาท

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานกรรมการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ผู้นำด้าน Built to Suit คลังสินค้า – ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานระดับพรีเมี่ยม เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2558 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 12,064.1 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,953.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 138.5% ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทฯ มีการรับรู้รายได้ค่าเช่า ค่าบริการและค่าสาธารณูปโภค ตลอดจนรายได้จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมจากการเข้าซื้อกิจการของ HEMRAJ  ประกอบกับการรับรู้รายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท  หรือ WHART เพิ่มทุน (ครั้งที่1)  ในมูลค่า 4,645.9 ล้านบาท ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดย WHA สามารถรับรู้เป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน จำนวน 4,485.6 ล้านบาท ภายหลังการหักส่วนของรายได้ที่ไม่สามารถรับรู้ได้จากการค้ำประกันรายได้ให้แก่ผู้ถือหน่วยกองทรัสต์ WHART จำนวน 160.3 ล้านบาท ตลอดจนการเติบโตของรายได้ค่าเช่าและค่าบริการของบริษัทฯ เอง

ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2558 บริษัทฯ มีรายได้รวม 8,809.7 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,784.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,057.5% จากการรับรู้รายได้และกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ WHART การรับรู้รายได้จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของ HEMRAJ ตลอดจนค่าเช่าที่เติบโตเพิ่มขึ้นจากการให้เช่าพื้นที่คลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดจากยอดจองพื้นที่เช่า (Pre-Leased/ New Contract Area) ที่เพิ่มขึ้น 200,000 กว่าตารางเมตร โดยเป็นฐานลูกค้าเดิมที่ต้องการขยายพื้นที่เช่า ไม่ว่าจะเป็นผู้เช่าที่เป็นต่างชาติ และบริษัทไทยชั้นนำ และลูกค้าใหม่ที่อยู่ในอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้แล้วหมดไปอย่างรวดเร็ว (Fast Moving Consumer Goods) และผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ (3PL) อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานกรรมการ บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ยังได้กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจในปี 2559 ว่า ภายหลังจากการปรับแผนโครงสร้างองค์กรใหม่ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1/2559 นี้ บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำธุรกิจในเอเชียภูมิภาคอาเซียนทางด้านการพัฒนาอาคารคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า โรงงาน (Logistics Facilities) ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมแบบครบวงจร สาธารณูปโภค พลังงาน และ การให้บริการระบบฐานข้อมูลดิจิทัล ด้วยคุณภาพที่ครอบคลุมการให้บริการในทุกระดับ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ที่จะตอบโจทย์ต่อแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและการสร้างจุดยืนของประเทศไทยที่ต้องการเป็นศูนย์กลางของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และพร้อมที่จะขยายธุรกิจด้วยโครงสร้างธุรกิจให้บริการครบวงจรไปยังประเทศในภูมิภาค โดยประเทศที่มุ่งเน้นเป็นลำดับแรก ได้แก่ เวียดนาม ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการและการติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้

ทั้งนี้ ภายหลังการปรับโครงการองค์กรแล้ว โครงสร้างธุรกิจของบริษัทฯ จะมีความหลากหลายมากขึ้น และเป็นผู้ให้บริการครบวงจรในการให้บริการทางด้านคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงาน นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภค พลังงาน และอสังหาริมทรัพย์ ในระดับมาตรฐานสากล  ตลอดจนการบริหารคลังข้อมูลดิจิทัล (data center) ที่ครบวงจร ทั้งด้านการวางระบบฐานข้อมูล และบริการเสริมต่างๆ ให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า โดยเบื้องต้นบริษัทฯ วางแผนจะเป็นผู้นำธุรกิจในการให้บริการ 4 HUBS ซึ่งประกอบด้วย LOGISTIC HUB, INDUSTRIAL HUB, UTILITY & POWER HUB และ DIGITAL HUB ซึ่งหากแผนการขยายธุรกิจดังกล่าวสำเร็จ จะส่งผลให้ WHA เป็น Real Sector ที่ครบวงจรแห่งแรกของโลก

“โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ คาดว่าการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมทั้งการรีแบรนด์ดิ้งธุรกิจของบริษัทฯทั้งหมด เพื่อให้ตรงกับวิสัยทัศน์ (Vision) และพันธกิจ (Mission) หลักของบริษัทฯ ทำให้ธุรกิจของ WHA Group มีความหลากหลายและสามารถครอบคลุมการให้บริการในทุกระดับ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ” นางสาวจรีพร กล่าว

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) เดิม WHART ในช่วงปลายปีนี้เพิ่ม ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มขนาดของทรัพย์สินในกองให้มีมูลค่าสูงขึ้นและเป็นแหล่งระดมทุนของบริษัทเพื่อขยายกิจการ   นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะจัดตั้งกองทรัสต์ HREIT โดยการขายอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า ได้แก่ โรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูปให้เช่าที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรม HEMRAJ และพื้นที่โดยรอบ เพื่อจัดตั้งกองทรัสต์ HREIT ภายในไตรมาส 2  หรือต้นไตรมาส 3 นี้

ดังนั้น จากแผนขยายธุรกิจในข้างต้น  จึงส่งผลให้บริษัทฯ มั่นใจว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2559 จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ระดับ 1.6-1.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งในปี 2559 จะเป็นการรับรู้รายได้จาก HEMRAJ อย่างชัดเจน  รวมถึงการขยายแผนเชิงรุกในการพัฒนาด้านโลจิสติกส์และนิคมอุตสาหกรรมทั้งในประเทศ และต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น