“สนพ.” เผยราคาน้ำมันดิบแนวโน้มทรงตัว

11 ก.ค. 2563 | 04:40 น.

นายวัฒนพงษ์  คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ “สนพ.” เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มทรงตัว โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันที่สูงขึ้น หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง โดยตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ของโลกอย่างสหรัฐฯ และจีนปรับตัวดีขึ้น แสดงถึงความต้องการใช้น้ำมันที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น ปัจจัยหนุนจากข่าวดีเรื่องการพัฒนาวัคซีนเพื่อป้องกันเชื้อไวรัส “โควิด-19” (Covid-19) ซึ่งเป็นที่น่าพอใจ

อย่างไรก็ดี  ตลาดยังกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดครั้งใหม่ของไวรัสโควิด-19 หลังองค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่าปัจจุบันยังไม่ผ่านพ้นสภาวะเลวร้าย โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ อุปทานน้ำมันมีแนวโน้มกลับมาเพิ่มขึ้นตามข้อตกลงของ OPEC+ ที่จะลดกำลังการผลิตลงมาอยู่ที่ 7.7 ล้านบาร์เรล/วัน ในช่วงเดือน ส.ค.-ธ.ค. 63 (ลดจากเดือน พ.ค.-ก.ค.63 ซึ่งลดที่ระดับ 9.6-9.7 ล้านบาร์เรล/วัน)

โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และรัสเซียมีแผนจะผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในเดือน ส.ค. 63 รวมทั้งบริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียมีแนวโน้มจะกลับมาดำเนินการผลิตและส่งออกอีกครั้ง หลังหยุดชะงักนานกว่า 6 เดือน นอกจากนี้ จำนวนหลุมขุดเจาะในสหรัฐฯ อาจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้ในช่วงหลังของปี 2563 หากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกอยู่ในระดับสูงกว่า 40 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

“สนพ.” เผยราคาน้ำมันดิบแนวโน้มทรงตัว

ด้านราคาน้ำมันโลกนั้น (29 มิถุนายน – 5 กรกฎาคม 2563) ราคาน้ำมันดิบดูไบและเวสต์เท็กซัส เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 42.17 และ 39.86 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.05 และ 0.70 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นหลังตัวเลขทางเศรษฐกิจทั่วโลกเดือนมิถุนายนมีทิศทางที่ดีขึ้น อาทิ ดัชนีกิจกรรมการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นไปแตะระดับ 52.6 สูงสุดในรอบ 1 ปี และดัชนีรวมของยูโรโซนปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 75.7 รวมทั้งจีนที่เผยกำไรภาคอุตสาหกรรมในเดือนพษภาคมปรับตัวเพิ่มขึ้น 6% เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความต้องการใช้น้ำมันที่เริ่มฟื้นตัว

สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุดสัปดาห์วันที่ 26 มิถุนายน 63 ปรับตัวลดลงกว่า 8.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 537 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ 0.7 ล้านบาร์เรล ส่วน Baker Hughes รายงานจำนวนหลุมขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯปรับลดลงสู่ระดับ 265 แท่น ณ 26 มิถุนายน โดยในเดือนมิถุนายนปรับลดลงรวม 36 แท่น เป็นการลดลง 4 เดือนต่อเนื่อง

ขณะที่ราคากลางน้ำมันสำเร็จรูปตลาดภูมิภาคเอเชียนั้น  ราคาน้ำมันเบนซินออกเทน 95, 92 และ 91 (Non-Oxy) เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 45.75, 43.50 และ 44.71 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว 1.87 ,2.01 และ 2.00 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล โดยปริมาณส่งออกน้ำมันเบนซินในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน

ราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (10 PPM) เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 48.93 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.07 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
              ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.06 บาท/เหรียญสหรัฐฯ ระดับเฉลี่ย 31.1556 บาท/เหรียญสหรัฐฯ (ต้นทุนน้ำมันเบนซินลดลง 0.35 บาท/ลิตร น้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 0.03 บาท/ลิตร) ค่าการตลาดของน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล และดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 2.30 บาท/ลิตร (โดยมีค่าขนส่งน้ำมันทางท่อจากศรีราชา - กรุงเทพฯ อีก 0.15 บาท/ลิตร) และค่าการกลั่น เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 0.39 บาท/ลิตร

“สนพ.” เผยราคาน้ำมันดิบแนวโน้มทรงตัว

ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 63 กองทุนน้ำมันมีสินทรัพย์รวม 56,275 ล้านบาท หนี้สินกองทุน 22,647 ล้านบาท ฐานะกองทุนน้ำมันสุทธิ 33,628  ล้านบาท ประกอบด้วย บัญชีน้ำมัน  40,243  ล้านบาท  และบัญชี LPG  -6,615  ล้านบาท”