นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจซึ่งเน้น 4 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน เกษตรกร และคนว่างงานที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค "โควิด-19" (COVID-19) ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะ “ภาคเกษตร” นับว่ามีบทบาทสำคัญยิ่งในฐานะเศรษฐกิจฐานรากที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ กระทรวงอุตฯ จึงได้สั่งการให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เร่งฟื้นฟูภาคเกษตรสู่ เกษตรอุตสาหกรรมที่ดีพร้อม เพื่อกระตุ้นและเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากที่มั่นคงให้กับประเทศ ภายใต้งบประมาณของกระทรวงฯ และการขอรับจัดสรรเพิ่มจาก พรก. เงินกู้กระทรวงการคลังฯ เพื่อให้การขยายผลสามารถดำเนินการได้อย่างครอบคลุมในทุกมิติ
สำหรับเกษตรอุตสาหกรรมระดับต้นน้ำ เป็นการนำระบบการผลิตและบริหารจัดการในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจเกษตร มีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในฟาร์ม เช่น การพัฒนาโดรนอัตโนมัติ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรในการสำรวจผลผลิต ทั้งยังสามารถฉีดพ่นสารอินทรีย์สำหรับพืชผลทางการเกษตร ซึ่งสอดคล้องกับบริบทของเกษตรปลอดสารพิษในพื้นที่
ส่วนการพัฒนาในระดับกลางน้ำ หรือ กระบวนการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตผลทางการเกษตร หรือยืดอายุด้วยหีบห่อ โดยใช้เทคโนโลยี เครื่องจักรกล และนวัตกรรมการแปรรูปที่มีประสิทธิภาพ และระดับปลายน้ำ ซึ่งเป็นการดำเนินธุรกิจ ขยายช่องทางการตลาด รวมถึงตลาดออนไลน์ที่ทันสมัย โดยได้มอบหมาย ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 หรือ Industry Transformation Center (ITC 4.0) ในทุกภูมิภาค ดำเนินการพัฒนาศักยภาพในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ สร้างโอกาสทางธุรกิจ
พร้อมทั้งเชื่อมโยงเครือข่ายโซ่อุปทานของเกษตรอุตสาหกรรมอย่างเต็มรูปแบบ ที่มีการจัดการคุณภาพต่อเนื่อง ตั้งแต่วัตถุดิบสู่ตลาด และพัฒนาการจัดการระบบขนส่งสินค้า และเพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรสมัยใหม่ ซึ่งกระทรวงได้ปั้นธุรกิจผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรที่ยังขาดแคลน ตลอดจนการปั้นธุรกิจผู้ให้บริการเครื่องจักรกลการเกษตรแปลงเล็กแบบครบวงจรในอัตราค่าบริการที่เหมาะสมและเข้าถึงได้จากการขับเคลื่อนเกษตรอุตสาหกรรม
กระทรวงได้ผนวกกับจุดแข็งของการสร้างความมั่นคงบนพื้นฐาน การทำเกษตรกรรมยั่งยืน ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการร่วมมือกับเครือข่ายเกษตรกรภาคประชาชนในพื้นที่ เพื่อขับเคลื่อนการทำเกษตรที่มีความเหมาะสมกับวิถีชีวิตและความต้องการของแต่ละชุมชน จึงได้ผสานแนวคิดของการบริหารจัดการสมัยใหม่ของภาคอุตสาหกรรม เข้ากับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เพื่อนำร่องเป็น โมเดลเกษตรอุตสาหกรรมเป็นพื้นที่แรก ภายใต้ “บ้านบึงโมเดล”
เพื่อจะให้เป็นต้นแบบการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนตั้งแต่ระดับต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำดังกล่าว โดยมีความร่วมมือกับศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของเกษตรกรในการสร้างระบบเศรษฐกิจชุมชนฐานรากตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และพึ่งพากันในเครือข่ายเกษตรกร จึงสามารถต่อยอดการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากกระจายไปสู่ชุมชนเครือข่ายเกษตรกรทั่วประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
อย่างไรก็ดี ล่าสุด กสอ. ได้ออกแบบบรรจุภัณฑ์ต้นแบบ อโลเวร่า สเปรย์ (Aloe Vera Spray) ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีสีสันสวยงาม ทันสมัย ทั้งยังสะท้อนความเป็นสเปรย์ว่านห่างจระเข้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้น มอบให้กับ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง พร้อมกันนี้ กสอ.ได้สาธิตการทำงานของ “โดรนเจ้าเอี้ยง” ในพื้นที่แปลงเกษตรอินทรีย์ เพื่อเก็บข้อมูลและวิเคราะห์การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรแบบอัจฉริยะ และเตรียมพัฒนาแอปพลิเคชัน Agricultural Machinery Services on Demand หรือ AMAS (อะ-มัส) เพื่อรวบรวมผู้ให้บริการทางการเกษตร ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีเครื่องจักรกลสมัยใหม่ ที่เป็นทางเลือกใหม่สำหรับเกษตรกรในการลดต้นทุนด้านเครื่องจักรกลและค่าบำรุงรักษา ทั้งยังช่วยให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตรงเวลาและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
บ้านบึงโมเดล ถือเป็นอีกหนึ่งชุมชนต้นแบบเกษตรอุตสาหกรรมที่ได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้และสามารถต่อยอดการสร้างเกษตรอุตสาหกรรมที่พึ่งพาตนเองได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งมีความพร้อมในการรองรับแรงงานที่มีแนวโน้มเดินทางกลับบ้านในช่วงว่างงาน ซึ่งนับเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองได้บนพื้นฐานของเกษตรกรรมยั่งยืน
อย่างไรก็ดีกระทรวงอุตสาหกรรม มีความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรในทุกพื้นที่ ในทุกกระบวนการจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ ผ่านศูนย์ ITC 4.0 ที่มีความพร้อมเพื่อการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป โดยคาดว่าจะสามารถสร้างเกษตรอุตสาหกรรมได้กว่า 80 กลุ่มทั่วประเทศทันทีใน 90 วัน