คณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อตรวจสอบและติดตามการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาการทำการประมงและแรงงานในภาคประมง จัดแถลงข่าว (19 ก.ย.63) และเปิดการฝึกอบรม “โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติติการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายภาคประมง โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ PIPO นั้น เมื่อเห็นข่าวดังกล่าวนี้ ชาวประมง 22 จังหวัด เริ่มมีเคลื่อนไหวทันที
นายมงคล สุขเจริญคณา ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากข่าวได้เห็นข่าวคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อตรวจสอบและติดตามการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาการทำการประมงและแรงงานในภาคประมงมีการสัมมนาในเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายชาวประมงอีกแล้ว ทำให้สะท้อนเห็นว่าการบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงาน เจ้าหน้าที่รัฐ ทีมีอำนาจมากเกินไป ไม่น้อยกว่า 11 หน่วยงาน จ้องจับแต่ชาวประมง ซึ่งเห็นว่า กฎหมายประมงมีปัญหา ก็เรียกร้อง แทนที่รัฐบาลจะสะท้อนกลับมาว่าจัดสัมมนามาวิเคราะห์ว่าฝ่ายที่ปฏิบัติติหน้างานมีปัญหาอะไรกับชาวประมง มีปัญหาจริงหรือไม่ แต่กลับมาจัดสัมมนาบังคับใช้กฎหมาย ทำอย่างไรจะจับชาวประมง ซึ่งการกระทำอย่างนี้ไม่ฟังเสียงชาวประมงเลย เป็นการสะท้อนความไม่จริงใจของรัฐบาล
“ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลเวียดนาม มีการส่งเสริมกองเรือ ในขณะที่โดนใบเหลืองจากอียู 3-4 ปี ก็ยังทำการประมงปกติ ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ส่วนรัฐบาลประเทศจีน เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นมหาอำนาจ มีประชากร 1,300-1,400 ล้านคน ต้องการความมั่นคงทางด้านอาหาร รัฐบาลได้ส่งเสริมให้กองกำลังเรือชองจีนออกไปหาทรัพยากรเพื่อมาหล่อเลี้ยงให้กับประชาชนของเค้าไม่ให้ขาดแคลนอาหาร”
แต่ประเทศไทยกลับตรงกันข้าม นับตั้งแต่ 1 ก.ค.2558 เป็นต้นมา เราเตือนไปแล้วว่าถ้าแก้ปัญหาแบบโดยไม่รับฟังเสียงเรียกร้องของชาวประมง เตรียมเริ่มนับถอยหลังสู่วันสิ้นสลายการประมงไทย เห็นได้ชัดแล้ววันนี้ “ประมงไทย” ล่มสลายจริง เราจะทนกันต่อไปอีกหรือไม่ พี่น้องชาวประมงก็มาดูกันแล้วว่า จะยอมอีกหรือไม่ วันนี้พร้อมกันหรือยัง