ตั้ง ‘โอกิลวี่เรด’ รับเออีซี แนะนักการตลาดพร้อมแก้วิกฤตแบรนด์ในอนาคต

03 ก.พ. 2559 | 13:00 น.
ผลการเปิดเออีซี ทำให้เกิดผู้บริโภคชนชั้นกลางขยายตัว ที่นิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โอกิลวี่ ตั้ง "โอกิลวี่ เรด" รับลูกค้ากลุ่มเออีซี ขณะที่ผลการดำเนินงานปีที่ผ่านมายังโต 2 ดิจิต

นายพอล ฮีธ ประธาน บริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ เอเชีย แปซิฟิก จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากมีการรวมตัวกันของกลุ่มประเทศในอาเซียน หรือเออีซี จะส่งผลให้เศรษฐกิจในอาเซียนเติบโตมากขึ้น โดยเศรษฐกิจที่เติบโตส่วนใหญ่จะมาจากงบประมาณของภาครัฐที่นำมาใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของแต่ละประเทศ รวมถึงภาคเอกชนที่มีการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้เมื่อเปิดเออีซีแล้วจะส่งผลให้มีกลุ่มผู้บริโภคชนชั้นกลางขยายตัวมากขึ้น ซึ่งผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าวนิยมรับข้อมูลสินค้าผ่านทางอุปกรณ์ไอที เช่น สมาร์ทโฟน และแท๊บเล็ต เป็นต้น จนกระทั้งทำให้เกิดการสั่งซื้อ และมีเงินหมุนเวียนในกลุ่มประเทศอาเซียนมากขึ้น

"ปัจจุบันพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคเปลี่ยนไป โดยเฉพาะผู้บริโภคในกลุ่มชนชั้นกลาง ที่ให้ความสนใจใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตมากขึ้น ทำให้มีพฤติกรรมการซื้อสินค้าผ่านช่องทางดิจิตอลและช่องทางออนไลน์มากขึ้นด้วย ดังนั้นหลังจากนี้หลักการโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้าจะต้องเปลี่ยนวิธีการ จากเดิมที่ทำเปนสปอตโฆษณาเพื่อขัดจังหวะการรับชมรายการต่างๆของผู้ชม มาเป็นการมีส่วนร่วมหรืออินเตอร์แรคทีฟกับผู้บริโภคมากขึ้น"

ทั้งนี้ ในปี 2559 ตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคจะมีการเติบโตที่แตกต่างกัน และมีความแตกต่างกันในด้านการสื่อสารจากภาษาที่ไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันหลังจากรวมตัวของเออีซีจะส่งผลบวกให้ธุรกิจของแต่ละประเทศมีโอกาขยายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจออนไลน์ที่มีโอกาสขยายตัวมากกว่าธุรกิจอื่นๆ แต่ต้องอาศัยเทคนิคด้านการตลาดที่ทันสมัย หรือกลยุทธ์โมเดิร์นมาร์เก็ตติ้ง เข้ามาช่วยสร้างแบรนด์ให้กับลูกค้า และปัจจัยที่สำคัญ นักการตลาดต้องหาผู้นำที่มีอิทธิพลของกลุ่มสินค้าในแต่ละประเภทให้เจอเพื่อที่จะชิงส่วนแบ่งการตลาด"

สำหรับกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่นักการตลาดต้องให้ความสำคัญคือการแก้วิกฤติปัญหาของแบรนด์ที่อาจจะเกิดในอนาคต ซึ่งกลยุทธ์ที่นักการตลาดต้องตระหนักสำหรับสื่อดิจิตอลคือการนำเสนอข้อมูลแบบจริงใจ ตรงไปตรงมา มีความรวดเร็ว และต้องเตรียมความพร้อมทุกเวลา หากเกิดเหตุปัญหาวิกฤตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ล่าสุด บริษัทได้มีหน่วยงาน โอกิลวี่ เรด ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้คำแนะนำด้านกลยุทธ์ด้านการตลาด โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มตลาดเออีซี เนื่องจากงานในส่วนนี้ค่อนข้างมีปัญหากับความแตกต่างของการสื่อสารระหว่างประเทศค่อนข้างมาก รวมถึงการแก้วิกฤติปัญหาให้กับแบรนด์ เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันบริษัทมีทีมงานที่ดูแลเฉพาะสื่อดิจิตอลรวมกว่า 2 พันคน นอกจากนี้บริษัทยังมีหน่วยงานประเภทต่างๆภายในเครือ เช่น งานสื่อสารผ่านโซเชียล งานประชาสัมพันธ์ อื่นๆ

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2558 ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จมีอัตราการเติบโตด้วยตัวเลข 2 หลัก โดยเฉพาะการตลาดด้านคอนเทนท์ เช่น การทำแคมเปญประเภทต่างๆ ส่งผลให้ที่ผ่านมาบริษัทได้รับรางวัลจากงานประกวดโฆษณา และงาน Effies Effectiveness ในเอเชีย

ด้านนายเคนท์ เวอร์ไทม์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบฏิบัติการ กล่าวว่า การพัฒนาของเทคโนโลยีดิจิตอล ทำให้การสื่อสารและการพาณิชย์ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วมากกว่ายุคก่อน แต่ปัจจุบันเอเยนซี่ส่วนใหญ่ยังขาดความเชี่ยวชาญและขาดระบบการทำงานที่ผสานความชำนาญงานแต่ละอย่างเข้าด้วยกันเพื่อให้บริการด้านการตลาดแนวใหม่ที่ครอบคลุม ครบวงจร อีกทั้งการประสบความสำเร็จในภาวะตลาดเช่นนี้นักการตลาดยังต้องสร้างสรรค์บริการใหม่ๆที่โดดเด่นเพื่อนำเสนอแคมเปญการสื่อสารที่สร้างสรรค์และทำให้แบรนด์ลูกค้าโดดเด่น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,127
วันที่ 31 มกราคม - 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559