สศช.เปิดความคืบหน้าเขตพัฒนาศก.ชายแดน 5 ปี มีมูลค่าลงทุน 2.4 หมื่นล.

04 มิ.ย. 2563 | 03:45 น.

สศช.เปิดความคืบหน้าเขตพัฒนาเศรษฐกิจชายแดน 5 ปี มีมูลค่าลงทุน 2.4 หมื่นล้านบาท เป็นธุรกิจตั้งใหม่ 4,223 ราย ส่วนใหญ่เป็นเอสเอ็มอี โดยได้งบรัฐใส่ลงไปตั้งแต่ 59-63 กว่า4.1 หมื่นล้านบาท พบโครงสร้างพื้นฐานเสร็จ70%

รายงานข่าวจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยความคืบหน้าการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษใน 10 พื้นที่ชายแดนทั่วประเทศ พบว่า จากข้อมูลตั้งแต่ปี 58 จนถึงเดือนพ.ค.63 มีมูลค่าการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ รวมทั้งหมด 24,699 ล้านบาทในส่วนนี้ เป็นการจัดตั้งธุรกิจใหม่รวม 4,223 ราย คิดเป็นมูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 8,409 ล้านบาทโดยส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบธุรกิจเอสเอ็มอี สูงถึง 98%มีประเภทกิจการ ทั้ง ก่อสร้างอาคารทั่วไป โลจิสติกส์ ผลิตเสื้อผ้า อสังหาริมทรัพย์ และโรงแรม รีสอร์ทและห้องชุดผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ ผลิตไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์จากไม้แปรรูป

อย่างไรก็ดีนอกจากการจัดตั้งธุรกิจใหม่แล้ว ยังมีการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) อีก 75 โครงการ วงเงิน 11,043 ล้านบาท ทั้ง เสื้อผ้าสำเร็จรูป พลาสติก อาหารสัตว์ยานยนต์ เครื่องจักรและชิ้นส่วน อุปกรณ์ก่อสร้าง โรงพยาบาล,มูลค่าการลงทุนของภาคเอกชนเพื่อพัฒนาที่ดินราชพัสดุในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตราด กาญจนบุรี และนครพนม รวม 5,106 ล้านบาทและการขอใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้มาตรการส่งเสริมการลงทุนของกรมศุลกากร 2 โครงการในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตากและสงขลา วงเงินรวม 140 ล้านบาท

ขณะที่แผนงบประมาณบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์เรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษ พบว่า การพัฒนาโครงการสำคัญในพื้นที่ได้รับจัดสรรงบประมาณระหว่างปี59-63รวมทั้งสิ้น41,998ล้านบาท โดยได้รับจัดสรรงบประมาณในปี59รวม6,168ล้านบาท ในปี60รวม10,267ล้านบาท ในปี61รวม9,883ล้านบาท ในปี62รวม8,757ล้านบาทและในปี63รวม6,920ล้านบาท โดยโครงการส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง ด่านศุลกากร ความมั่นคง พัฒนาระบบประปา การผังเมือง และสาธารณสุข

ขณะที่แผนงบประมาณบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์เรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษ พบว่า การพัฒนาโครงการสำคัญในพื้นที่ได้รับจัดสรรงบประมาณระหว่างปี59-63รวมทั้งสิ้น41,998ล้านบาท โดยได้รับจัดสรรงบประมาณในปี59รวม6,168ล้านบาท ในปี60รวม10,267ล้านบาท ในปี 61 รวม 9,883 ล้านบาท ในปี 62 รวม 8,757 ล้านบาท และในปี 63 รวม 6,920 ล้านบาท โดยโครงการส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง ด่านศุลกากร ความมั่นคง พัฒนาระบบประปา การผังเมือง และสาธารณสุข
ส่วนการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ล่าสุดได้จัดตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จด้านแรงงาน ปัจจุบันมีแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในพื้นที่ ระหว่างเดือนต.ค.60 - 25ก.พ.63 ทุกสัญชาติ รวม 385,487 คน แยกเป็นแรงงานที่เข้ามาทำงานในลักษณะไป-กลับหรือตามฤดูกาล 344,478 คน เป็นแรงงานกัมพูชา 155,361 คน และแรงงานเมียนมา 189,117 คน
         

ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ปัจจุบันมีความก้าวหน้าการดำเนินงานเฉลี่ย70%และมีโครงการสำคัญจะทยอยแล้วเสร็จในช่วงปี 62-65 โดยโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ เช่น ทางหลวงหมายเลข12ตากแม่สอด แล้วเสร็จทั้งเส้นในปี 62 อาคารท่าอากาศยานแม่สอด ก่อสร้างแล้วเสร็จปี62สะพานข้ามแม่น้ำเมยแห่งที่2เปิดใช้งานแล้วเมื่อต.ค.62 ด่านศุลกากรและระบบอำนวยความสะดวกการผ่านแดน เช่น ด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ ก่อสร้างแล้วเสร็จปี 62 ด่านพรมแดนแม่สอดแห่งที่2ก่อสร้างแล้วเสร็จปี 62

ด่านบ้านพุน้ำร้อน ก่อสร้างแล้วเสร็จจะเปิดให้บริการปี 63 และมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เช่น ด่านศุลกากรแม่สอด แห่งที่2ถนนแยก ทล.4 -ด่านสะเดา แห่งที่ 2 อาคารที่ทำการด่านศุลกากรเชียงแสนแห่งใหม่และสิ่งปลูกสร้างประกอบ และการขยายรันเวย์ สนามบินแม่สอดให้สามารถรองรับเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เช่น โบอิ้ง737 คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 63

ที่มา: www.bangkokbiznews.com