โควิดรอบ 3 ทุบจีดีพีโต 4% จี้เร่งฉีดวัคซีนหลังสงกรานต์

16 เม.ย. 2564 | 01:05 น.

โควิดรอบใหม่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากน้อยเพียงใด ฟังคำตอบจากนายเกรียงไกร  เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ที่ให้สัมภาษณ์กับ “ฐานเศรษฐกิจ”

โควิดรอบใหม่ กำลังระบาดลุกลามรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในไทยและทั่วโลก ทำให้รัฐบาลแต่ละประเทศต้องเร่งจัดหา และเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่แข่งกับเวลา ซึ่งโควิดรอบใหม่ที่คนทั่วไปเรียก “ โควิดรอบ 3” นี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากน้อยเพียงใด ฟังคำตอบจากนายเกรียงไกร  เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ที่ให้สัมภาษณ์กับ “ฐานเศรษฐกิจ”

-กระทบเศรษฐกิจซึมลึก

 นายเกรียงไกร กล่าวว่า การที่มีการระบาดรอบใหม่ของโควิด คลัสเตอร์ทองหล่อ ศ.นพ.ยง (ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ก็ออกมายืนยันแล้วว่าเป็นสายพันธุ์อังกฤษ ซึ่งจะมีการแพร่กระจายเร็วกว่าปกติถึง 1.7  เท่า นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เกิดคลัสเตอร์ที่กระจายวงไปกว้างมาก และเร็วในกรุงเทพฯ แทบจะเต็มไปหมด

ตั้งแต่มีการระบาดรอบที่ 1 เราก็จะเห็นถึงผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย ธุรกิจค้าปลีก ร้านอาหาร ร้านนวด สายการบินต่าง ๆ  ซึ่งก็ส่งผลกระทบรุนแรง ทำให้กระทบคนจำนวนมาก รวมไปถึงรอบที่ 1 เริ่มคลี่คลายทางรัฐบาลก็จะต้องใช้เงินจำนวนมากที่จะไปกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อไปพยุง และไปเสริมสภาพคล่องให้กับบรรดาผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบ

ตอนนั้นเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ทุเลาลงก็มีมาตรการที่จะกระตุ้น โดยที่มีเรื่องของเที่ยวด้วยกัน คนละครึ่ง  ซึ่งก็ดูเหมือนว่าได้รับการตอบรับค่อนข้างดี เพราะมาตรการที่ออกมา หลัง ๆ มีการปรับปรุงให้สอดคล้องกับความต้องการของคนส่วนใหญ่ รัฐบาลมีการกำหนดวันหยุดเพิ่มขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้พาครอบครัวออกเดินทางไปท่องเที่ยวเพื่อเป็นการช่วยเหลือ และกระจายรายได้ไปยังภาคท่องเที่ยวเพื่อทดแทนนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ครั้งที่ 2 ครั้งที่แล้วก็มีการจองที่พักแต่ปรากฏว่า โชคไม่ดีปลายปี 2563 มีการระบาดในรอบที่ 2 ตามมา  ซึ่งก็เป็นช่วงที่น่าเที่ยว คนก็กำลังมีอารมณ์ที่จะท่องเที่ยวก็มีการจับจองที่พัก ทำให้แคมเปญที่ออกมาไม่ได้ผลเท่าที่ควร รอบที่สองก็ผ่านไปสถานการณ์โควิดก็ดูเหมือนจะเริ่มคลี่คลายลง ซึ่งรอบที่ 2 ศูนย์กลาง ไข่แดงอยู่ที่สมุทรสาครจากแรงงานต่างด้าว จนผ่านไประยะหนึ่งสถานการณ์การระบาดก็ลดลง ผู้ป่วยก็ลดลง

ก็กำลังจะเข้าสู่ตามนโยบายกระตุ้นรอบที่ 3 ซึ่งก็จะมีการออกมาตรการต่าง ๆ มากมาย รวมทั้งการท่องเที่ยวอะไรต่าง ๆ  ครั้งนี้ก็มาเจอเคสของคลัสเตอร์สถานบันเทิงทองหล่อ  และเหตุการณ์ครั้งนี้มาที่กรุงเทพฯโดยตรง มีการระบาดรวดเร็วด้วยเชื้อตัวใหม่ ซึ่งระบาดเร็วกว่าครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 และขยายในวงกว้าง

ขณะนี้ก็ติดไปไม่ว่าจะเป็นทั้ง รัฐมนตรี หรือว่า VIP ทั้งหลายที่เป็นแบบคนที่ค่อนข้างจะ VIP เลย ก็ติดเชื้อโควิดกันโดยทั่ว ขนาดคณะรัฐมนตรียังมีคนลาประชุมหรือมีการกักตัวที่บ้านจากกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงเพราะฉะนั้นแน่นอนย่อมส่งผลกระทบให้กับภาคเศรษฐกิจ

โควิดรอบ 3 ทุบจีดีพีโต 4% จี้เร่งฉีดวัคซีนหลังสงกรานต์

-ฉุดเที่ยวไทยทรุดต่อ

สิ่งที่กังวลตอนนี้คือมีแคมเปญ และรัฐเองก็เตรียมแพ็กเกจทางด้านการกระตุ้นรอบที่ 3 ไม่ว่าจะเที่ยวไทย ช้อปคนละครึ่งอะไรต่าง ๆ  ซึ่งก็เป็นมาตรการที่คาดว่าจะได้ผลดีในครั้งที่ 2 แต่ว่ามันแป๊กไปก่อน ครั้งนี้ก็เตรียมอย่างดี และก็ได้รับการตอบรับ และมีการกำหนดวันหยุดในช่วงสงกรานต์ เพื่อเอาช่วงสงกรานต์เป็นช่วงคิกออฟ โดยกำหนดวันหยุดให้ถึง 6 วัน และถ้าภาคเอกชนมีการลาหัว-ท้ายก็ได้วันหยุดถึง 9 วัน ก็เป็นวันหยุดยาวเพียงพอที่จะทำให้บรรดาคนจะได้พาครอบครัวเดินทางไปท่องเที่ยว ไปจองโรงแรม ซึ่งโรงแรมก็มีการออกแพ็กเกจมา ภาครัฐก็สนับสนุนทุกอย่าง เป็นสิ่งที่กำลังไปในทิศทางที่ดี แต่ว่าโชคไม่ดี ก็มาเจอโควิดรอบใหม่คล้าย ๆ กับครั้งที่ 2 ที่กลับมาระบาดในจังหวะที่ได้วางแผนไว้อย่างดีแล้ว

ในครั้งนี้สิ่งที่เห็นชัดก็คือว่า รัฐบาลกำหนด เขตที่เป็นจังหวัดสีแดงได้แก่ กรุงเทพ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี และนครปฐม (ปัจจุบันพื้นที่สีแดงเพิ่มเป็น 18 จังหวัด)ซึ่งแถบนี้เป็นเป้าหมายหลักในการที่จะกระจายออกไปท่องเที่ยวตามที่ต่าง ๆ ในต่างจังหวัดในช่วงหยุดที่จะเอาเงินไปใช้จ่าย เป็นผู้มีกำลังซื้อสูง ก็จะเป็นลูกค้าที่กำลังจะออกไปพัก ไปเที่ยว ไปเยี่ยมบ้าน ไปเยี่ยมญาติ อะไรอย่างนี้

พอเกิดกรณีอย่างนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ 1.คนจำนวนหนึ่งไม่เดินทางแล้ว แต่อีกจำนวนหนึ่งก็ยังคงเดินทางอยู่ แต่ว่าความคึกคักก็ลดลง ความระมัดระวังมากขึ้น เที่ยวก็เที่ยวแบบไม่เต็มที่ เพราะทางสาธารสุขได้ออกมาเตือนว่า ห้ามสาดน้ำ ห้ามเล่นน้ำ ต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ต้องรักษาระยะห่าง ต้องล้างมือบ่อย ๆ  สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ทางจิตวิทยาแล้วจะทำให้ไม่คึกคักเหมือนกับที่วางแผนไว้แต่ต้น เพราะฉะนั้นคนส่วนหนึ่งก็อาจจะยกเลิกการเดินทาง อีกพวกหนึ่งเสียดายเงินที่จองไว้แล้ว อาจจะไปแต่อาจไม่คึกคัก อาจจะไปแล้วแทนที่จะไปยาว อาจไปแป๊บเดียวแล้วกลับ ไปแล้วไม่สนุกก็กลับมาอยู่บ้านดีกว่า

นอกจากเม็ดเงินจะไม่สะพัดในหมู่ประชาชนทั่วไปแล้ว แม้จะมีการล็อกดาวน์เป็นจุด ๆ ไม่ล็อกดาวน์ทั้งประเทศ แต่ก็จะทำให้เศรษฐกิจแต่ละแห่งได้รับผลกระทบด้วย ร้านอาหาร ห้างร้านต่าง ๆ อาจจะต้องลดเวลาแทนที่จะเปิดได้ 5 ทุ่มเที่ยงคืนก็จะต้องเหลือ 3 ทุ่ม เพราะฉะนั้นระยะเวลาขายก็จะน้อยลง และก็ไม่ให้ขายสุราก็มีกฎเกณฑ์ออกมา จะทำให้เศรษฐกิจเกิดการสะดุด ไม่เป็นไปตามที่เราคิด

โควิดรอบ 3 ทุบจีดีพีโต 4% จี้เร่งฉีดวัคซีนหลังสงกรานต์

-จับตาเอสเอ็มอีเลิกจ้าง-สร้างภาระทางการคลังเพิ่ม

สิ่งที่กังวลตามอีกก็คือว่า ทุกครั้งของการระบาดผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือ SME ที่กำลังจะลืมตาอ้าปาก แล้วก็คาดหวังพอไม่ได้ปั๊บ ก็จะต้องเป็นภาระรัฐบาลที่จะต้องหามาตรการ หาเงินไปกระตุ้น เอามาตรการการเงินการคลังไปช่วยในเรื่องสินเชื่อเพิ่มเติมให้เขา เพื่อให้เขามีท่อน้ำเลี้ยงในการที่จะทำให้เขาสามารถที่จะอยู่รอดได้ต่อไป ไม่เช่นนั้นก็จะล้ม ถ้าล้มแล้วก็จะมีการเลิกจ้าง  คนจะตกงานตามมาและกระทบเศรษฐกิจ

และที่สำคัญกว่านั้นมันเป็นภาระทางการคลังมาก จะเห็นว่าขณะนี้กระทรวงการคลังก็ต้องกู้เงินจำนวนมาก พอเศรษฐกิจไม่ดีก็ทำให้เป้าการจัดเก็บรายได้จากภาษีก็ต่ำไปด้วย จาก 5 เดือนแรกปีงบ 2564 ก็เก็บได้ 8 แสนกว่าล้าน ลดลงไปกว่า 14% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้จนถึงสิ้นปีนี้ก็เกรงว่า ถ้าสถานการณ์ยังยืดเยื้อและมีดรคระบาดกลับมารอบแล้วรอบเล่าแบบนี้จะส่งผลทำให้เศรษฐกิจของเรา แล้วก็ภาระทุกอย่างมันจะแย่ลงไปด้วย

-จีดีพี 4% อาจจะมีปัญหาใช่หรือไม่

 ใช่ ที่รัฐบาลตั้งเป้าว่าจีดีพีปีนี้จะโตได้ 4%  ก็อาจจะไม่ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้

-ผลจากโควิด แรงงานต่างด้าวกลับประเทศ หลายโรงงาน หลายอุตสาหกรรมมีปัญหาขาดแคลนแรงงาน

 ใช่ครับ มีปัญหาขาดแคลนแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะตอนนี้เราก็ไม่สามารถให้แรงงานเมียนมาข้ามมาได้ด้วย ตอนนี้ก็ขาดแคลนแรงงานต่างด้าว เพราะว่าได้กลับ(ประเทศ)กันไป ตอนนี้ทางด้านด่านทุกอย่าง ประกอบกับทางเมียนมาขณะนี้ก็เกิดเรื่องภายใน ก็เป็นปัญหาซ้ำซ้อน แต่ท้ายที่สุดมันจะส่งผลทำให้เครื่องยนต์เศรษฐกิจสะดุด ไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้ ถ้าปัญหา(โควิด)ยังทอดไปยาว สิ่งที่เรากังวลคือ เรายังฉีดวัคซีนน้อย เพราะฉะนั้นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องวางแผนหลังจากเสร็จสิ้นจากสงกรานต์นี้ก็คือ วัคซีน เพราะจะเป็นอีกตัวที่จะช่วยสร้างความมั่นใจ และช่วยทำให้เราเปิดประเทศได้เร็วขึ้น ขอให้เร่งฉีด

สรุปข้อกังวลที่หนึ่งก็คือว่า  ถ้าเราต่างคนการ์ดตก ไม่ปฏิบัติตามข้อแนะนำอย่างเคร่งครัดก็เกรงว่าจะทำให้โอกาสของโรคโควิด-19ไปกับนักท่องเที่ยวที่ออกจากพื้นที่สีแดงที่เป็นจังหวัดที่เป็นลูกค้าโดยตรง คือคนเหล่านี้จะไปเที่ยว ซึ่งถ้าออกไปแล้วก็มีโอกาสที่จะพา(เชื้อโควิด)ออกไประบาดเพิ่มเติม  ซึ่งหลังสงกรานต์ก็เกรงว่าจะทำให้มีการระบาดเพิ่มขึ้นไปอีก จากที่มีการระบาดอยู่แล้ว เพราะว่าเชื้อตัวนี้ติดง่ายกว่าเชื้อเดิม

ข้อ 2 มันก็จะเกิดปัญหาก็คือว่า เมื่อระบาดแล้วจะทำให้เศรษฐกิจสะดุด และก็จะเป็นภาระภาครัฐเพิ่มอีก และเป้าหมายต่าง ๆ ที่ตั้งก็จะไม่เป็นไปตามนั้น เพราะฉะนั้นช่วงหลังสงกรานต์จะเป็นช่วงที่ต้องระวังอย่างมาก แล้วก็ยังย้ำอยู่ว่าวัคซีนยังเป็นสิ่งที่มีความสำคัญและจำเป็นมากในการที่จะพลิกฟื้นและสร้างความมั่นใจ ที่ต้องเร่งฉีดเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้มากที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

รวมข่าว "โควิด-19" วันที่ 16 เม.ย.64 แบบอัพเดทล่าสุด

กทม.ย้ำให้ผู้เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงเข้าระบบคัดกรอง BKK COVID 19 

เริ่มวันนี้ ธนาคารปรับเวลา เปิด-ปิด ป้องกันโควิดระลอกใหม่

ศบค.ชุดใหญ่เคาะแน่มาตรการยกระดับ คุมระบาดโควิด

Hospitel เปลี่ยนโรงแรม เป็น โรงพยาบาล(ชั่วคราว) รองรับผู้ป่วยโควิด

นนทบุรี ติดเชื้อโควิดรายใหม่วันเดียวพุ่ง 94 ราย โยงสถานบันเทิง