เช็ก www.เยียวยาเกษตรกร.com แจ้งข้อมูลเท็จ โทษหนัก-ยึดเงินคืน

29 พ.ค. 2563 | 01:00 น.

กระทรวงเกษตรฯ ตอบคำถามแจ้งข้อมูลเท็จใน "ทะเบียนเกษตรกร" เพื่อให้ได้สิทธิ์รับเงิน “เยียวยาเกษตรกร” มีโทษทั้งจำคุก และปรับ แถมถูกเรียกเงินคืน

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำประเด็นถามตอบ เพื่อคลายข้อสงสัยเกี่ยวกับมาตรการ “เยียวยาเกษตรกร” หรือโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผ่านเว็บไซต์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ www.moac.go.th ซึ่งมีประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจอย่างมากนั่นคือ การแจ้งข้อมูลเท็จเพื่อให้ได้สิทธิ์รับเงินเยียวยาเกษตรกรถือเป็นความผิดหรือไม่

ตอบ ถือเป็นความผิดทางอาญา ตามมาตรา 137 และ มาตรา 267 แห่ง ประมวลกฎหมายอาญา ดังนี้

มาตรา 137 ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทําให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ต้อง ระวางโทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

มาตรา 267 ผู้ใดแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทําการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือ เอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สําหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือ ประชาชน ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

"เยียวยาเกษตรกร" ตรวจสอบสถานะ ตรวจสอบสิทธิ์ เช็กอัพเดทที่นี่

ที่มา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ขณะที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) แจ้งข้อมูลผ่าน www.เยียวยาเกษตรกร.com จะมีระบบตรวจทานซ้ำว่าผู้ที่ได้รับการโอนเงินเยียวยาเกษตรกรนั้นอยู่ในเกณฑ์รับเงินช่วยเหลือถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้องก็จะต้องคืนเงินภายใน 90 วัน ตามข้อตกลงในการลงทะเบียน และจะมีขั้นตอนตามกฎหมาย ในการดำเนินการ

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังมีมติรับทราบเจตนารมณ์ของผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ ครั้งที่ 2/2563 เกี่ยวกับการให้เงินช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ถูกต้องและเกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติ ดังนี้

การให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรตามกลุ่มเป้าหมายของแผนงานโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่มีรายได้หลักมาจากการประกอบอาชีพเกษตรกร และได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพ

กรณีที่ข้าราชการ (ข้าราชการประจำและลูกจ้าง รวมถึงข้าราชการบำนาญ) ที่ประกอบอาชีพเกษตรกร ไม่เข้าข่ายเป็นผู้มีสิทธิรับเงินช่วยเหลือภายใต้มาตรการฯ เนื่องจากได้รับค่าตอบแทนและสวัสดิการของภาครัฐอยู่แล้ว และหากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จ่ายเงินช่วยเหลือให้กับกลุ่มข้าราชการดังกล่าวแล้ว ขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประสานกรมบัญชีกลางในการพิจารณาดำเนินการหักเงินดังกล่าวจากค่าตอบแทนคืนที่กระทรวงการคลังต่อไป

ส่วนความคืบหน้าการจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกร ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณืการเกษตรกร(ธ.ก.ส.)ได้ทยอยโอนเงินผ่านสาขาธ.ก.ส.กว่า 1,200 แห่งทั่วประเทศ วันละ 1 ล้านราย โดย ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2563 ได้ดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกร ให้กลุ่มที่ 1 หลังได้รับรายชื่อจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผ่านการตรวจความซ้ำซ้อนกับการให้ความช่วยเหลืออื่น ๆ ของรัฐ เช่น การเยียวยาผู้ประกอบอาชีพอิสระตามมาตรการ "เราไม่ทิ้งกัน" ของกระทรวงการคลัง ข้าราชการบำนาญ ผู้รับสิทธิประกันสังคม หรือโครงการอื่น ๆ และสถานะผู้เสียชีวิต ไปแล้ว 3,222,952 ราย เป็นจำนวนเงิน 16,115 ล้านบาท 

นอกจากนี้ธ.ก.ส.ยังเริ่มทยอยโอนเงินให้เกษตรกรกลุ่มที่ 1 รอบ 2 อีกจำนวน 3,519,434 ราย ไปเมื่่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2563 คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ 

อย่างไรก็ตาม ยังมีเกษตรกรที่มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยา แต่ยังไม่สามารถโอนเงินได้อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ 97% ไม่พบบัญชีเงินฝาก จึงขอให้เกษตรกรผู้ได้รับสิทธิ์ ให้ตรวจสอบสิทธิ์และแจ้งเลขบัญชีรับโอนในเว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com