ก.พลังงาน ดึง ปตท. ร่วมนำร่อง Blockchain

28 พ.ค. 2563 | 08:55 น.

“กระทรวงพลังงาน” ดึง “ปตท.” ร่วมนำร่องทดสอบ Blockchain ซื้อขายปาล์มน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ เล็งขยายผลความร่วมมือกับผู้ค้าน้ำมันทุกราย เชื่อช่วยแก้ปัญหาการกดราคาผลผลิตปาล์มน้ำมัน และการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ

นายสนธิรัตน์  สนธิจริวงศ์ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในวันที่ 29 พฤษภาคม 63 กระทรวงพลังงานจะหารือกับบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เพื่อให้เตรียมความพร้อมเข้าสู่การทดลองระบบโครงข่ายในการเก็บบัญชีธุรกรรมออนไลน์หรือ  Blockchain  ที่จะเป็นระบบที่ได้รับการพัฒนามาจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อจะนำมาดูแลการซื้อขายปาล์มน้ำมันทั้งระบบในอนาคต

ทั้งนี้ การกำหนดราคาซื้อขายจะยึดที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) เป็นตัวตั้ง และราคาจะสอดคล้องกับราคาน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ (B100) รวมถึงราคาปาล์มทะลายที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มจะได้รับราคาที่มีเหตุผลมากขึ้น โดยกรมธุรกิจพลังงานจะเป็นผู้กำหนดราคาCPO ซึ่งพิจารณาจากราคาที่ทำให้กลไกราคาตลาดเดินต่อไปได้

ก.พลังงาน ดึง ปตท. ร่วมนำร่อง Blockchain

อย่างไรก็ดี ยืนยันว่าจะไม่มีการออกกฎหมายใดๆมาบังคับใช้ แต่จะใช้วิธีขอความร่วมมือให้ผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 ซื้อน้ำมัน B100 จากผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบ Blockchain เท่านั้น

“ภายใน 2 สัปดาห์นี้ กระทรวงพลังงานจะเริ่มทดลองนำร่องโครงการซื้อขายปาล์มน้ำมันผ่านระบบ Blockchain ร่วมกับผู้ประกอบการโรงงานB100 ,โรงสกัดน้ำมันปาล์ม ,ผู้ค้าน้ำมันและเกษตรกร ชาวสวนปาล์มซึ่งผู้ประกอบการ B100 จะคัดเลือกโรงB100 ที่มีความพร้อมก่อนมาร่วมโครงการ โดยเฉพาะโรงB100 ที่มีโรงสกัดน้ำมันปาล์มเป็นของตัวเอง โดยคาดว่าจะใช้เวลาทดสอบ 1 เดือน ก่อนขยายผลไปสู่ห่วงโซ่ปาล์มน้ำมันทั้งระบบให้เข้าสู่การใช้ Blockchain ต่อไป”

ก.พลังงาน ดึง ปตท. ร่วมนำร่อง Blockchain

นายศาณินทร์ ตริยานนท์ นายกสมาคมผู้ผลิตไบโอดีเซลไทย  กล่าวว่า ปัจจุบันราคาผลปาล์มทะลายอยู่ที่ 3.90 - 4 บาท ต่อกิโลกรัม และน้ำมันปาล์มดิบ(CPO)อยู่ที่ 22 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งราคาปาล์ทะลายขยับขึ้นจากกว่า 2 บาทต่อกิโลกรัมในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 63 เนื่องจากเดือนพฤษภาคมผลผลิตปาล์มที่ออกสู่ตลาดตามฤดูกาลเริ่มมีปริมาณลดลง ประกอบกับความต้องการใช้น้ำมันของประชาชนปรับตัวสูงขึ้นหลังรัฐบาลประกาศคลายล็อคดาวน์

ส่วนการนำระบบ Blockchain มาใช้ควบคุมการซื้อขายปาล์มน้ำมันทั้งระบบนั้น ทางผู้ประกอบการอยู่ระหว่างรอดูการทดสอบ Blockchain ของภาครัฐว่ามีความพร้อมมากแค่ไหนและข้อมูลที่ได้จะเป็นจริงเพียงใด เนื่องจากในต่างประเทศ เช่น ประเทศมาเลเซีย ซึ่งผู้ผลิตปาล์มรายใหญ่ของโลกยังไม่มีการใช้ Blockchain ซื้อขายปาล์มน้ำมันแต่มีการเก็บข้อมูลระบบการซื้อขายทั้งระบบไว้แล้ว ซึ่งผู้ประกอบการคงต้องดูรอการศึกษาครั้งนี้ก่อนจึงจะสรุปว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป