เครื่องหนัง ‘วิสา’ ลุยออนไลน์ เจาะ ‘เมียนมา เวียดนาม จีน’

05 ส.ค. 2560 | 00:20 น.
แบรนด์วิสาปรับกลยุทธ์ทำตลาดบุกตลาดออนไลน์ พร้อมขยายบูธจำหน่ายสู่ออฟฟิศหลังเศรษฐกิจซบคนเดินเข้าร้านลดลง เชื่อดันรายได้เข้าเป้า 2-3 ล้านบาทปี 60 เล็งลุยตลาดเมียนมา, เวียดนาม และจีน ขยายฐานลูกค้า

นางสาววันวิสาข์ โกมารกุล ณ นคร เจ้าของร้าน “วันวิสาข์ แอนด์ มัม” ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเป๋า และรองเท้าสุภาพสตรีจากหนังแท้แบรนด์ “วิสา” (Visa) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากสภาวะเศรษฐกิจที่ค่อนข้างซบเซาในปัจจุบันทำให้ในปี 2560 ทางร้านจะต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดไปดำเนินการในรูปแบบเชิงรุกมากขึ้น เนื่องจากลูกค้าที่จะเดินเข้ามาที่ร้านเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์หลักพันบาทขึ้นไป มีจำนวนที่น้อยลง แม้ว่าจะมีลูกค้าที่เพิ่มเข้ามาจากการแนะนำแบบปากต่อปากตามคุณภาพของผลิตภัณฑ์ก็ตาม

TP13-3284-2 ทั้งนี้ กลยุทธ์ที่จะใช้เป็นหลักจะเป็นการมุ่งเน้นการเข้าหาลูกค้าในกลุ่มของออนไลน์มากขึ้นทั้งบนช่องทางเฟซบุ๊ก และอินตาแกรม เนื่องจากมองว่าวิถีชีวิตของผู้บริโภคส่วนใหญ่มากกว่า 50% นิยมมองหาผลิตภัณฑ์เพื่อตนเองบนโลกออนไลน์ อีกทั้งยังเป็นช่องทางที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุด และมีต้นทุนที่ไม่สูงมากแต่มีประสิทธิภาพในระดับสูง

นอกจากนี้ ยังจะดำเนินการเรื่องของการออกบูธแสดงสินค้าในทำเลพื้นที่ออฟฟิศในกรุงเทพมหานคร และจัดทำโปรโมชันเพื่อดึงดูดความสนใจจากลูกค้าจากเดิมที่ร้านจะมีแค่สาขาในห้างสรรพสินค้าเท่านั้น

TP13-3284-3 อย่างไรก็ดี ยังได้มีความพยายามที่จะขยายตลาดออกไปสู่ต่างประเทศ โดยล่าสุดได้มีการออกงานเพื่อจับคู่ธุรกิจเพื่อหาคู่ค้า (Business Matching) ในประเทศเมียนมา และเวียดนาม เพื่อเป็นการศึกษาตลาด และความเป็นไปได้ในการเข้าไปทำตลาด และต้องมีการปรับเปลี่ยนวัสดุในการผลิตไปสู่การใช้หนัง PVC เพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้าในประเทศเมียนมาที่จะมีการแบ่งกลุ่มอย่างชัดเจนระหว่างกลุ่มระดับสูงที่จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแบรนด์ และกลุ่มระดับล่างที่ใช้ผลิตภัณฑ์แบบทั่วไป

“ล่าสุดทางฝ่ายจัดซื้อจากเมียนมาได้มีการส่งแบบผลิตภัณฑ์ที่ต้องการมาให้เรา เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เป็นไปในรูปแบบที่ตรงกับความต้องการของตลาด โดยมุ่งเน้นไปในรูปแบบของแฟชั่น ซึ่งขั้นตอนในปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณา และหาข้อสรุปที่เหมาะสมมากที่สุด”

นอกจากนี้ ยังได้มีการออกบูธแสดงสินค้าที่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน เพื่อสำรวจกระแสตอบรับจากลูกค้า เนื่องจากประเทศจีนเป็นประเทศผู้ผลิตผลิตภัณฑ์รองเท้าและส่งมาขายในประเทศไทย

ดังนั้น แนวทางที่เป็นไปได้อาจจะต้องมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ไปยังร้านเครื่องหนังของจีน เพื่อวางจำหน่ายในรูปแบบของพันธมิตรทางการค้า โดยนำจุดเด่นเรื่องของผลิตภัณฑ์จากหนังปลานิลที่ทางร้านเป็นผู้ผลิตรายเดียวในประเทศไทย เป็นปัจจัยที่ดึงดูดความสนใจจากลูกค้าซึ่งขั้นตอนในปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาถึงความเป็นไปได้

TP13-3284-1 นางสาววันวิสาข์ กล่าวต่อไปอีกว่า จากกลยุทธ์การทำตลาดดังกล่าวในประเทศเชื่อว่า จะทำให้ทางร้านมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 2-3 ล้านบาทในปีนี้ โดยเป็นการรักษาระดับรายได้ให้ทรงตัวจากปีที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 2 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากสามารถขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นภายในปีนี้ หรือต้นปีหน้าก็น่าจะให้รายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ดังกล่าว

“จุดเด่นของผลิตภัณฑ์จากทางร้านอยู่ที่เรื่องการออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วยตนเอง รวมถึงวัสดุที่ใช้สำหรับนำมาทำส้นรองเท้าจากไม้แท้ที่เป็นเอกลักษณ์ และงานที่ทำจากหนังแท้ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการบริการหลังการขาย และการรับสั่งทำผลิตภัณฑ์ตามออเดอร์ หรือตามขนาดเท้าของลูกค้า ซึ่งร้านส่วนใหญ่ไม่ค่อยรับทำเพราะค่อนข้างมีรายละเอียดที่จุกจิก”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,284 วันที่ 3 -5 สิงหาคม พ.ศ. 2560