นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงกำลังดำเนินการเรื่องการนำเอทานอลส่วนเกินประมาณ 1 ล้านลิตรต่อวันจาก 26 โรงงานผู้ผลิตเอทานอล มาใช้ทางการแพทย์เพื่อนำไปผลิตเป็นเจลล้างมือสำหรับป้องกัน และควบคุมไวรัสโคโรนา หรือโควิด19 หลังจากที่กรมสรรพสามิตได้มีการปลดล็อกเงื่อนไขผ่อนผันให้สามารถนำเอทานอลไปบริจาคได้ เพื่อใช้ในการผลิตเจลล้างมือ และมีการผ่อนผันให้นำเอทานอลไปขายให้กับผู้ผลิตเป็นแอลกอออลล์ทางการแพทย์
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวกระทรวงพลังงานจะเป็นผู้ควบคุมปริมาณเอทานอลส่วนเกินจากทั้ง 26 โรงงานผู้ผลิตว่าแต่ละโรงงานจะสามารถขายได้ในปริมาณเท่าใด เพราะจะต้องบริหารจัดการให้สมดุลกับการนำมาใช้ทางด้านพลังงานด้วย โดยจะเป็นอีกหนึ่งบทบาทของกระทรวงพลังงานในการเข้ามาดูแลเอทานอลที่จะใช้ในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนเอทอนอล การนำเข้าช่วงนี้ก็ลำบาก เนื่องจากทุกประเทศต่างก็ต้องการแอลกอฮอล์แทบทั้งหมด โดยไทยจะมีแอลกอฮอล์ที่เป็นเอทอนอลจากภาคพลังงานเข้าไปเสริมในทางการแพทย์
“เดิมทีเอทานอลที่ผลิตได้จะมีข้อกำหนดให้ส่งขายให้กับโรงกลั่นเท่านั้น แต่เมื่อกรมสรรพาสามิตปลดล็อก และให้กระทรวงพลังงานเป็นผู้ดูแลเราก็จะเริ่มขายได้ทันที เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตแอลกออฮอล์ และเจลล้างมือที่ใช้ในวงการแพทย์”
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าปัญหาเรื่องภัยแล้งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตเอทานอลอย่างแน่นอน เพราะเอทานอลส่วนใหญ่ได้มาจากไซรับ โมลาส มันเส้นซึ่งมีอยู่แล้ว รวมถึงจะไม่กระทบต่อแผนการส่งเสริมการใช้งาน E20 โดยที่กระทรวงพลังงานจะดูจังหวะของความเหมาะสมของการประกาศนโยบาย E20 ด้วย โดยแนวโน้มคาดว่าอาจจะเร็วกว่าไตรมาสที่ 3 เนื่องจากขณะนี้ต้องบริหารควบคู่หลายเรื่อง แต่เป้าหมายที่สำคัญก็คือ มันสำปะหลังจะต้องราคาดี