"โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร" เปลี่ยนชื่อเป็น "โรคแอฟริกันสไวน์ฟีเวอร์"

27 พ.ค. 2563 | 08:40 น.

กรมปศุสัตว์ทบทวนแก้ไขชื่อ "โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร" ใหม่ เป็น "โรคแอฟริกันสไวน์ฟีเวอร์"  ทับศัพท์ภาษาอังกฤษ  ป้องกันความสับสน หวั่นตีความผิดกระทบชิ่ง อุตสาหกรรมเสียหายกว่า 7 หมื่นล้าน

วันที่ 27 พ.ค. 2563 รายงานจากกรมปศุสัตว์ เผย กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการทบทวนแก้ไขขื่อ"โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร" ใหม่ เป็น "โรคแอฟริกันสไวน์ฟีเวอร์"  ทับศัพท์ภาษาอังกฤษ เพื่อให้การสื่อสารเข้าใจกันทั้งภาครัฐบาล ภาคปศุสัตว์ ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ 

"โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร" เปลี่ยนชื่อเป็น "โรคแอฟริกันสไวน์ฟีเวอร์"

ทั้งนี้ เนื่องจากสมาคมผู้ผลิตและแปรรูปสุกรเพื่อการส่งออก ได้ขอให้เปลี่ยนชื่อโรค สาเหตุจากคำว่า "อหิวาต์" ทำให้เกิดความสับสนว่าเป็นโรคชนิดเดียวกับโรคอหิวาตกโรค (Cholera) ในมนุษย์ นำไปสู่การตีความในเชิงลบต่อความปลอดภัยอาหารและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์สุกรไทย 

อนึ่ง กรมปศุสัตว์  รายงาน"โรคแอฟริกันสไวน์ฟีเวอร์" แม้ไม่ได้เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน แต่เป็นโรคระบาดร้ายแรงในสุกร ยังไม่มีวัคซีนป้องกันและควบคุมโรค เชื้อโรคทนทานในผลิตภัณฑ์จากสุกรและสิ่งแวดล้อมสูง สุกรที่หายป่วยแล้วจะเป็นพาหะของโรคได้ตลอดชีวิต สุกรที่ติดเชื้อมีการตายเฉียบพลันเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์

"โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร" เปลี่ยนชื่อเป็น "โรคแอฟริกันสไวน์ฟีเวอร์"

ไทยมีเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร 210,978 ราย เป็นเกษตรกรรายย่อย 208,192 ราย เลี้ยงสุกรขุน 80,000 ตัว สุกรพันธุ์ 63,000 ตัว ลูกสุกร 733,000 ตัว เป็นเกษตรกรรายใหญ่ 2,758 ราย เลี้ยงสุกรขุน 8,800,000 ตัว สุกรพันธุ์ 1,137,000 ตัว และลูกสุกร 4,670,000 ตัว ดังนั้นหากเกิดการระบาดของโรคแล้วทำลายสุกร กรณีเกิดโรคร้อยละ 30 ของสุกรที่เลี้ยง เสียหายรวม 21,168 ล้านบาท กรณีเกิดโรคร้อยละ 50 ของสุกรที่เลี้ยง เสียหายรวม 35,280 ล้านบาท หากเกิดโรคร้อยละ 80​ของสุกรที่เลี้ยงเสียหายรวม 56,448 ล้านบาท และถ้าเกิดการระบาดทั้งหมดจะเสียหายรวม 70,560 ล้านบาท