ราคาน้ำมันดิบปรับลดกว่า 3%

27 ตุลาคม 2563 ราคาน้ำมันดิบ ปรับลดกว่า 3% หลังตลาดเกิดความกังวลเกี่ยวกับ การแพร่ระบาดของโควิด-19 และ ปริมาณการผลิตน้ำมันของลิเบียที่เพิ่มขึ้น

+ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงอยู่ในระดับสูงทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อทั่วโลกราว 43 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 1.2 ล้านคน ขณะที่ประเทศอิตาลีได้ออกคำสั่งประกาศปิดร้านอาหารก่อน 6 โมงเย็น และสั่งปิดยิม โรงภาพยนตร์ รวมไปถึงสระว่ายน้ำ ซึ่งกดดันความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลก

+ บริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย (NOC) เผยว่า สามารถกลับมาส่งออกน้ำมันดิบได้อีกครั้ง และคาดว่าจะสามารถส่งออกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นถึงระดับ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์หน้า ซึ่งเร็วกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะใช้เวลาในการปรับเพิ่มการส่งออกภายใน 4 สัปดาห์

+ ผู้ผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโก อพยพคนงานออกจากแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ หลังพบการก่อตัวของพายุเฮอร์ริเคนลำดับที่ 27 ในฤดูกาลนี้มุ่งหน้าสู่อ่าวเม็กซิโก ส่งผลให้ผู้ผลิตหยุดการผลิตน้ำมันดิบราว 0.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือร้อยละ 16 ของกำลังการผลิตทั้งหมดในอ่าวเม็กซิโก

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณส่งออกน้ำมันเบนซินจากเกาหลีใต้ปรับตัวลดลงในเดือนก.ย. 63 ท่ามกลางความต้องการใช้ในภูมิภาคเอเชียที่ยังอ่อนตัวจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังจีนส่งออกน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านตัน หรือเปลี่ยนแปลงร้อยละ 9.7 ท่ามกลางอุปสงค์น้ำที่ยังซบเซาในภูมิภาค

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ราคาทองปิดบวก 2 วันติดต่อ นักลงทุนซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังดาวโจนส์ร่วง

อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทเปิดตลาด "ทรงตัว"

ดาวโจนส์ ปิดร่วง 650 จุด วิตกโควิด-19 พุ่ง

สถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์วันที่ 19-23 ต.ค. 63 และคาดการณ์สัปดาห์ที่ 26-30 ต.ค. 63

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ

 + Government of National Accord (GNA) รัฐบาลของลิเบียที่สหประชาชาติรับรองกับกองทัพแห่งชาติลิเบีย (Libya National Army :LNA) ทำข้อตกลงหยุดยิง และยกเลิกการปิดล้อมแหล่งผลิตและท่าส่งออกน้ำมันตั้งแต่กลางเดือน ก.ย. 2563 ทำให้ National Oil Corp. (NOC) บริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ประมาณ 500,000 บาร์เรลต่อวัน ในปัจจุบัน และคาดการณ์ว่าจะกลับมาอยู่ที่ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในเดือน พ.ย. 63 ขณะที่ท่าส่งออก Es Sider (ปริมาณสูบถ่าย 350,000 บาร์เรลต่อวัน) ซึ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ และท่า Ras Lanuf (ปริมาณสูบถ่าย 200,000 บาร์เรลต่อวัน) ทยอยกลับมาดำเนินการ อนึ่งลิเบียเป็นสมาชิก OPEC ที่ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเข้าร่วมมาตรการลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบเนื่องจากเผชิญปัญหาสงครามกลางเมือง

+นักลงทุนกังวลต่ออุปสงค์น้ำมันโลก หลังจากยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 วันที่ 25 ต.ค. 2563 ในหลายประเทศที่สร้างสถิติยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยเฉพาะยุโรป อาทิ ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ในฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 52,010 ราย ทำสถิติสูงสุดใหม่ติดต่อกันเป็นวันที่ 4 และยอดผู้ติดเชื้อใหม่ในอิตาลีเพิ่มขึ้น 21,273 ราย ทำสถิติสูงสุดเช่นกัน ทำให้ต้องกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ช่วง 26 ต.ค. – 24 พ.ย. 2563 หลังจากยกเลิกในเดือน พ.ค. ส่วนสเปนกลับมาประกาศภาวะฉุกเฉินและเตรียมประกาศเคอร์ฟิวในช่วงเวลา 23.00 – 6.00 น. อีกครั้ง

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก

+CFTC รายงานสถานะการลงทุนสัญญาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดนิวยอร์ก และตลาดลอนดอน สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 ต.ค. 63 กลุ่มผู้จัดการกองทุนปรับ Net Long Position เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 35,859 สัญญา มาอยู่ที่ 324,313 สัญญา

สัปดาห์นี้คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 39 – 44 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ให้จับตาการเจรจาระหว่างรัฐบาลพรรค รีพับลิกันและสภาผู้แทนพรรคเดโมแครตเรื่องการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ รอบใหม่เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 และติดตามการระบาดที่ยอดผู้ป่วยสะสมทะลุ 43 ล้านราย ทำให้หลายชาติต้องกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่นายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศหากตนได้รับการเลือกตั้งจะจัดหาวัคซีนสำหรับชาวอเมริกันทุกคนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ที่มา บมจ.ไทยออยล์