สรท. คงเป้าส่งออกทั้งปี -8%

02 มิ.ย. 2563 | 07:41 น.

สรท. คงเป้าส่งออกทั้งปี -8%วอนรัฐรักษาปัจจัยทางเศรษฐกิจเพื่อสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศ  เดือนเมษายน  กลับมาขยายตัวเป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ที่2.12% จากความต้องการสินค้าอาหารในหลายประเทศจากมาตรการล๊อคดาวน์

  นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย หรือ สภาผู้ส่งออก (สรท.) เปิดเผยการส่งออกเดือนเมษายน 2563 มีมูลค่า 18,948 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 2.12% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน และเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยเฉพาะในการส่งออกในกลุ่มสินค้าเกษตร เช่น ข้าว และอาหารสําหรับรับประทานทันที  เพราะมีความต้องการค่อนข้างมากในช่วงการใช้มาตรการ Lockdown ของประเทศต่างๆ

สรท. คงเป้าส่งออกทั้งปี -8%

ขณะที่การนําเข้าในเดือนเมษายน มีมูลค่า 16,486 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ติดลบ 17.13% ส่งผลให้เดือนเมษายน 2563 ไทยเกินดุลการค้า 2,462 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ภาพรวมการส่งออก 4 เดือนแรกของปี 2563 ไทยส่งออกรวมมูลค่า 81,620 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 1.19% ในส่วนของการนําเข้ามีมูลค่า 75,224 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หด ตัว5.72% ทำให้ 4 เดือนไทยเกินดุลการค้า 6,396 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

 

 

ทั้งนี้ สรท. คงคาดการณ์การส่งออกไทยในปี 2563 ติดลบ 8%  บนสมมติฐานค่าเงินอยู่ที่ 30.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีปัจจัยบวกสําคัญ ได้แก่ การส่งออกกลุ่มสินค้าอาหารที่มีภาพรวมการขยายตัวได้ดี ในช่วงการระบาดของโควิด-19 จากความต้องการสินค้ากลุ่ม อาหารเพื่อดํารงชีวิตประจําวันในช่วงมาตรการ lockdown ในหลายประเทศ  การผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ภายในประเทศ ทําให้ระบบการผลิต ระบบโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้า ระหว่างประเทศเริ่มกลับมาดําเนินการได้  

สรท. คงเป้าส่งออกทั้งปี -8%

ขณะที่ ปัจจัยเสี่ยงที่อาจเป็นอุปสรรคสําคัญ ได้แก่ ความไม่แน่นอนของการระบาด COVID-19 ระยะต่อไป ทําให้หลายประเทศ ยังคงมาตรการ Lockdown อย่างต่อเนื่อง ราคาน้ํามันที่เริ่มกลับมาสู่ขาขึ้น และ ค่าเงินบาทท่ีเริ่มมีแนวโน้มกลับมาแข็งค่าขึ้น ตลอดเดือนพฤษภาคม 2563 ทั้งนี้ สรท. ได้เสนอแนะโดยขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย รักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยน ไม่ให้แข็งค่ากว่า 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ , เร่งใช้งบประมาณภาครัฐเพื่อลงทุนสร้างความยั่งยืนให้กับระบบเศรษฐกิจ , สนับสนุนให้ประเทศไทยเข้าร่วมเจรจา CPTPP เพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้กับระบบเศรษฐกิจ เป็นต้น