สนพ. ชี้คลาย ล็อกดาวน์ ทั่วโลกดัน ราคาน้ำมัน ปรับสูงขึ้น

21 พ.ค. 2563 | 11:25 น.

สนพ. ชี้การผ่อนคลายมาตรการ ล็อกดาวน์ ของประเทศต่างๆ ดัน ราคาน้ำมัน เชื้อเพลิงในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น

สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ “สนพ.” ได้ติดตามสถานการณ์ ราคาน้ำมัน เชื้อเพลิงในตลาดโลก ช่วงวันที่ 11-17 พฤษภาคม 63 พบว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบยังคงมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากรัฐบาลในประเทศต่างๆ เริ่มผ่อนคลายมาตรการ "ล็อกดาวน์" ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนความต้องการใช้น้ำมัน นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากการที่ซาอุดิอาระเบียประกาศลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมอีก 1 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือนมิถุนายน

 นอกเหนือจากที่ได้ปรับลดกำลังการผลิตตามข้อตกลงของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ขณะที่ประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ต่างแสดงท่าทีพร้อมลดปริมาณการผลิตอย่างเร่งด่วน ประกอบกับนักลงทุนขานรับมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจทั่วโลก ที่ถูกผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส "โควิด-19" (COVID-19)

สนพ. ชี้คลาย ล็อกดาวน์ ทั่วโลกดัน ราคาน้ำมัน ปรับสูงขึ้น

              นายวัฒนพงษ์  คุโรวาท ผู้อำนวยการ สนพ. เปิดเผยว่า สนพ. ราคาน้ำมันดิบดูไบและเวสต์เท็กซัส เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 28.47 และ 26.44 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 2.71 และ 2.99 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล โดยซาอุดิอาระเบียปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบในเดือนมิถุนายน ลงราว 5 ล้านบาร์เรล/วัน

โอเปกพลัสและประเทศอื่นๆ พร้อมใจปรับลดกำลังการผลิต คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบยังคงมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น จากรัฐบาลในประเทศต่างๆ เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนความต้องการใช้น้ำมัน ประกอบกับนักลงทุนขานรับมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจทั่วโลก
              “ความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น จากมาตรการผ่อนคลายการปิดเมืองของหลายประเทศทั่วโลก โดยรายงานประจำเดือนของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์การเติบโตของความต้องการใช้น้ำมันในปี 63 จะหดตัวที่ 8.6 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งปรับสูงขึ้นจากคาดการณ์เดิม 690,000 บาร์เรล/วัน”

สนพ. ชี้คลาย ล็อกดาวน์ ทั่วโลกดัน ราคาน้ำมัน ปรับสูงขึ้น

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 8 พ.ค. 63 ปรับลดลง 745,000 บาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเพิ่มขึ้น 4.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 15 สัปดาห์ หลังเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

 

ซาอุฯ ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบในเดือน มิ.ย. ลงราว 5 ล้านบาร์เรล/วัน อย่างไรก็ตามกลุ่มโอเปกคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันโลกในปี 63 จะลดลงราว 9.07 ล้านบาร์เรล/วัน มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า 6.85 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งความต้องการใช้น้ำมันคาดว่าจะลดลงต่ำสุดในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้

ปริมาณการใช้น้ำมันดิบของจีนในเดือน เม.ย. 63 ปรับเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หลังความต้องการใช้น้ำมันในประเทศปรับตัวสูงขึ้น จากมาตรการผ่อนคลายการปิดเมือง

ราคาน้ำมันเบนซินออกเทน 95 และ 92 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 32.05 และ 29.31 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 4.71 และ 3.92 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล  ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินปรับตัวสูงขึ้น ราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (10 PPM) เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 33.34 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 1.61 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ปัจจัยสนับสนุนจากการคลายมาตรการปิดเมืองในหลายประเทศ และอุปทานที่ลดลงจากการลดกำลังการผลิตและการปิดซ่อมบำรุงตามแผนของโรงกลั่นหลายแห่งในภูมิภาค

สนพ. ชี้คลาย ล็อกดาวน์ ทั่วโลกดัน ราคาน้ำมัน ปรับสูงขึ้น
              ด้านค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.26 บาท/เหรียญสหรัฐฯ มาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 32.2835 บาท/เหรียญสหรัฐฯ ต้นทุนน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 0.91 บาท/ลิตร ในขณะที่ต้นทุนน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 0.28 บาท/ลิตร ทำให้ค่าการตลาดของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล และน้ำมันดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 1.93 บาท/ลิตร และค่าการกลั่น เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 0.47 บาท/ลิตร

ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 17 พฤษภาคม 63 กองทุนน้ำมันมีสินทรัพย์รวม 57,198 ล้านบาท หนี้สินกองทุน 22,022 ล้านบาท โดยฐานะกองทุนน้ำมันสุทธิ 35,176  ล้านบาท แยกเป็น บัญชีน้ำมัน  41,358  ล้านบาท และบัญชี LPG    -6,182  ล้านบาท