‘ชูกำลัง’ปะทะเดือด แบรนด์ดังเข็นกลยุทธ์ชิงยอดขายนักดื่มรุ่นใหม่

07 มิ.ย. 2560 | 06:00 น.
ตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง 3.5 หมื่นล้านบาทระอุ แบรนด์ดังเปิดเกมตลาดครบเครื่อง ขยายฐานนักดื่มรุ่นใหม่ จัดเต็มกลยุทธ์ทั้งสปอร์ตมิวสิก พรีเซนเตอร์มาร์เก็ตติ้ง ที่ขาดไม่ได้“ชิงโชคใต้ฝา”

หลายปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของเมืองไทยมีการขยับตัวครั้งใหญ่กับแนวคิดที่พยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค จากเดิมที่เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้แรงงานผ่านการสื่อสารในแง่ของความเป็นเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่น มีพลังงานเพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ในรูปแบบฟังก์ชั่นนอลดริ้ง พร้อมกับการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาด แพ็คเกจจิ้งในรูปแบบกระป๋อง (Can) ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในต่างประเทศทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงโปรโมชั่น โดยมีเป้าหมายเพื่อชิงส่วนแบ่งทางการตลาดซึ่งมูลค่ากว่า 3.5 หมื่นล้านให้ได้มากที่สุด

logocarabol โดยแบรนด์ที่น่าจับตามากที่สุดในชั่วโมงนี้ อย่าง "คาราบาวแดง" ภายใต้การนำของแม่ทัพรุ่นใหม่ไฟแรงอย่าง "ร่มธรรม เศรษฐสิทธิ์" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ คาราบาว กรุ๊ป ที่ออกมาเปิดเผยว่า การก้าวขึ้นเป็นอันดับ 2 ในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังเมืองไทยโดยมียอดขายกว่า 800 ล้านขวด และอีกหลายร้อยล้านกระป๋องในต่างประเทศ ทำให้บริษัทต้องเข้มแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้

กลยุทธ์หลักที่บริษัทให้ความสำคัญในการแข่งขันตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง คือ ระบบการจัดจำหน่ายสินค้าถือเป็นปัจจัยอันดับต้นๆที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตและอยู่รอดได้ การพัฒนาธุรกิจด้านโลจิสติกส์ โดยมีระบบการจัดจำหน่ายสินค้าเพิ่มมากขึ้น กระจายสินค้าผ่าน 31 ศูนย์ มีรถกระจายสินค้าหรือ Cash Van จำนวนกว่า 300 คัน ครอบคลุมร้านค้าทั่วประเทศมากกว่า 3 แสนราย และมีเซลล์คาราบาวเข้าไปช่วยขายหน้าร้าน 1-2 ครั้งต่อเดือน ควบคู่กับการนำระบบเทคโนโลยีการบริหารจัดการ อย่าง โซลูชั่นสำหรับการบริหารจัดการกลุ่มรถและติดตามรถขนส่ง "NOSTRA Logistics: Cloud Shipment Management" จากบริษัท จีไอเอส จำกัด ในเครือกลุ่มบริษัท CDG ผู้นำในการให้บริการ IT แบบครบวงจรในประเทศไทย

"โซลูชั่นที่นำมาใช้กับธุรกิจโลจิสติกส์จะช่วยกระตุ้นยอดขายในประเทศของคาราบาว กรุ๊ปให้เพิ่มขึ้นได้กว่า 40% และสามารถสะท้อนภาพลักษณ์ของบริษัทให้มีความทันสมัย"

นอกจากนี้คาราบาวแดงยังมีการจัดแคมเปญโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายในช่องทางต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดโปรโมชั่น ณ จุดขาย,กิจกรรมพาร์ทเนอร์ชิพร่วมกับสโมรสรฟุตบอลชื่อดังอย่างเชลซี,แคมเปญท้ารบลมร้อนคาราบาวแดงแจกแท็กซี่ ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม

นายร่มธรรม กล่าวอีกว่า ปีนี้ตั้งเป้าจะกระจายสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้น ผ่านบริษัทร่วมทุนที่อังกฤษ และตัวแทนจำหน่ายทั้งที่บราซิล และจีน รวมถึงเปิดตลาดส่งออกมาใหม่ที่ ออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง และ ลาตินอเมริกา เป็นต้น และแม้ปีที่ผ่านมาตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในไทยจะเติบโตน้อยมาก แต่บริษัทยังคงตั้งเป้าที่จะให้เครื่องดื่มคาราบาวแดงโตให้ได้ปีละ 15% และมุ่งขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นด้วยเงินลงทุนหลายพันล้านบาท พร้อมขยายไลน์สินค้าอื่นๆ อย่างกาแฟกระป๋องและซอง เปิดตัวตั้งแต่ปี 2559 และตั้งแต่ต้นปี 2560 รวมทั้งยังสร้างยอดขายจากน้ำดื่มคาราบาวอีกด้วย

logot247 ขณะที่แบรนด์น้องใหม่ล่าสุดในตลาดชูกำลังเมืองไทยอย่าง "T247" โดยนายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เครื่องดื่มชูกำลังเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี แม้ปีที่ผ่านมาจะชะลอตัวลงไปบ้างแต่ในปีนี้เชื่อว่าการเติบโตของตลาดเครื่องดื่มชูกำลังจะสดใสอีกครั้ง ทำให้บริษัทตัดสินใจพัฒนาแบรนด์ T247 ไฮบริด เอนเนอร์จี้ดริ้งค์ ในรูปแบบพร้อมดื่มออกวางจำหน่าย พร้อมใช้งบกว่า 200 ล้านบาททำตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ รองลงมาคือกลุ่มผู้ใช้แรงงาน โดยแผนงานนับจากนี้คือการสื่อสารการตลาดทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์ และการสื่อสาร จะทำให้ภาพลักษณ์สามารถเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ได้

พร้อมกันนี้ยังส่ง 2 พรีเซ็นเตอร์ที่สามารถนำเสนอจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ได้ตรงที่สุด คือ เจ-เจตริน วรรธนะสิน มาเป็นตัวแทนผู้ชายพันธุ์อึด กับสูตรโสมและน้ำผึ้ง (สีแดง) และสน-ยุกต์ ส่งไพศาล ตัวแทนผู้ชายที่พร้อมลุยงานหนักแต่ยังดูดีตลอดเวลา ในสูตรคอลลาเจนและซิงค์ (สีน้ำเงิน) ผ่านภาพยนตร์โฆษณา 2 ชุดเรื่อง Unlimited Energy สำหรับสูตรโสมและน้ำผึ้ง และ เรื่องAura Energy สำหรับสูตรคอลลาเจนและซิงค์ภายใต้แนวคิด "ถ้าทุ่มเท...จะกี่ T ก็ทำได้" ผ่านเครื่องมือทางการตลาดแบบครบวงจร โดยตั้งเป้าภายในปี 2017ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชูกำลัง T247 จะสามารถสร้างรายได้ 700 ล้านบาทให้กับอิชิตัน จากนั้นในปีต่อไป ต้องการมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 5% โดยวางเป้าหมายระยะยาวด้วยการครองส่วนแบ่งทางการตลาด 10% ในช่วง 5 ปีนับจากนี้ หรือคิดเป็นรายได้ราว 3,000 ล้านบาท

[caption id="attachment_156465" align="aligncenter" width="281"] ‘ชูกำลัง’ปะทะเดือด แบรนด์ดังเข็นกลยุทธ์ชิงยอดขายนักดื่มรุ่นใหม่ ‘ชูกำลัง’ปะทะเดือด แบรนด์ดังเข็นกลยุทธ์ชิงยอดขายนักดื่มรุ่นใหม่[/caption]

ด้านนางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โอสถสภา จำกัด กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เอ็ม 150 ตั้งเป้าที่จะรักษาความเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มให้พลังงาน โดยการนำกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญเพื่อใช้ในการส่งเสริมการตลาดและขยายฐานลูกค้าซึ่งเป็นกลุ่มบลู คอลลาร์ ในตลาดไทยและประเทศกลุ่ม CLMV นอกจากนี้เอ็ม 150 ยังชูกลยุทธ์ พรีเซนเตอร์ มาร์เก็ตติ้ง ด้วยการเปิดตัว 4 พรีเซนเตอร์ "ตูน บอดี้สแลม ,ไมค์ ภิรมย์พร ,ไผ่ พงศธร และต่าย อรทัย" มาตอกย้ำภาพลักษณ์ของสินค้าที่เข้าถึงและเข้าใจคนสู้ชีวิต พร้อมกับหนังโฆษณาชุดใหม่ "เอ็ม 150 พลังฮึดสู้ เพื่อคนไทย"

logoM-150-n นอกจากนี้เอ็ม-150 ยังต่อยอดมาสู่แคมเปญชิงโชคใต้ฝา ในรายการ"ลุ้นโชครวยล้าน กลับบ้านตั้งตัว กับเอ็ม-150" โดยเมื่อดื่มเอ็ม 150 และส่งรหัส 3 หลักใต้ฝา มาลุ้นโชค 3 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 จับรางวัลทองคำมูลค่า 1 หมื่นบาท จำนวน 10 รางวัลทุกวัน ต่อที่ 2 จับรางวัลรถกระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ทุกเดือน และต่อที่ 3 รางวัลมูลค่า 1 ล้านบาท ตั้งแต่เดือนมีนาคม - สิงหาคม 2560 ด้วย ถือเป็นกลยุทธ์การทำตลาดที่ครบเครื่องและครอบคลุมทุกช่องทางเลยทีเดียว

logoredbul นายสุรชัย จงเลิศวราวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดเครื่องดื่มกระทิงแดง บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด กล่าวว่า กระทิงแดงทุ่มงบ 400 ล้านบาทในการเปิดเกมบุกตลาดเครื่องดื่มชูกำลังเต็มรูปแบบโดยมีเป้าหมายเพื่อขยายฐานผู้ดื่มหน้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 2 นี้เป็นต้นไป โดยแคมเปญหลักได้แก่ "กระทิงแดงลูกผู้ชายตัวจริง" ซึ่งมี "เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ" เป็นพรีเซนเตอร์ ตอกย้ำความเป็น "คนใจหล่อ– ลูกผู้ชายตัวจริงในแบบฉบับของกระทิงแดง" นอกจากนี้ยังเน้นการทำกิจกรรมการตลาดในพื้นที่ชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ โดยมี "กระทิงทีม" เป็นตัวขับเคลื่อนทั้งกิจกรรม บริการลูกค้า และเร่งรายการ-ส่งเสริมการขายให้ร้อนแรงและโดนใจกลุ่มลูกค้าให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญชิงโชคใต้ฝา "กระทิงแดง เรดดี้ ศุกร์แสน แสนสุข ปี 4" และลดราคาจาก 10 บาทเหลือ 9 บาท เพื่อสร้างสีสันและกระตุ้นยอดขายด้วย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,267 วันที่ 4 - 7 มิถุนายน พ.ศ. 2560