“บีทีเอส” ยันไม่จำเป็น ต้องเปิดหน้าต่างรถไฟฟ้า สกัดโควิด

รายงานข่าวจากบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)  หรือ บีทีเอส  เปิดเผยว่า  ขณะนี้ทางบริษัทฯ ได้พยายามทุกวิถีทาง ในการยกระดับมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยได้เพียงทำการทดลองเปิดหน้าต่างบานเล็กวิ่งในระยะสั้นเท่านั้น  ซึ่งบริษัทฯ พบว่า อากาศมีการถ่ายเทมากขึ้นแต่เนื่องจากลักษณะของสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เป็นพื้นที่เปิดโล่ง และอยู่ระดับที่สูงกว่าพื้นถนน ในขณะที่ขบวนรถเปิดประตูรถรับ – ส่งผู้โดยสาร โดยเฉลี่ยระยะห่างแต่ละสถานี ไม่เกิน 2-3 นาที อากาศจะมีการถ่ายเทไหลเวียนได้อย่างเพียงพออยู่แล้ว

อ่านข่าว "บีทีเอส "แจ้งเปลี่ยนเวลาปิดให้บริการเป็น 22.30 น.

อ่านข่าว “ตั๋วร่วม” ส่อล่ม หลังบีทีเอส-MRT อัพข้ามระบบไม่ทัน 1 ต.ค.นี้

ขณะเดียวกันจึงพิจารณาว่าการเปิดหน้าต่างรถไฟฟ้าวิ่งให้บริการนั้นยังไม่มีความจำเป็น อีกทั้งปัญหาที่ตามมาคือ อากาศภายในขบวนรถจะร้อนขึ้น ระบบปรับอากาศจะต้องทำงานหนักมาก ประกอบกับตอนนี้ประเทศไทยได้เข้าสู่ช่วงหน้าฝน การเปิดกระจกรถวิ่งนั้น จะยิ่งก่อให้เกิดความไม่สะดวกต่อผู้โดยสาร เป็นความพยายามที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงได้ร่วมมือกับทางสาธารณสุข ซึ่งอยู่ในช่วงของการทดลองเท่านั้น  ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ด้วยดีเสมอมา และได้หาแนวทางร่วมกันเพื่อดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด พร้อมทั้งให้ความสำคัญในความปลอดภัยของการเดินทางสูงสุด และยังคงเข้มงวดในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( โควิด-19 ) อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามได้คัดกรองผู้โดยสารตั้งแต่ชั้นจำหน่ายตั๋ว ติดตั้งจุดคัดกรองอุณหภูมิ การเพิ่มมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) การให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งตลอดเวลา ลดการพูดคุย ไม่จับสัมผัสใบหน้า ล้างมือก่อนและหลังการใช้บริการ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้เป็นอย่างดี ควบคู่ไปกับการเพิ่มความถี่ในการฉีดพ่น และเช็คทำความสะอาดภายในขบวนรถไฟฟ้า และจุดสัมผัสร่วมทุกจุด พร้อมทั้งจัดให้มีจุดบริการแอลกอฮอล์ทั้ง 2 ฝั่งสถานี และบริการแอลกอฮอล์เคลื่อนที่ เพื่อเพิ่มความมั่นใจและปลอดภัยให้กับผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส