นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือถึงแนวทางการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อวานนี้ (21 พ.ค.) ว่า กระทรวงคมนาคม และนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เข้าร่วมหารือ กับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงแนวทางดำเนินการต่อไป
สำหรับที่ประชุมมีมติให้ ทั้ง 2 กระทรวงฯ ร่วมกันตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ซึ่งมีลักษณะเป็นซุปเปอร์แนวทางการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยมีนายวิษณุ เป็นประธาน ขณะเดียวกันมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลังเสนอรายชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เข้าร่วมซุปเปอร์บอร์ด ฯ
ทั้งนี้ในส่วนของกระทรวงคมนาคมจะนำเสนอรายชื่อบุคคล ร่วมเป็นกรรมการจำนวน 4 รายชื่อ ประกอบด้วย นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่กำกับดูแลการบินไทย นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ผู้อำนวย การสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ขณะที่สัดส่วนกรรมการจากกระทรวงการคลังนั้นต้องรอดูว่ากระทรวงการคลังจะเสนอรายชื่อใครบ้าง
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า สำหรับซุปเปอร์บอร์ดชุดดังกล่าวจะมีหน้าที่กรองงานเพื่อนำเสนอนายกรัฐมนตรี โดยเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกรายชื่อผู้ทำแผน และผู้บริหารแผนฟื้นฟูการบินไทย รวมถึงตรวจสอบแผนฟื้นฟูทั้งหมด เมื่อมีการจัดทำแล้วเสร็จ จะนำเสนอให้ศาลล้มละลายกลางพิจารณาต่อไป
ขณะเดียวกันทางกระทรวงคลัง ยืนยันว่า ถึงแม้กระทรวงการคลังจะมีการขายหุ้นของการบินไทยออกไปแล้วส่วนหนึ่ง เพื่อปลดล็อคให้การบินไทยพ้นจากความเป็นรัฐวิสาหกิจ แต่กระทรวงการคลัง ยังถือว่ามีสัดส่วนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ทั้งนี้ได้แสดงความประสงค์ที่จะมีส่วนร่วมในการดำเนินการฟื้นฟูการบินไทย ส่วนการประชุมร่วมกับผู้บริหารการบินไทย ได้มอบหมายให้การบินไทยทำการรวบรวมรายชื่อเสนอมาในวันจันทร์ที่ 25 พ.ค.นี้ โดยบุคคลที่จะทำการเสนอมานั้น ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถด้านการบิน
"เรายืนยันว่า กระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคมไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งกัน ในส่วนของกระทรวงคมนาคม ถือว่าการผลักดันให้มีการแก้ไขปัญหาการบินไทยเข้าสู่กระบวนการของศาลตาม พ.ร.บ.ล้มละลายฯ ถือเป็นแนวทางที่จะแก้ปัญหาได้เป็นรูปธรรม ซึ่งได้เริ่มกระบวนการไปแล้ว หลังมีมติ ครม. ส่วนอนาคตกระทรวงการคลัง จะเข้ามาร่วมดำเนินการได้หรือไม่ ก็ไม่ได้มีปัญหา ภายหลังจาก มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น ได้มีการมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการแก้ไขมติดังกล่าว เพื่อให้ทั้ง 2 กระทรวง ร่วมมือแก้ปัญหาไปพร้อมกัน"
ด้านการจัดหาที่ปรึกษาด้านการเงิน และด้านกฎหมาย ได้สั่งการให้การบินไทยจัดหาแบบมีธรรมาภิบาล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับเจ้าหนี้ เพราะเจ้าหนี้จะต้องเข้ามาตรวจสอบแผนทั้งหมดนี้ด้วย นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้การบินไทยจัดทำบัญชีเจ้าหนี้ และลูกหนี้ แจกแจงรายละเอียดให้ชัดว่า เจ้าหนี้เป็นใคร ครบกำหนดต้องจ่ายเมื่อไหร่ เงื่อนไขสัญญาเขียนไว้อย่างไร
“เรื่องของพนักงาน มองว่าทุกคนต้องมาดูกันแล้วควรเฉลี่ยทุกข์สุขกันอย่างไร ต้องยอมรับว่าทุกคนต้องอยู่บนโลกของความเป็นจริง จากที่เคยได้เช่นเดิม แต่บริษัทไม่มีเงินให้ จะทำอย่างไร เพราะตอนนี้เหลือเงินอยู่ 1 หมื่นบาทนิดๆ กับค่าใช้จ่ายต่อเดือน 6 พันล้านบาท มันผิดตั้งแต่ต้น ทั้งนี้ให้ไปดูและเจรจากับเจ้าหนี้ ถ้าเจ้าหนี้เห็นว่าฟื้นได้ ใครๆก็ต้องพูดว่าเจรจาได้ และเรื่องเชื่อมั่นของพนักงาน เราก็เจรจาได้ ต้องคิดสิว่าจะทำอะไร”
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าว รายงานว่า สำหรับกรณีเจ้าหน้าที่ต่างประเทศได้มีการยื่นโนติส ถึงการบินไทยเร่งรัดให้เตรียมชำระหนี้ที่ครบกำหนดในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ ในส่วนของกระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลัง ไม่ได้มีความหนักใจ โดยมั่นใจว่าจะสามารถเจรจากับเจ้าหนี้ได้ เนื่องจากสถานการณ์อุตสาหกรรมการบินขณะนี้หากการบินไทยมีการฟื้นฟูกิจการที่ชัดเจน นำไปสู่การกลับมาประกอบกิจการที่เข้มแข็ง สามารถชำระหนี้ได้ในอนาคต ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ที่เจ้าหนี้จะยึดทรัพย์สิน ซึ่งคุ้มกับมูลหนี้ที่มีในปัจจุบัน เช่น เครื่องบิน