ผู้สื่อข่าวรายงาน(26 พ.ค. 2563) ณ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้รับมอบหมายจากพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ให้เร่งรัดติดตามสถานการณ์ราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำอย่างไม่เป็นธรรมกับเกษตรกรชาวสวนปาล์ม และนำร่างแนวทางขับเคลื่อนกลไกบริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มระดับจังหวัดที่ใช้โครงสร้างราคาอ้างอิงของกรมการค้าภายในที่ กนป. เห็นชอบ และคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติรับทราบแล้ว
พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ
ทั้งนี้ได้นำเรื่องเข้ามาหารือในที่ประชุมร่วม ประกอบด้วยผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน ผ่านจอภาพ (Video Conference) ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัด ประกอบด้วย สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา ชุมพร และนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่เพาะปลูกปาล์มน้ำมันคิดเป็นร้อยละ 75 ของผลผลิตทั้งประเทศ โดยนำผลการประชุมเสนอ กนป. พิจารณาออกเป็นมาตรการใช้บังคับทั่วประเทศต่อไป ได้ดังนี้
2.ระดับจังหวัด
2.1ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานคณะทำงานขับเคลื่อนบูรณาการแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มระดับจังหวัด โดยมี (1) เกษตรจังหวัด (2) อุตสาหกรรมจังหวัด (3) พาณิชย์จังหวัด (4) พลังงานจังหวัด (5) ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ กฎหมาย กฎระเบียบ ประกาศคำสั่งของแต่ละหน่วยงานที่ออกมารองรับมาตรการของ กนป.
2.2ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด พิจารณาจัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนบูรณาการแก้ไข
ปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มจังหวัด เพื่อให้เกษตรกร เพิ่มคุณภาพให้มีอัตราการสกัดน้ำมันปาล์มไม่ต่ำกว่าร้อยละ 18
กำชับให้ผู้ประกอบการโรงงานสกัดฯ รับซื้อผลปาล์มที่ได้เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพ
เผยแพร่ประกาศราคาน้ำมันปาล์มที่กรมการค้าภายใน แนะนำในแต่ละวันให้ทั่วถึง
สืบสวนหาข่าวกลุ่มพ่อค้าที่ฮั้วราคา และสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าโดยผิดกฎหมาย
ส่งเสริมประชาสัมพันธ์ให้เกิดความเชื่อมั่นด้านพลังงานไบโอดีเซลในทุกภาคส่วน
2.3 ให้คณะทำงานขับเคลื่อนฯเร่งรัดมาตรการทุกมิติอย่างต่อเนื่อง ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
2.4 ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด พิจารณาจัดตั้งชุดปฏิบัติการร่วม (ชปร.)เพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงาน
ของคณะทำงานในแต่ละด้าน แต่ละพื้นที่ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม
2.5 ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อปรึกษาหารือ ชี้แจง หรือให้ข้อมูล
ประกอบการพิจารณาในประเด็นที่เกี่ยวข้องหรือได้รับผลกระทบกับบุคคลนั้น
3. การติดตามและรายงานสถานการณ์
ให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8) ติดตามผล โดยมอบหมายผู้รับผิดชอบประมวลสรุปสถานการณ์ตามห้วงระยะเวลาเป็นรายวัน และเป็นรายสัปดาห์