ม.หอการค้าคาดส่งออกไทยปีนี้โต 2.8%

11 ม.ค. 2560 | 09:51 น.
รศ.ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงการวิเคราะห์ทิศทางการส่งออกของไทย ปี 2560 ว่า การส่งออกไทยปี 2560 ส่งสัญญาณฟื้นตัว คาดว่าการส่งออกจะมีมูลค่า 221,583 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือขยายตัวร้อยละ 2.8 ( อยู่ในช่วง 218,403 ถึง 224,635 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือขยายตัวร้อยละ 1.3 ถึง 4.2)

โดยการส่งออกสามารถขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น (ขยายตัวมากสุดในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่ปี 2555) และอาเซียน รวมถึงประเทศทางตะวันออกกลาง แต่ทั้งนี้ต้องจับตามมองการส่งออกไปจีน (หดตัวต่อเนื่อง 4 ปี นับตั้งแต่ปี 2557) และอียู ที่อาจชะลอลง

โอกาสการส่งออก ปี 2560เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มทิศทางฟื้นตัว เป็นปัจจัยหลักให้การส่งออกในภาพรวมขยายตัวดีขึ้น, การอ่อนลงของค่าเงินบาท ส่งผลให้ไทยมีความได้เปรียบในด้านราคาส่งออกมากขึ้น อย่างไรก็ตามค่าเงินในภูมิภาคมีแนวโน้มอ่อนลงเช่นกัน, ราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้ไทยส่งออกไปประเทศผู้ส่งออกน้ำมันได้มากขึ้น, ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลดีต่อมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยและการค้าชายแดน / ผ่านแดนรวมขยายตัว

ความเสี่ยงการส่งออก ปี 2560 การชะลอตัวเศรษฐกิจจีน ส่งผลให้ไทยส่งออกไปจีนได้ชะลอลง, การกีดกันทางการทางค้าของ Trump ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อไทย, ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจยุโรป (เช่น Brexit และการเลือกตั้งของเนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี) มีผลให้ไทยส่งออกไป EU ชะลอลงและการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ มีผลให้ต้นทุนการผลิตของไทยสูงขึ้น

การขยายตัวของการส่งออกไปยังประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน เนื่องจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมัน ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศเหล่านั้นขยายตัวตลาดจีนชะลอตัวจากนโยบายลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจ และผลกระทบทางอ้อมจากการที่จีนโดนนโยบายด้านการค้าของ Trumpตลาดอาเซียนเดิมและอาเซียนใหม่ยังคงขยายตัวได้ดีจากปัจจัยบวก AECอย่างไรก็ตาม ไทยมีแนวโน้มพึ่งพาตลาดเดิมอย่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่นมากขึ้น แต่ต้องระวังการชะลอตัวในตลาด EU

คาดการณ์ค่าเงินในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกยังคงอ่อนไหว ในภาพรวมปี 2560 คาดว่าค่าเงินจะมีทิศทางอ่อนค่าลงค่าเงินหยวนของจีนคาดว่าจะมีทิศทางอ่อนค่าลงจากการที่ปัจจัยที่ยังคงมีเงินทุนไหลออกโดยคาดว่า จีนจะมีค่าเงินอ่อนลง ลำดับที่ 1 ญี่ปุ่น ลำดับที่ 2 และไทย ลำดับที่ 3

ราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำคาดว่าจะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันนำเข้าเพิ่มขึ้นแต่ก็เป็นการเพิ่มต้นทุนให้ผู้ส่งออกด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ จะต้องจับตามองนโยบายการผลิตของกลุ่ม OPEC และนโยบายด้านเศรษฐกิจและพลังงานของสหรัฐอเมริกา

ราคาสินค้าเกษตรในปี 2560 คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ซึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณผลผลิตของสินค้าเป็นหลัก ทั้งนี้ในปี 2559 ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวลดต่ำลง เนื่องจากผลผลิตที่มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในปี 2559 โดยในกลุ่มธัชพืชลดลงถึง -6.8% เนื่องจากปริมาณผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในสหรัฐฯ และ ข้าวสาลีในออสเตรเลียและเอเชียกลางที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก

การส่งออกข้าวของไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี 2560 จากผลผลิตที่เพิ่มขึ้น และสต็อกข้าวที่ยังคงเหลืออยู่ โดยคาดว่าจะสามารถส่งออกไปจีนได้มากขึ้น ตามสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล  ในปี 2560 คาดว่าประเทศผู้นำเข้า เช่น จีน และ ฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มนำเข้าเพิ่มขึ้น

การส่งออกของการค้าชายแดน ปี 2560 คาดว่าจะขยายตัว 3.6% หรือ เป็นมูลค่า 17,858 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (7.1% หรือ 651,817 ล้านบาท)ถ้านับรวมการส่งออกของการค้าชายแดน/ผ่านแดนรวม ปี 2560 คาดว่าจะขยายตัว 3.9% หรือ เป็นมูลค่า 20,305 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (7.4% หรือ 741,122 ล้านบาท)

การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5-10 บาท ไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต และการดำเนินธุรกิจมากนัก โดยเพิ่มเพียง 2% แต่อาจจะกระทบต่ออุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานหลักเล็กน้อย เช่น สิ่งทอ

การชะลอตัวทางเศรษฐกิจจีนนโยบายลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจของจีนนโยบาย Trump ที่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าและบริการจีนเพิ่มเป็น 45% ถ้าจีนยังคงใช้นโยบายค่าเงินอ่อนส่งผลกระทบให้ไทยส่งออกไปจีนได้ชะลอลง สินค้าหลักที่ได้รับผลกระทบทางตรง อาทิ  ยางพาราและผลิตภัณฑ์ทางอ้อมจาก Trump อาทิเครื่องจักรไฟฟ้า/อุปกรณ์ไฟฟ้า, เครื่องจักร/เครื่องกล