ผู้นำอาเซียนเดินทางถึงไทยแล้ว

01 พ.ย. 2562 | 23:07 น.

 

ผู้นำของประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียน ทยอยเดินทางถึงไทยแล้วในช่วงบ่ายถึงค่ำวานนี้ (1 พ.ย.) เพื่อร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้องที่กำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 2-3 พ.ย. 2562 โดยผู้นำอาเซียนที่มาถึงแล้วนั้นได้แก่ นางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา, ดร. มหาธีร์ บิน โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีแห่งมาเลเซีย, สมเด็จพระราชาธิบดี ฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์ แห่งบรูไนดารุสซาลาม, นายโรดรีโก โรอา ดูแตร์เต ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ และนายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

นางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาเดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ให้การต้อนรับ

ผู้นำอาเซียนเดินทางถึงไทยแล้ว

ดร. มหาธีร์ บิน โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีแห่งมาเลเซียและคู่สมรสเดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยมีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและคู่สมรสเป็นผู้ให้การต้อนรับ

ผู้นำอาเซียนเดินทางถึงไทยแล้ว

สมเด็จพระราชาธิบดี ฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์ แห่งบรูไนดารุสซาลามเสด็จพระราชดำเนินถึงกรุงเทพฯ พร้อมด้วยเจ้าชายอับดุล มาทีน พระโอรส โดยมีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ถวายการต้อนรับ

ผู้นำอาเซียนเดินทางถึงไทยแล้ว

นายโรดรีโก โรอา ดูแตร์เต ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ให้การต้อนรับ

นายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามและคู่สมรส เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยมีนายอิทธิพล  คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและคู่สมรสเป็นผู้ให้การต้อนรับ

ผู้นำอาเซียนเดินทางถึงไทยแล้ว

สำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 แบบเต็มคณะ กำหนดมีขึ้นในเวลา 17.00 น. วันนี้ (2 พ.ย.) ที่อิมแพคเมืองทองธานี ผู้นำอาเซียนจะหารือถึงการดำเนินการเพื่อส่งเสริมความร่วมมือที่ยั่งยืน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ภูมิภาคอาเซียนปรับตัวรับกับความท้าทายในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 การสร้างความเป็นหุ้นส่วน การเชื่อมโยงทั้งในภูมิภาคและนอกภูมิภาค รวมถึงหารือเกี่ยวกับอาเซียน 4.0 การกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และการใช้ประโยชน์จากการพูดคุยกับประเทศนอกภูมิภาคที่จะเชื่อมโยงกับแนวคิดอินโด-แปซิฟิก

 

ทั้งนี้ การดูแลความสงบเรียบร้อยและการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้เข้าร่วมประชุม ต้องใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานร่วมปฏิบัติรวม 17,000 นาย