5 มาตรการด่วนดูแลผลไม้ออกสู่ตลาด

09 เม.ย. 2563 | 10:03 น.

พาณิชย์ ปรับแผนดูแลผลไม้ เตรียมใช้ 5 มาตรการเร่งด่วนเข้ามาแก้ไขเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากที่สุด พร้อมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาขนส่งลำบาก จากการปิดจังหวัดในหลายพื้นที่    

  นายสรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมการขับเคลื่อนมาตรการบริหารจัดการผลไม้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ว่า  กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับมาตรการดูแลราคาผลไม้ช่วงผลผลิตที่กำลังออกสู่เป็น  5 มาตรการเร่งด่วน เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากขึ้น  และเป็นการสร้างรายได้ให้เกษตรกรในช่วงนี้ได้แก่  1.มาตรการด้านการผลิต จะมีการบริหารจัดการเรื่องแรงงานเก็บผลไม้ โดยจะมีการผ่อนผันการเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามเขต แต่จะมีการเข้มงวดเรื่องสุขอนามัยและความปลอดภัย, การดูแลความเป็นธรรมเรื่องราคาและปริมาณ จะมีการใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้า และกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการเข้ามาควบคุม , การส่งเสริมให้การซื้อขายผ่านสัญญาข้อตกลงระหว่างผู้ประกอบการกับเกษตรกร , การเชื่อมโยงการกระจายผลผลิตกับห้าง ผู้ใช้ ผู้แปรรูป และการสนับสนุนกล่องบรรจุผลไม้ ขนาด 5 กิโลกรัม (กก.) 10 กก. และ 20 กก.

5 มาตรการด่วนดูแลผลไม้ออกสู่ตลาด

         2.มาตรการด้านตลาดในประเทศ จะเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย โดยการสนับสนุนค่าขนส่ง มีไปรษณีย์ไทยมาช่วยในการจัดส่งผลไม้ ปริมาณฟรี 200 ตัน และกำลังหารือจะเพิ่มปริมาณได้อีกหรือไม่ , การผลักดันให้นำผลไม้จำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ , การส่งเสริมให้เกษตรกร ผู้ประกอบการ ขายผลไม้ทางช่องทางออนไลน์ ซึ่งจะเข้าไปช่วยสอนให้ , การรณรงค์การบริโภคผลไม้ในประเทศ และส่งเสริมให้นำผลไม้มอบเป็นของฝากของขวัญ     

5 มาตรการด่วนดูแลผลไม้ออกสู่ตลาด

    5 มาตรการด่วนดูแลผลไม้ออกสู่ตลาด

3.มาตรการด้านตลาดต่างประเทศ จะจัดการเจรจาจับคู่ธุรกิจ (บิซิเนส แมชชิ่ง) ระหว่างผู้ซื้อ ผู้นำเข้า กับผู้ประกอบการไทย หากทำได้ก็จะดำเนินการต่อ และจะเพิ่มการทำแมชชิ่งในรูปแบบออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะรวมถึงสินค้าตัวอื่นๆ ด้วย , การจัดคาราวานผลไม้ไปจำหน่ายผลไม้ในประเทศเพื่อนบ้าน , การประชาสัมพันธ์ผลไม้ในตลาดต่างประเทศ จะยังคงเดินหน้าต่อ ทั้งรูปแบบเดิม คือ ผ่านห้างสรรพสินค้า การจัดโปรโมชั่นต่างๆ แต่จะเพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์ผ่านออนไลน์มากขึ้น และได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์เป็นเซลล์แมนขายผลไม้ในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาด และช่วยดูในเรื่องการจัดหาสินค้านำเข้า เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่งทางอากาศ เช่น มะม่วง ส่งไปเกาหลีใต้และญี่ปุ่น มีการคิดค่าบริการเต็ม ทั้งไป-กลับ แต่สินค้ามีแต่ขาไป ขากลับไม่มี โดยถูกคิดราคาเต็ม ทำให้ค่าระวางสูง จึงต้องแก้ไขให้มีสินค้าขากลับเข้ามาด้วย เพื่อลดต้นทุน

5 มาตรการด่วนดูแลผลไม้ออกสู่ตลาด

 

4.มาตรการเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ จะสนับสนุนดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการที่รวบรวมผลไม้ในอัตรา 3% ระยะเวลา 10 เดือน ชดเชยดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการที่รวบรวมผลไม้เพื่อส่งออกในอัตรา 3% ระยะเวลา 6 เดือน และช่วยค่าใช้จ่ายรวบรวมเพื่อส่งออกอีกกก.ละ 3 บาท เป้าหมาย 1 หมื่นตัน 5.มาตรการเสริมศักยภาพการบริหารจัดการผลไม้ในเรื่องมาตรฐาน จะดำเนินการผลักดันให้มีการยอมรับมาตรฐานการตรวจสอบร่วมกัน หากผ่านการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานจากเซ็นทรัล แลป ของไทยแล้ว เมื่อส่งออกไปจีน ก็จะไม่มีการตรวจสอบจากองค์กรตรวจสอบและรับรองคุณภาพจีน (CCIC) อีก และจะมีการสนับสนุนค่าตรวจสอบของแลปให้กับผู้ส่งออก เพื่อลดต้นทุนในการส่งออกด้วย

5 มาตรการด่วนดูแลผลไม้ออกสู่ตลาด

ส่วนการแก้ไขปัญหาในเรื่องการขนส่งล่าช้า ได้ประสานกระทรวงคมนาคมให้เข้ามาช่วย รวมถึงกระทรวงมหาดไทยให้ช่วยดูแล เพราะการขนส่งสินค้าในประเทศ ขณะนี้ บางจังหวัดมีการปิดจังหวัด ทำให้เวลาขนผลไม้เข้าไป คนขับก็ถูกตรวจสอบ และกักตัว ซึ่งใช้เวลานาน กว่าจะขนตู้กลับมาได้ ส่วนขนส่งไปต่างประเทศก็เช่นเดียวกัน มีการตรวจสอบ และกักตัว 14 วัน แต่ถ้าทางอากาศ ปกติเคยส่งไปพร้อมเครื่องบินที่ส่งผู้โดยสาร แต่ตอนนี้หยุดบิน ทำให้ค่าขนส่งสูงขึ้น ซึ่งต้องขอความร่วมมือกับทุกฝ่ายในการเข้ามาช่วยเหลือ

5 มาตรการด่วนดูแลผลไม้ออกสู่ตลาด

“ในปีที่แล้วไทยส่งออกผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง มูลค่ารวม 3,953 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนปีนี้จะทำให้ดีที่สุด ในภาวะการระบาดของโควิด-19 สำหรับการแก้ไขปัญหาในเรื่องการขนส่งล่าช้า ได้ประสานกระทรวงคมนาคมให้เข้ามาช่วย รวมถึงกระทรวงมหาดไทยให้ช่วยดูแล เพราะการขนส่งสินค้าในประเทศ ขณะนี้ บางจังหวัดมีการปิดจังหวัด ทำให้เวลาขนผลไม้เข้าไป คนขับก็ถูกตรวจสอบ และกักตัว ซึ่งใช้เวลานาน กว่าจะขนตู้กลับมาได้ ส่วนขนส่งไปต่างประเทศก็เช่นเดียวกัน มีการตรวจสอบ และกักตัว 14 วัน แต่ถ้าทางอากาศ ปกติเคยส่งไปพร้อมเครื่องบินที่ส่งผู้โดยสาร แต่ตอนนี้หยุดบิน ทำให้ค่าขนส่งสูงขึ้น ซึ่งต้องขอความร่วมมือกับทุกฝ่ายในการเข้ามาช่วยเหลือ “ นายสรรเสริญ กล่าว

5 มาตรการด่วนดูแลผลไม้ออกสู่ตลาด

ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ผลผลิตผลไม้ในปีนี้แนวโน้มว่าจะออกมามากเนื่องจากปีที่แล้วผลผลิตถูกส่งออกไปต่างประเทศจำนวนมากและได้ราคาดีโดยเฉพาะทุเรียน มะม่วง มังคุด ลำไย แต่ปีนี้ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีการระบาดของโควิด-19 ทำให้การส่งออกผลผลิตไปต่างประเทศประสบปัญหาเนื่องจากประเทศผู้นำเข้ามีกำลังการซื้อลดลงรวมทั้งสถานการณ์ในหลายประเทศยังน่าห่วงทำให้มีการล็อกดาวน์ยุติเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ รวมทั้งการขนส่งทางบก ก็มีปัญหาติดขัด ขณะที่ประเทศไทยเองก็มีการล็อคดาวน์ในแต่ละจังหวัดมีมาตรการคุมเข้มการเดินทางข้ามเขตซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับการขนส่ง ดังนั้น ทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงคมนาคม และคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) จะมีการหารือร่วมกันเป็นระยะเพื่อประเมินสถานการณ์และร่วมกันแก้ไขปัญหาร่วมกันมีเป้าหมายเพื่อกระจายผลไม่ให้ไปสู่ 70,000 กว่าหมู่บ้านทั่วประเทศให้เร็วที่สุดรวมทั้งสามารถส่งออกผลไม้ไปยังต่างประเทศให้ได้มากที่สุดขณะเดียวกันก็จะรณรงค์ให้คนไทยบริโภคผลไม้ไทยเพื่อป้องกันผลผลิตล้นตลาดเพื่อป้องกันผลผลิตราคาตกต่ำซึ่งทุกหน่วยงานจะพยายามทำให้ดีที่สุดในสถานการณ์วิกฤติการระบาดของโควิด-19