เซ็น MOU ดึง AI ซื้อขายข้าวเปลือก

26 ก.ย. 2563 | 09:00 น.

เอาจริง สมาคมโรงสีข้าวไทย สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในวงการข้าว จับมือ บ.อีซีไรซ์ ดิจิทัลฯ เซ็นเอ็มโอยู ร่วมพัฒนาเครื่องมือตรวจสอบสายพันธุ์ข้าว วงการแห่ร่วมเป็นสักขีพยาน ชี้เป็นเรื่องดีไม่ต้องโทษใครผิด-ถูก ด้านชาวนาหวั่นไม่แม่นยำจริง

เซ็น MOU ดึง AI ซื้อขายข้าวเปลือก

 

นายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย  เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า วันนี้ (26 ก.ย.63) สมาคมโรงสีข้าวไทย จัดประชุมสัญจร ประจำเดือนกันยายน ที่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เป็นการออกเยี่ยมเยือนรับทราบปัญหาต่างๆ และข้อเสนอแนะรวมถึงรับทราบข้อมูลผลผลิตสถานการณ์ข้าว ปีการผลิต2563/64 และสถานการณ์น้ำที่ลุ่มภาคกลาง ที่สำคัญจะมีการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการวิจัย เรื่อง การร่วมมือวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ให้กับอุตสาหกรรมข้าวไทย ระหว่างบริษัท อีซีไรซ์ ดิจิทัล เทคโนโลยี จำกัด และสมาคมโรงสีข้าวไทย ซึ่งปัจจุบันบริษัทนี้กำลังพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในกระบวนการตรวจสอบสายพันธุ์ข้าวไทยเพื่อช่วยยกระดับการตรวจสอบคุณภาพข้าว (พันธุ์ปน) ในกระบวนการซื้อขายข้าวเปลือกให้มีความแม่นยำและมีความเสถียรภาพขึ้น คาดว่าหากสำเร็จจะช่วยลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการตรวจลง

 

ทั้งนี้บริษัทจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทั้งหมด โดยทางสมคมจะเป็นผู้ทดลองใช้เทคโนโลยีที่ทางบริษัทพัฒนาขึ้น และช่วยให้ข้อมูลที่ถูกต้องในการพัฒนาเทคโนโลยีให้ตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมข้าว โดยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นนี้จะต้องสะดวกต่อการใช้งานที่สามารถนำไปใช้งานในภาคสนามได้ และสมาคมยินดีให้ความร่วมมือหรือประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นประโยชน์แก่โรงสี ของเทคโนโลยีดังกล่าวให้แก่สมาชิกเพื่อการพัฒนากระบวนการค้าข้าวไทยโดยรวมตามความต้องการของสมาคมโรงสีข้าวไทย

เซ็น MOU ดึง AI ซื้อขายข้าวเปลือก

 

นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า แต่ทั้งนี้ไม่เป็นการผูกพันสมาคมในการแนะนำหาลูกค้า โดยหากสมาชิกของสมาคมใช้เทคโนโลยีของบริษัทที่พัฒนาขึ้นนี้จนสำเร็จ จะมีความตกลงให้สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกของสมาคม อาทิ เช่น ส่วนลด20% ของค่าบริการและการซื้อผลิตภัณฑ์ อีกทั้งบริการพิเศษในการซ่อมแซม ปรับปรุง แก้ไข เปลี่ยนเครื่องในกรณีที่พบปัญหาในการใช้บริการ ซึ่งการใช้เป็นตัวเครื่องพกพาอาจจะไม่สะดวก ก็เลยแนะนำบริษัท เป็นไปได้ไหมที่จะพัฒนาใช้แอพพลิเคชั่นในมือถือทั้ง iOS หรือ Android ในมือถือ ถ่ายรูป และสแกนเมล็ดข้าว ประมวลผลลัพธ์ออกมาจะสะดวกทั้งคนในวงการค้าและคนทั่วไปที่ต้องการจะศึกษาเรื่องของข้าว

 

 

สุเทพ คงมาก

 

ด้านนายสุเทพ คงมาก กรรมการในคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) กล่าวว่า  ไม่ใช่เป็นการจับผิด นี่คือการพัฒนา จะทำเพียงด้านเดียวไม่ได้ เราต้องพึ่งกัน จะเห็นว่านวัตกรรมต่างๆ ไม่ใช่จะโยนภาระให้กรมการข้าว หรือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับผิดชอบอีกต่อไปแล้ว ซึ่งการที่สมาคมโรงสีข้าว มาทำในลักษณะแบบนี้นับว่าเป็นทิศทางที่ดี

 

เกษม ผลจันทร์

 

สอดคล้องกับนายเกษม ผลจันทร์  นายกสมาคมผู้รวบรวมและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ กล่าวว่า การใช้เครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ มาซื้อขายข้าวเปลือก ไม่ใช่เป็นการจับผิด แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ก็คือปัญหาสายพันธุ์ข้าวซึ่งบางพันธุ์ สีของเปลือกข้าวแยกไม่ออก จึงทำให้ตอนนี้มีปัญหาปลอมปนจากแปลงนา หรือปลอมปนในสถานที่รับซื้อ อาจจะเจตนาหรือไม่เจตนา พอข้าวปนเข้ามา ถึงทำให้ปลายทางเกิดปัญหาข้าวไม่ตรงกับความต้องการของผู้ซื้อ จึงทำให้เกิดการคิดค้นเครื่องมือที่จะแก้ปัญหาตรงนี้ ก็เพิ่งทราบข่าวว่าจะมีเครื่องมือนี้ช่วยแยกจากการมองด้วยตาเปล่าอาจจะผิดพลาดได้ เพราะสีของเปลือกข้าวคล้ายกันหมด แต่ก็ยังไม่ทราบว่าเครื่องตัวนี้จะมีกระบวนการทำงานอย่างไร ช่วยได้จริงหรือไม่ เพราะถ้าช่วยได้จริงเป็นการดี จะทำให้ปัญหาที่ทุกคนกังวลลงได้

 

เดชา นุตาลัย

 

นายเดชา นุตาลัย  อุปนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี หากแม่นยำจริง ถึงจะยอมรับได้ แต่ไม่ใช่ตรวจแล้ว ไม่น่าเชื่อถือเราก็ไม่ยอมรับ ชาวนากลัวตรงนั้นมากกว่า แล้วเมื่อตรวจแล้วพบว่าเป็นข้าวพื้นนุ่ม ราคาจะต้องสูงกว่าราคาข้าวเปลือกเจ้า เป็นการแลกกัน ถึงจะวิน-วิน นอกจากนี้ข้าวชนิดเดียวกัน ปลูกในฤดูต่างกัน เมล็ดข้าวก็แตกต่างกันด้วย อาทิ  ข้าว กข43 ปลูกฤดูฝนเมล็ดข้าวจะใหญ่ แต่ปลูกฤดูแล้งชนิดข้าวจะลีบเล็กมา ซึ่งเครื่องนี้มีความสามารถแค่ไหน สิ่งต่างๆ นี้ต้องระวัง และให้เกิดการยอมรับ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นโทษสำหรับชาวนา