รถไฟฟ้า ทุกเส้นทางเดินรถ ถึง3ทุ่มครึ่ง

03 เม.ย. 2563 | 11:24 น.

กรมการขนส่งทางรางออกประกาศเรื่องมาตรการพึงปฏิบัติการจัดการระบบขนส่งทางรางภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร หวังคุมเชื้อโควิดระบาด

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยภายหลัง ลงนามในประกาศกรมการขนส่งทางราง เรื่อง มาตรการพึงปฏิบัติการจัดการระบบขนส่งทางรางภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) (ฉบับที่ 2) ว่า ตามที่รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.63 เพื่อให้มีมาตรการต่าง ๆ เพิ่มขึ้นตามความจำเป็นเพื่อแก้ไขสถานการณ์ให้ยุติลงโดยเร็วนายกรัฐมนตรีจึงได้ออกข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548(ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 2 เม.ย.63 1.ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 น.ถึงเวลา 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้นเว้นแต่มีความจำเป็นหรือเป็นผู้ปฏิบัติงานด้านต่าง ๆ ตามข้อยกเว้น เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดดังกล่าว

 

ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางรางจึงออกประกาศดังกล่าว โดยรายละเอียดจะแบ่งเป็น 2 ส่วนได้แก่ 1. ผู้ให้บริการระบบขนส่งทางราง ประกอบด้วย การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.), บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTS) และ 2. ผู้โดยสาร โดยมีรายละเอียดดังนี้ 

 

1. ผู้ให้บริการระบบขนส่งทางรางพึงปฏิบัติดังนี้


(1) ดำเนินการเปิดให้บริการให้สอดคล้องตามข้อกำหนดโดยสมควรเปิดให้บริการเดินระบบรถไฟและรถไฟฟ้า ระหว่างวันภายหลังเวลา 04.00 น. โดยปิดให้บริการ ณ สถานีปลายทางในเวลา 21.30 น. โดยประมาณ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของผู้โดยสารให้สามารถกลับถึงเคหสถานก่อนเวลา 22.00 น.


(2) พิจารณาลดการปฏิบัติการเดินรถอันควรแก่กรณีที่จำเป็นให้สอดคล้องตามวัตถุประสงค์ภายใต้ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 2) ให้เกิดความเหมาะสมและให้ความร่วมมือแก่ทางราชการ พร้อมทั้งกำหนดตารางการเดินรถที่มีความชัดเจนและประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปฏิบัติงานและผู้โดยสารที่มีความจำเป็นในการเดินทางทราบโดยทั่วกัน


(3) สำหรับการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ให้กำหนดแผนปฏิบัติงานอันคำนึงถึงความปลอดภัยต่อระบบการเดินรถเท่าที่จำเป็น และมีมาตรการป้องกันโรคตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) โดยปฏิบัติดังนี้


(3.1) ให้ออกเอกสารรับรองการปฏิบัติงานของหน่วยงานแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่เข้าออกเวรทำงานผลัดกลางคืนตามปกติ หรือการเดินทางมาจากหรือไปยังท่าอากาศยาน


(3.2) ให้ออกเอกสารรับรองความจำเป็นหรือเอกสารเกี่ยวกับสินค้าหรือการเดินทางสำหรับการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ผลผลิตการเกษตร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ หนังสือพิมพ์ การขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง การขนส่งพัสดุภัณฑ์ การขนส่งสินค้าเพื่อการนำเข้าหรือส่งออก การขนย้ายประชาชนไปสู่ที่เอกเทศเพื่อกักกันตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ


(4) สำหรับระบบรถไฟระหว่างเมืองให้เพิ่มมาตรการความเข้มงวดในการคัดกรองตรวจตราผู้โดยสารที่มีลักษณะเข้าข่ายติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) มิให้ใช้บริการร่วมกับผู้โดยสารอื่น โดยสมควรติดต่อหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่หรือกรมควบคุมโรคเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ให้ใช้ดุลพินิจสูงสุดในการดำเนินการตามความเหมาะสมแก่เหตุอันควรรายกรณี และชี้แจงเหตุผลความจำเป็นแก่ผู้โดยสารอันเป็นประโยชน์ในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19)

 

ข้อ 2 ผู้โดยสารพึงปฏิบัติดังนี้


(1) วางแผนและประมาณการระยะเวลาในการเดินทาง รวมถึงติดตามข่าวสารการเปลี่ยนแปลงตารางเดินรถ และให้เดินทางเท่าที่จำเป็นภายใต้ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 2) เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19)


(2) ให้ความร่วมมือกับผู้ให้บริการระบบขนส่งทางราง กรณีพบเห็นผู้ที่มีลักษณะเข้าข่ายติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ได้โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงเพื่อประสานหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่หรือกรมควบคุมโรคเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

อย่างไรก็ตาม กรมการขนส่งทางรางขอว่าประกาศดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อการวางมาตรฐาน การให้บริการเดินรถ การให้บริการในระบบรางให้สอดคล้องกับข้อกำหนดภายใต้ พ.ร.ก. การบริหารราชการฯ และยึดถือความปลอดภัย ความสะดวก ในการเดินทางเป็นสำคัญ ขณะเดียวกันเพื่อให้หน่วยปฏิบัติไปในแนวทางใกล้เคียงกัน ซึ่งก่อนที่จะออกประกาศ ได้มีการหารือผู้ให้บริการทุกรายแล้ว เพื่อความรอบคอบ และเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน หน่วยงานผู้ให้บริการ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และเป็นลักษณะขอความร่วมมือตั้งแต่วันนี้ (3 เม.ย.63) เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จะคลี่คลายหรือมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น

จึงขอความร่วมมือทั้งผู้ให้บริการระบบขนส่งทางรางและผู้โดยสารปฏิบัติตามประกาศดังกล่าว เพื่อร่วมกันลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ ต่อไป