“กนอ.” เผย “โควิด” ฉุดยอดขาย-เช่าพื้นที่นิคมอุตฯลดลง

07 ก.ค. 2563 | 03:00 น.

“กนอ.” เผย “โควิด-19” ฉุดยอดขาย-เช่าพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมลดลง เล็งกระตุ้นการลงทุนด้วยแพคเก็จจูงใจหลังคลายล็อกดาวน์

การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ “กนอ.” รายงานยอดขาย/เช่าพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมไตรมาส 3 ปีงบ 63 (เม.ย.-มิ.ย.63) เพิ่มขึ้น 3.86% ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน  โดยผลจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส “โควิด-19” (Covid-19) ทำให้นักลงทุนไม่สามารถเดินทางเข้ามาติดต่อหรือเยี่ยมชมพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมได้  ซึ่งจากการออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในนิคมฯของ กนอ.ทำให้ดึงการลงทุนเพิ่มขึ้นได้ช่วงไตรมาส 3 และอานิสงส์จาก "สงครามการค้า" (trade war) ระหว่างสหรัฐอเมริกา-จีน ทำให้นักลงทุนบางส่วนย้ายฐานการผลิตมาไทย เฉพาะกลุ่มยานยนต์-ขนส่ง เหล็ก-ผลิตภัณฑ์โลหะมากสุด

นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการ กนอ. เปิดเผยว่า ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2563 (ต.ค.62 - มิ.ย.63) กนอ.มียอดขาย/เช่าพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม จำนวน 1,696.92 ไร่ ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 3.86% โดยคาดว่าเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้นักลงทุนไม่สามารถเดินทางมาเยี่ยมชมสถานที่และติดต่อธุรกิจเพื่อประกอบการตัดสินใจจอง/ชื้อ/เช่าที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม ทั้งในนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงานและนิคมอุตสาหกรรมที่ กนอ. ดำเนินการเองได้

“กนอ.” เผย “โควิด” ฉุดยอดขาย-เช่าพื้นที่นิคมอุตฯลดลง

ทั้งนี้  ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ “อีอีซี” (EEC) มียอดการขาย/เช่าจำนวน 1,598.95 ไร่ และนอกพื้นที่อีอีซี จำนวน 97.97 ไร่ มีการแจ้งเริ่มกิจการใหม่ 114 โรงงาน เกิดการจ้างงานเพิ่ม 12,019 คน  ขณะเดียวกันประเทศไทยยังได้รับอานิสงส์จากสงครามการค้า ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ทำให้นักลงทุนบางส่วนจากจีนและไต้หวันย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย โดยส่วนใหญ่จะทำสัญญาจองเช่าไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว

นอกจากนี้ ผลจากการจัดอันดับของ U.S. News & World Report ที่ระบุว่า ประเทศไทย ติดอันดับ 1 ของโลกประเทศที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นธุรกิจจากทั้งหมด 73 ประเทศทั่วโลก แสดงให้เห็นว่านิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ ซึ่งจากการตรวจสอบใบอนุญาตใช้ที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมแล้วพบว่าช่วงต้นปี 63 นักลงทุนทยอยมายื่นขออนุญาตการใช้ที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมเป็นผลให้มีการจ้างงานในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น

แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกรวมทั้งไทย ซึ่งการจัดตั้งนิคมฯอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่กระบวนการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมก็ไม่ได้หยุดนิ่ง โดยช่วงต้นปี 63 มีการลงนามในสัญญาร่วมดำเนินงานแล้วจำนวน 4 แห่ง และประกาศเป็นเขตอุตสาหกรรมในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ 1. นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง โครงการ 6 อำเภอปลวกแดง อำเภอบ้านค่าย และอำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง พื้นที่ประมาณ 1,322.40 ไร่ มูลค่าการลงทุนโครงการ ประมาณ 2.62 พันล้านบาท

และ 2. นิคมอุตสาหกรรมเวิลด์ ฟู๊ด วัลเลย์ ไทยแลนด์ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง พื้นที่ประมาณ 1,398.04 ไร่ มูลค่าการลงทุน ประมาณ 4.23 พันล้านบาท และมีนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ระหว่างการประกาศเป็นเขตอุตสาหกรรม อีก จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมโรจนะชลบุรี 2 (เขาคันทรง) พื้นที่ประมาณ 902.59 ไร่ มูลค่าการลงทุนประมาณ 2.10 พันล้านบาท และนิคมอุตสาหกรรมเอเชีย คลีน อินดัสเตรียล ปาร์ค พื้นที่ ประมาณ 1,319.89 ไร่ มูลค่าการลงทุน ประมาณ 2.44 พันล้านบาท

“กนอ.” เผย “โควิด” ฉุดยอดขาย-เช่าพื้นที่นิคมอุตฯลดลง

เป็นผลให้มีพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสะสม ประมาณ 177,261 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ที่นิคมอุตสาหกรรมดำเนินการเอง ประมาณ 39,332 ไร่ และเป็นนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงาน ประมาณ 137,929 ไร่ เป็นพื้นที่ขายและให้เช่า ประมาณ 114,852 ไร่ /เป็นพื้นที่ขาย/ให้เช่าแล้ว ประมาณ 92,019 ไร่ จึงยังคงมีพื้นที่คงเหลือสำหรับขาย/ให้เช่าอีกประมาณ 22,833 ไร่ มีมูลค่าการลงทุนสะสม ประมาณ 4.02 ล้านล้านบาท มีโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมประมาณ 6,112 โรง และมีการจ้างงานรวมทั้งสิ้นประมาณ 515,962 คน 

กลุ่มอุตสาหกรรม 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง 16.84% ,2.อุตสาหกรรมเหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะ 11.37% ,3.อุตสาหกรรมเครื่องยนต์ เครื่องจักรและอะไหล่ 9.79% ,4.อุตสาหกรรมยาง พลาสติก และหนังเทียม 8.32% และ5.อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือวิทยาศาสตร์ 7.89%

“นักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นยังคงครองแชมป์ให้ความสนใจมาลงทุนมากเป็นอันดับหนึ่งถึง 28% รองลงมา คือ นักลงทุนจากประเทศจีน 17% ,ไต้หวัน 9% ,ออสเตรเลีย 6% และฮ่องกง 6%”

สำหรับภาพรวมการลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมภายใต้การกำกับดูแลของ กนอ.ทั้งนิคมอุตสาหกรรมที่ กนอ.ดำเนินการเอง และนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงาน ปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 61 แห่ง และท่าเรืออุตสาหกรรม 1 แห่งใน 17 จังหวัด เป็นนิคมอุตสาหกรรมที่ กนอ.ดำเนินการเอง 14 แห่ง และนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงาน 47 แห่ง 

นางสมจิณณ์ กล่าวต่อไปอีกว่า จากการที่รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์นับเป็นการส่งสัญญานที่ดีที่จะทำให้เกิดการลงทุนใหม่ๆ  หลังจากที่นักลงทุนชะลอการตัดสินใจมาระยะหนึ่ง ซึ่งกนอ.เล็งเห็นถึงโอกาสนี้เพื่อพลิกฟื้นวิกฤตต่างๆ ด้วยการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย/เช่าที่ดินในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมของ กนอ. เพื่อจูงใจนักลงทุนให้หันมาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น โดยแต่ละโปรโมชั่นขึ้นอยู่กับพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งนอกจากจะสามารถจูงใจให้เกิดการลงทุนเพิ่มขึ้นแล้ว ยังเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมเดิมซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น