ปณทครึ่งปีแรกกำไร2พันล. ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซมาแรงรายได้พุ่ง6พันล้าน

ปณท โชว์ผลประกอบการครึ่งปีแรกรายได้ 13,473 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,979 ล้านบาท เผยรายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจอี-คอมเมิร์ซกว่า 50% ยึดหลักบริหารจัดการเติบโตคู่กับชุมชน พร้อมเปิดตัวตู้อัจฉริยะ “พี่ตู้รู้ทุกเรื่อง” จำนวน 15 ตู้แล้วที่ พิษณุโลก เตรียมขยายทั่วประเทศภายในสิ้นปีนี้ ด้านกลุ่มสามารถไตรมาส 2 ขาด ทุน 188 ล้านบาท เตรียมทรานส์ฟอร์มธุรกิจใหม่

พล.อ.สาธิต พิธรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด หรือ ปณท เปิดเผยว่า ขณะนี้ ปณท ได้ดำเนินการปรับปรุงตู้ไปรษณีย์บริการประชาชนด้วยคิวอาร์โค้ด ภายใต้ชื่อ “พี่ตู้รู้ทุกเรื่อง” นวัตกรรมตู้ไปรษณีย์อัจฉริยะยุค 4.0 ที่เปลี่ยนตู้ไปรษณีย์ธรรมดาให้สามารถให้ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงได้เพียงสแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อเป็นการส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยว และผู้ประกอบการรายย่อยในชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจระดับท้องถิ่นให้มีความไหลเวียนมากขึ้น ณ ปัจจุบันจะทำการนำร่องติดตั้งตู้ดังกล่าวในจังหวัดพิษณุโลก จำนวนรวมทั้งสิ้น 15 ตู้ กระจายไปทุกอำเภอในจังหวัด พร้อมมีแผนเตรียมขยายไปพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ ภายในปีนี้

ด้านนางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ ปณท กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับผลประกอบการของ ปณทในช่วงครึ่งปีแรกระหว่างเดือนมกราคม -มิถุนายน 2560 บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 13,473 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,979 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 ถึง 18% โดยรายได้จากการเติบโตส่วนใหญ่มาจากกลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์ ซึ่งมาจากการเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ คิดเป็น 42% หรือประมาณ 6,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามเป้าหมายรายได้ของปี 2560 ปณท ได้ตั้งไว้อยู่ที่ 26,000 ล้านบาท ดังนั้นคาดว่าภายในสิ้นปีนี้มีผลกำไรสุทธิประมาณ 3,300 ล้านบาท ปัจจุบันไปรษณีย์มีสาขาให้บริการจำนวน 1,300 แห่งทั่วประเทศ

สำหรับเป้าหมายของ ปณท ยึดหลักในการดำเนินการที่จะต้องเติบโตควบคู่กับชุมชน สังคม และประเทศชาติ จึงได้ใช้จุดแข็งด้านเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศในการผลักดันเศรษฐกิจระดับฐานราก พร้อมมุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น ผ่านการพัฒนา 3 ส่วนหลักตอบโจทย์ความต้องการผู้ประกอบการชุมชน ได้แก่ 1) e-Marketplace & Platform ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ไทยแลนด์โพสต์มาร์ท (www.thailandpostmart.com) เพื่อเป็นมาร์เก็ตเพลซระดับประเทศ พื้นที่ฝากขายสินค้าที่รวบรวมสินค้าชุมชนจากผู้ประกอบการทุกพื้นที่ในประเทศไทย

ในส่วนที่ 2 คือ e-Logistics คิดค้นและพัฒนาช่องทางส่งของให้กลุ่มลูกค้าอี-คอมเมิร์ซ อาทิ กล่องฟอร์คอมเมิร์ซ กล่องลดต้นทุน หนุนธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ บริการนำจ่ายให้ผู้รับปลายทาง C2C Fulfillment Solution เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองให้ได้รับสิ่งของที่รวดเร็วขึ้น และบริการกำหนดจุดรับสินค้า (Drop Off) เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเลือกสถานที่รับสินค้าที่สะดวกได้ และ 3. e-Payment พัฒนาระบบการชำระค่าสินค้าและบริการ ได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย สู่การเป็นดิจิตอลวอลเล็ต (Digital Wallet) รองรับสังคมไร้เงินสด

ขณะที่บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้แจงผลประกอบการไตรมาส 2/2560 มีรายได้รวม 3,893 ล้านบาท ขาดทุน 188 ล้านบาท อันเป็นผลกระทบจากธุรกิจมือถือเป็นหลัก เชื่อว่าในครึ่งปีหลัง ผลประกอบการจะพลิกฟื้นเป็นบวก เนื่องจากบริษัทเตรียมเปลี่ยนผ่าน หรือทรานส์ฟอร์มโครงสร้างธุรกิจใหม่ ด้วยการลดขนาดธุรกิจมือถือ ซึ่งมีการแข่งขันสูงและให้ผลตอบแทนที่ไม่คุ้มค่า ไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้างรายได้ประจำและอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้น อาทิ Digital Trunked Radio, Digital Content, Digital Sports เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบธุรกิจดิจิตอลในอนาคต จึงจะมีการเปลี่ยนชื่อ สามารถไอ-โมบาย เป็นสามารถดิจิตอล และมีการเพิ่มทุนพร้อมแจก Warrant แก่ผู้ถือหุ้น นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมจัดตั้งบริษัท Samart Transolutions เพื่อรุกธุรกิจด้าน Transportations อย่างจริงจัง โดยมีบริษัท Cambodia Air Traffic Services เป็นหัวหอก และเตรียมนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในราวปี 2561

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,289 วันที่ 20 - 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560