“BOI” เน้นดูดการลงทุนจาก “เอเชีย” เข้าไทยช่วงครึ่งปีหลัง

17 มิ.ย. 2563 | 07:40 น.

“บีโอไอ” เน้นดูดการลงทุนจาก “เอเชีย” เข้าไทยช่วงครึ่งปีหลัง ยันไม่ทิ้งกลุ่มเป้าหมายอื่นทั่วโลก หลังทุกประเทศต้องปรับยุทธศาสตร์ซัพพลายเชน

นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ “บีโอไอ” เปิดเผยว่า การส่งเสริมการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังนั้น  กลุ่มประเทศเป้าหมายยังคงมุ่งเน้นอยู่ในภูมิภาคเอเชียเป็นหลัก  เพราะถือเป็นกลุ่มประเทศที่กำลังขยายตัวเรื่องการลงทุน  อีกทั้งหากมองจากสถิติการขอรับการส่งเสริมการลงทุนก็จะพบว่าเป็นประเทศญี่ปุ่นกับจีนที่สลับกันขึ้นเป็นอันดับที่ 1

อย่างไรก็ดี ไม่ได้หมายความว่าบีโอไอ เองจะละเลย  หรือไม่สนใจกลุ่มประเทศเป้าหมายอื่น  แต่ยังเป็นเป้าหมายอยู่เช่นเดิม  โดยมองว่าไม่ว่าจะเป็นประเทศใดในโลก  หรือภูมิภาคใดเวลานี้จะต้องมีการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ทางด้านห่วงโซ่อุปทาน หรือซัพพลายเชน (Supply chain) 

“ขณะนี้อย่างที่ทราบกันดีว่าบริษัทต่างๆทั่วโลกกำลังปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ทางด้านซัพพลายเชน  เพราะคาดว่าจะมีการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 รวมถึงปัจจัยเสี่ยงเรื่องของต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และสงครามการค้าโลก  ดังนั้น  ทุกประเทศจึงยังเป็นเป้าหมายของบีโอไอที่จะดึงดูดให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย”

“BOI” เน้นดูดการลงทุนจาก “เอเชีย” เข้าไทยช่วงครึ่งปีหลัง

ส่วนสถานการณ์แนวโน้มการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังนั้น  เนื่องจากปีนี้เป็นปีที่มีสถานการณ์ไม่ปกติ บีโอไอเองพยายามใช้ความสามารถอย่างมากในการบริหารจัดการแนวโน้ม หรือโมเมนตัมของการลงทุนเอาไว้ โดยมาตรการที่ออกมาแล้ว เช่น การกระตุ้นการลงทุนก็ยังคงดำเนินการอยู่  และมีอีกหลายโครงการที่ยังคงเดินหน้าตามแผน  ซึ่งอาจจะมีสะดุดไปบ้างในช่วงที่ไทยมีการจำกัดกิจกรรมจากมาตรการล็อกดาวน์ประเทศ  แต่หลังจากที่มีการคลายมาตรการล็อกดาวน์  หลายโครงการก็จะกลับมาเดินหน้าตามเดิม

“สถานการณ์ครึ่งปีหลังส่วนหนึ่งคงต้องขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจโลก  เพราะเศรษฐกิจไทยเป็นเศรษฐกิจที่พึ่งพาภาคต่างประเทศ (External Sector) โดยบีโอไอ คิดว่าจะใช้ทรัพยากร  รวมถึงสรรพกำลังทุ่มเทลงไปในส่วนที่จะไปช่วยในเรื่องของการพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตร

อย่างไรก็ดี  ปีนี้คงไม่ได้มีการตั้งเป้าหมายการขอรับการส่งเสริมการลงทุน  เพราะด้วยสถานการณ์ปัจจุบันถือว่าเป็นการยากที่จะตั้งเป้าหมาย  แต่บีโอไอก็จะพยายามอย่างดีที่สุด  โดยแน่นอนว่าเป้าหมายคงไม่ได้เน้นแต่เรื่องตัวเลขเพียงอย่างเดียว  คงต้องให้ความสำคัญกับประเภทของการลงทุนที่เข้ามา  หรือโครงการที่จะเข้ามาลงทุนด้วย

“BOI” เน้นดูดการลงทุนจาก “เอเชีย” เข้าไทยช่วงครึ่งปีหลัง

นางสาวดวงใจ กล่าวถึงสถานการณ์ของการลงทุนในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ว่า หากดูประเภทกิจการ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเจาะลงไปเฉพาะกิจการเป้าหมาย  ซึ่งก็คือกลุ่มอุตสาหกรรม 10 เอสเคิร์ฟ (S-Curve) พบว่า อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์  เป็นกลุ่มที่มีจำนวนโครงการ  และมีเงินลงทุนสูง  โดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคมมีจำนวนโครงการเข้ามาหลายโครงการ  และเป็นเงินลงทุนมูลค่าเท่ากับ 3 เดือนแรกของปีนี้รวมกัน

ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของบีโอไอ  โดยมองว่าในเชิงการตลาดตอนนี้ว่า  อุตสาหกรรมเป้าหมายที่สำคัญข้อหนึ่งก็คือ อุตสาหกรรมสมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์  ซึ่งทางบีโอไอก็จะเดินหน้าดึงการลงทุนกลุ่มเหล่านี้จากต่างประเทศ  และสนับสนุนการลงทุนของไทยในกลุ่มเหล่านี้

“ได้ทราบข้อมูลจากผู้ประกอบการว่า ในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังเกิดเหตุการณ์โควิด-19 บริษัทผู้ประกอบการของไทยในกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวนี้ก็ได้รับออเดอร์จากต่างประเทศมากขึ้น”