โควิด-19 ฉุดการใช้น้ำมันร่วง 5.3% 2เดือนลดเงินนำเข้าน้ำมันดิบ 4.5พันล้าน

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยถึงภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในรอบ 2 เดือน (มกราคม – กุมภาพันธ์) ของปีนี้ ว่า ปริมาณการใช้เฉลี่ยต่อวันเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนปรับตัวลดลง 5.3 % โดยกลุ่มดีเซล ลดลง 2.0% น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) ลดลง 4.4% น้ำมันเตา ลดลง 33.8% น้ำมันก๊าด ลดลง 9.2%  LPG ลดลง 12.9% และ NGV ลดลง12.6%  ยกเว้นกลุ่มน้ำมันเบนซิน เพิ่มขึ้น 0.3%

ทั้งนี้ การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 31.8 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 0.3% โดยกลุ่มแก๊สโซฮอล์มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เฉลี่ยอยู่ที่ 30.95 ล้านลิตรต่อวัน คิดเป็น 1.1% ขณะที่น้ำมันเบนซินมีการใช้ลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 0.8 ล้านลิตรต่อวัน คิดเป็นอัตราลดลง 22.2%  ส่วนภาพรวม การใช้น้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ พบว่า แก๊สโซฮอล์อี 20 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นมากที่สุด อยู่ที่ 6.7 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 7.9% เนื่องจากมีราคาต่ำกว่าแก๊สโซฮอล์ 95 เฉลี่ยอยู่ที่ 3.01 บาทต่อลิตร รองลงมาเป็นแก๊สโซฮอล์ 95 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 14.1 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 3.5% เนื่องจากแก๊สโซฮอล์ 91 และแก๊สโซฮอล์ 95 มีราคาใกล้เคียงกันโดยมีส่วนต่างเพียง 0.27 บาทต่อลิตร จึงทำให้ผู้บริโภคเลือกใช้น้ำมันชนิดที่มีค่าออกเทนสูงกว่า ขณะที่แก๊สโซฮอล์ 91 มีปริมาณการใช้ลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 9.0 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 6.2% และ แก๊สโซฮอล์ อี85 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 1.2 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 3.6%

                  นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช

สำหรับการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลหมุนเร็ว เฉลี่ยอยู่ที่ 64.6 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 2.5% โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 มีปริมาณการใช้ลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 53.4 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 18.9% น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 3.9 ล้านลิตรต่อวัน  และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 7.3 ล้านลิตรต่อวัน โดยปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วดังกล่าวอยู่ในการปรับเปลี่ยนตามนโยบายของภาครัฐที่กำหนดให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 เป็นน้ำมันดีเซลฐานของประเทศและใช้มาตรการราคาเป็นกลไกผลักดันให้เป็นไปตามเป้าหมาย

ส่วนการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 20.6 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของ ปีก่อน 4.4% เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะที่การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 15.8 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 12.9 %โดยปริมาณการใช้ภาคปิโตรเคมีลดลงมากที่สุด มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 5.5 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ลดลง 24.5% ภาคขนส่งมีปริมาณการใช้อยู่ที่ 2.6 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ลดลง 13.5% ภาคครัวเรือนมีปริมาณการใช้อยู่ที่ 5.9 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ลดลง1.9% และภาคอุตสาหกรรมมีปริมาณการใช้อยู่ที่ 1.8 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ลดลง 1.8%

การใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 4.9 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 12.6% มีสาเหตุมาจากการปรับราคา NGV สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไปให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ประกอบกับนโยบายส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ทำให้ประชาชนและรถโดยสารหันไปใช้ดีเซลหมุนเร็วบี 20 ทดแทน

สำหรับการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง มีปริมาณรวมลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 922,977 บาร์เรลต่อวัน ลดลง 10.3% คิดเป็นมูลค่า 59,406 ล้านบาทต่อเดือน หรือช่วยประหยัดเงินนำเข้าน้ำมันดิบได้ราว 4.49  พันล้านบาท ในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2563  เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นทำให้ต้องลดปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบเข้ากลั่นลง สำหรับน้ำมันสำเร็จรูป เป็นการนำเข้าน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยานและก๊าด และ LPG โดยมีปริมาณนำเข้าลดลงอยู่ที่ 30,392 บาร์เรลต่อวัน ลดลง 64.9% คิดเป็นมูลค่า 1,947 ล้านบาทต่อเดือน

ขณะที่การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยานและก๊าด และ LPG โดยมีปริมาณส่งออกลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เฉลี่ยอยู่ที่ 175,222 บาร์เรลต่อวัน ลดลง 6.7% คิดเป็นมูลค่า 11,234 ล้านบาทต่อเดือน