“โกลเบล็ก”ชี้น้ำมันต่ำฉุดเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

25 ก.พ. 2559 | 04:12 น.
บล.โกลเบล็ก มองราคาทองคำสัญญาณฟื้น หลังซาอุดิอาระเบีย ไม่ลดกำลังผลิต สร้างความกังวลวิกฤตราคาน้ำมัน ส่งผลกระทบอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจโลก แนะจับตาอังกฤษส่อเค้าออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) แนะแนวรับ 1,185 -1,180 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,265-1,270 เหรียญต่อทรอยออนซ์ ส่วนดัชนีหุ้นไทยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม

นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่า ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัวขึ้นรอบใหม่ หลังซาอุดิอาระเบียยังไม่มีแผนที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน ซึ่งสร้างความกังวลว่าวิกฤตราคาน้ำมันอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมพลังงานและภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก ประกอบกับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนหลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลงสู่ระดับ 92.2 ในเดือนกุมภาพันธ์ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์เผยดัชนีภาวะธุรกิจในปัจจุบันของภาคการผลิตร่วงลงสู่ระดับ -4 ในเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้นักลงทุนย้ายกลับเข้ามาลงทุนในทองคำอีกครั้งเพื่อลดความเสี่ยง

อย่างไรก็ตามจากความกังวลว่าอังกฤษอาจจะออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU)  และปัจจัยบวกจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินในการประชุมวันที่ 10 มี.ค.  และนางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแคนซัสซิตี้ระบุว่าเฟดควรจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินที่จะจัดขึ้นช่วงกลางเดือนมี.ค.นี้  จะเป็นปัจจัยหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ

ดังนั้น ประเมินแนวโน้มราคาทองคำโลกด้านเทคนิคเริ่มฟื้นตัวขึ้นรอบใหม่หลังช่วงก่อนหน้าพักตัว เพื่อลดความร้อนแรงการขึ้นของราคา การปรับตัวขึ้นมายืนเหนือแนวรับเส้น 5 และ 10 วัน ที่เรียงตัวกันเป็นแนวโน้มขึ้นได้อีกครั้ง รวมทั้งการสร้างฐานในลักษณะ W-SHAPE และค่าสัญญาณ RSI ไม่มีภาวะซื้อมากเกินไปแล้ว จะทำให้ราคามีแนวโน้มปรับขึ้นรอบใหม่ตามแนวโน้มขึ้นเดิมก่อนหน้า โดยให้แนวรับ 1,185 -1,180 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,265-1,270 เหรียญต่อทรอยออนซ์

ด้าน น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล. โกลเบล็ก  กล่าวว่า แนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยยังมีความผันผวนสูง จากปัจจัยบวกในการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB)ส่งสัญญาณใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมวันที่ 10 มีนาคม เนื่องจากมีความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก และคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% - 0.50% ในการประชุมวันที่ 15-16 มีนาคมนี้

นอกจากนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า อุปทานน้ำมันจะยังคงมีมากกว่าอุปสงค์อยู่ประมาณ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ และให้ความเห็นว่าเป็นเรื่องยากที่จะเห็นราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในระยะใกล้นี้  ถือเป็นปัจจัยลบกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานต่อเนื่อง

อีกทั้งเศรษฐกิจในประเทศยังไม่เห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจน  โดยตัวเลขการส่งออกของประเทศไทยในเดือนมกราคม มีแนวโน้มติดลบมากกว่า 8% แต่ไม่ถึง 9% ซึ่งเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2558

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก ประเมินกลยุทธ์การลงทุนใน SET ว่าภาวะตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมวันที่ 10 มีนาคมนี้ รวมถึงแรงซื้อดักงบและปันผลปี 2558 ที่ทยอยประกาศในเดือนกุมภาพันธ์ แต่ราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงผิดหวังผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ตรึงการผลิตเป็นตัวถ่วงดัชนี

ดังนั้น คาดว่า SET จะผันผวนขาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,340 – 1,350 จุด แนะนำกลยุทธ์การลงทุน Selective Buy ในกลุ่มหุ้นที่มีปันผลสูง แนะนำ INTUCH, ADVANC, KTB, KKP และ TISCO หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากช่วง High season  ของการท่องเที่ยวและต้นทุนน้ำมันปรับตัวลง แนะนำ AOT, BA และAAV หุ้นกลุ่มที่คาดว่างบปี 58 และไตรมาส 4/2558 เติบโตขึ้น แนะนำ BEAUTY, EA, BRR, ORI, BJCHI, AAV และ BA