TMBเปิดขอสินเชื่อออนไลน์ เริ่มไตรมาส4/60 นำร่องบัตรเครดิต-คลีนโลน
ทหารไทยเผยไตรมาส 4เปิดบริการขอสินเชื่อออนไลน์หลังแบงก์ชาติอนุมัติ ประเดิมบัตรเครดิต-สินเชื่อส่วนบุคคลมั่นใจยอดขอผ่านออนไลน์พุ่งตามพฤติกรรมคนใช้ยุคดิจิตอล ขณะที่ยอดขอบัตรใหม่ ผ่านเว็บไซต์ tmbbank.com ประมาณ 8-10%
ธนาคารทหารไทย(TMB) ประกาศความพร้อมเปิดให้บริการขอสินเชื่อ และการซื้อประกัน-กองทุนรวม ผ่านช่องทางออนไลน์ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ภายหลังจากได้รับการอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นางสาวมิ่งขวัญ พัฒนวงศ์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ส่งเสริมการตลาดลูกค้าบุคคล ทีอ็มบี กล่าวว่า โดยสินเชื่อจะเริ่มจากสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล(คลีนโลน) ในเฟสแรกก่อน จึงจะขยายไปสู่สินเชื่อบ้าน ซึ่งระบบดังกล่าวได้พัฒนามาจากไอเอ็นจีบางส่วนและมาพัฒนาใช้กับทีเอ็มบี
อย่างไรก็ตามการขอสินเชื่อผ่านออนไลน์ในครั้งแรกลูกค้าอาจจะต้องมีการแสดงตัวตน (KYC) ก่อน แต่หลังจากนั้นเมื่อธปท. สามารถทำเรื่องของกฎเกณฑ์การพิสูจน์ตัวตนผ่านอิเล็กทรอนิกส์ (E-KYC) ได้ จะช่วยให้การขอสินเชื่อทำได้ง่ายและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยลูกค้าสามารถยื่นความจำนงการขอสินเชื่อผ่านออนไลน์ ซึ่งระบบจะมีการอนุมัติเบื้องต้น (Pre-Approve) ก่อน และภายหลังจากยื่นเอกสารครบจะมีการอนุมัติอีกครั้ง
ทั้งนี้หากดูตัวเลขยอดบัตรเครดิตใหม่ประมาณ 8-10% จะมาจากช่องทาง www.tmbbank.com และคาดว่าสัดส่วนจะเพิ่มขึ้นตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว และสามารถทำธุรกรรมได้บนโทรศัพท์มือถือ เพียงแค่ลูกค้าที่ต้องการยื่นขอสินเชื่อเขาไปกรอกข้อมูลสนใจ หลังจากนั้นประมาณ 5-10 นาทีจะมีเจ้าหน้าที่โทรกลับ เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม โดยที่ลูกค้าไม่ต้องเดินเข้าสาขา เนื่องจากจะมีพนักงานไปรับเอกสารในการขอสินเชื่อ ส่งผลให้ยอดการขอผ่านช่องทางออนไลน์หรือบนโทรศัพท์มือถือจะเติบโตขึ้น
[caption id="attachment_170161" align="aligncenter" width="503"]
TMBเปิดขอสินเชื่อออนไลน์ เริ่มไตรมาส4/60 นำร่องบัตรเครดิต-คลีนโลน[/caption]
ขณะที่ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในไตรมาสแรกมีอัตราการเติบโตตามฤดูกาล โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร (Spending) อยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท คิดเป็นอัตราการใช้จ่ายเฉลี่ย 2,000 บาทต่อบัตรต่อเดือน จากยอดใช้จ่ายรวมในปีก่อนอยู่ที่ 4.55 หมื่นล้านบาท และฐานบัตรปัจจุบันอยู่ที่ 5 แสนใบ
บัตรเครดิตของธนาคารมี 3 รูปแบบตามความต้องการลูกค้า ทั้งในส่วนของคนที่ชอบคะแนนสะสม (TMB So Fast) ชอบเงินคืนบัญชี (Cash Back) จะเป็นบัตร TMB So Smart หรือจะเป็นกดเงินสดไม่มีค่าธรรมเนียม (TMB So Chill) ซึ่งลูกค้าสามารถแบ่งจ่าย 0% นาน 3 เดือน ถือเป็นจุดแข็งของธนาคาร ประกอบกับธนาคารมีการบริหารความเสี่ยง โดยใช้เครื่องมือ Risk-Score และการดูประวัติความสามารถในการชำระหนี้และความตั้งใจในการชำระหนี้ของลูกค้า ทำให้อัตราการอนุมัติสินเชื่อ (Approval Rate) อยู่ในอัตราใกล้เคียงกับปีก่อนอยู่ที่ 38-42% ส่งผลให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ในอัตราที่ค่อนข้างต่ำกว่าระบบ
“หลังจากเราดำเนินการขออนุญาตธปท.ในการให้บริการขอสินเชื่อผ่านออนไลน์ได้ ตอนนี้ธปท.ก็อนุมัติเรียบร้อยแล้ว แต่อาจจะต้องขอลองระบบอีกสักพัก คาดว่าไตรมาสที่ 4 น่าจะได้เห็นชัดเจนขึ้น โดยเริ่มแรกเราจะลองจากสินเชื่อบัตรเครดิจและส่วนบุคคลก่อน และถ้าได้ผลดีอาจพัฒนาต่อยอดไปสินเชื่อบ้านด้วย เพราะถ้าดูแนวโน้มทิศทางจะไปทางดิจิตอลหมด และดูตัวเลขยอดที่ขอสินเชื่อผ่านว็บก็ศูงถึง 8-10% น่าจะหนุนให้เติบโตเพิ่มขึ้น”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,274
วันที่ 29 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
ธนาคารทหารไทย(TMB) ประกาศความพร้อมเปิดให้บริการขอสินเชื่อ และการซื้อประกัน-กองทุนรวม ผ่านช่องทางออนไลน์ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ภายหลังจากได้รับการอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นางสาวมิ่งขวัญ พัฒนวงศ์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ส่งเสริมการตลาดลูกค้าบุคคล ทีอ็มบี กล่าวว่า โดยสินเชื่อจะเริ่มจากสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล(คลีนโลน) ในเฟสแรกก่อน จึงจะขยายไปสู่สินเชื่อบ้าน ซึ่งระบบดังกล่าวได้พัฒนามาจากไอเอ็นจีบางส่วนและมาพัฒนาใช้กับทีเอ็มบี
อย่างไรก็ตามการขอสินเชื่อผ่านออนไลน์ในครั้งแรกลูกค้าอาจจะต้องมีการแสดงตัวตน (KYC) ก่อน แต่หลังจากนั้นเมื่อธปท. สามารถทำเรื่องของกฎเกณฑ์การพิสูจน์ตัวตนผ่านอิเล็กทรอนิกส์ (E-KYC) ได้ จะช่วยให้การขอสินเชื่อทำได้ง่ายและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยลูกค้าสามารถยื่นความจำนงการขอสินเชื่อผ่านออนไลน์ ซึ่งระบบจะมีการอนุมัติเบื้องต้น (Pre-Approve) ก่อน และภายหลังจากยื่นเอกสารครบจะมีการอนุมัติอีกครั้ง
ทั้งนี้หากดูตัวเลขยอดบัตรเครดิตใหม่ประมาณ 8-10% จะมาจากช่องทาง www.tmbbank.com และคาดว่าสัดส่วนจะเพิ่มขึ้นตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว และสามารถทำธุรกรรมได้บนโทรศัพท์มือถือ เพียงแค่ลูกค้าที่ต้องการยื่นขอสินเชื่อเขาไปกรอกข้อมูลสนใจ หลังจากนั้นประมาณ 5-10 นาทีจะมีเจ้าหน้าที่โทรกลับ เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม โดยที่ลูกค้าไม่ต้องเดินเข้าสาขา เนื่องจากจะมีพนักงานไปรับเอกสารในการขอสินเชื่อ ส่งผลให้ยอดการขอผ่านช่องทางออนไลน์หรือบนโทรศัพท์มือถือจะเติบโตขึ้น
[caption id="attachment_170161" align="aligncenter" width="503"]
ขณะที่ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในไตรมาสแรกมีอัตราการเติบโตตามฤดูกาล โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร (Spending) อยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท คิดเป็นอัตราการใช้จ่ายเฉลี่ย 2,000 บาทต่อบัตรต่อเดือน จากยอดใช้จ่ายรวมในปีก่อนอยู่ที่ 4.55 หมื่นล้านบาท และฐานบัตรปัจจุบันอยู่ที่ 5 แสนใบ
บัตรเครดิตของธนาคารมี 3 รูปแบบตามความต้องการลูกค้า ทั้งในส่วนของคนที่ชอบคะแนนสะสม (TMB So Fast) ชอบเงินคืนบัญชี (Cash Back) จะเป็นบัตร TMB So Smart หรือจะเป็นกดเงินสดไม่มีค่าธรรมเนียม (TMB So Chill) ซึ่งลูกค้าสามารถแบ่งจ่าย 0% นาน 3 เดือน ถือเป็นจุดแข็งของธนาคาร ประกอบกับธนาคารมีการบริหารความเสี่ยง โดยใช้เครื่องมือ Risk-Score และการดูประวัติความสามารถในการชำระหนี้และความตั้งใจในการชำระหนี้ของลูกค้า ทำให้อัตราการอนุมัติสินเชื่อ (Approval Rate) อยู่ในอัตราใกล้เคียงกับปีก่อนอยู่ที่ 38-42% ส่งผลให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ในอัตราที่ค่อนข้างต่ำกว่าระบบ
“หลังจากเราดำเนินการขออนุญาตธปท.ในการให้บริการขอสินเชื่อผ่านออนไลน์ได้ ตอนนี้ธปท.ก็อนุมัติเรียบร้อยแล้ว แต่อาจจะต้องขอลองระบบอีกสักพัก คาดว่าไตรมาสที่ 4 น่าจะได้เห็นชัดเจนขึ้น โดยเริ่มแรกเราจะลองจากสินเชื่อบัตรเครดิจและส่วนบุคคลก่อน และถ้าได้ผลดีอาจพัฒนาต่อยอดไปสินเชื่อบ้านด้วย เพราะถ้าดูแนวโน้มทิศทางจะไปทางดิจิตอลหมด และดูตัวเลขยอดที่ขอสินเชื่อผ่านว็บก็ศูงถึง 8-10% น่าจะหนุนให้เติบโตเพิ่มขึ้น”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,274
วันที่ 29 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2560