ปี 62 บ้านปูฯรายได้ตก 2.24 หมื่นล้านบาท

28 ก.พ. 2563 | 11:00 น.

บ้านปูฯ เผยภาพรวมการดำเนินงานปี 62 ระบุมีรายได้จากการขายรวม 85,660 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 22,416 ล้านบาท

นางสมฤดี  ชัยมงคล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมปี 62 บ้านปูฯ มีรายได้จากการขายรวม 2,759 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ85,660 ล้านบาท) ลดลงจากปีก่อน 722 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ22,416 ล้านบาท) คิดเป็น 21% มีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA)รวม695 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 21,578 ล้านบาท) ลดลง 41% จากปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนคิดเป็นจำนวน75 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,329 ล้านบาท) ซึ่งปรับลดลง 66% จากปีก่อนหน้า จากการแข็งค่าของเงินบาทอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเหรียญสหรัฐในปีที่ผ่านมาทำให้เกิดผลขาดทุนจากการแปลงค่างบการเงินจำนวน95 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,950 ล้านบาท) งบการเงินรวมจึงได้บันทึกขาดทุนสุทธิจำนวน20 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 621 ล้านบาท)

ปี 62 บ้านปูฯรายได้ตก 2.24 หมื่นล้านบาท

              “แนวโน้มธุรกิจพลังงานในช่วงปี 62 สะท้อนถึงความท้าทายจากปัจจัยต่าง ๆ ทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก สงครามการค้าของประเทศคู่กรณี ความต้องการใช้พลังงานชะลอตัวจากปัจจัยสภาวะอากาศที่ไม่หนาวเย็นนักในช่วงฤดูหนาวของซีกโลกเหนือ และการแข็งค่าของเงินบาทอย่างต่อเนื่อง”

              นางสมฤดี กล่าวต่อไปว่า ในปี 63 จะมีความคืบหน้าทางธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม  โดยการเดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งและสมดุลให้กับระบบนิเวศทางธุรกิจระหว่างกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ทั้งกลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน มุ่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจที่ตอบรับกับเทรนด์พลังงานแห่งโลกอนาคต ที่สนับสนุนการผลิตและการใช้พลังงานสะอาด รวมถึงการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้

ทั้งนี้  เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยกลยุทธ์Greener & Smarterเมื่อเดือนธันวาคม 2562 บ้านปูฯ ได้ลงทุนเป็นจำนวน770 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 23,907 ล้านบาทเพื่อเข้าซื้อแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ในมลรัฐ เท็กซัส สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีอุปสงค์การใช้ก๊าซธรรมชาติมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาคิดเป็น15% ของความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติรวมของประเทศ และส่งผลให้บ้านปูฯ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ20 อันดับแรกของสหรัฐอเมริกา

ปี 62 บ้านปูฯรายได้ตก 2.24 หมื่นล้านบาท

สำหรับการเข้าซื้อกิจการแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ นับได้ว่าอยู่ในช่วงเวลาและราคาที่น่าพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังมีความเสี่ยงและมีต้นทุนการดำเนินการที่ต่ำ และช่วยยกระดับศักยภาพของบ้านปูฯ ให้มีพอร์ตทางธุรกิจที่หลากหลายตอบรับกับความต้องการในหลากหลายพื้นที่ ต่อยอดความเป็นผู้นำและศักยภาพในการบริหารทรัพยากรด้านธุรกิจก๊าซธรรมชาติของบ้านปูฯ จากเดิมที่มีแหล่งก๊าซธรรมชาติMarcellusในพื้นที่ตะวันออกเฉียง เหนือของมลรัฐเพนซิลเวเนียอยู่แล้ว นอกจากนี้ การเข้าซื้อบาร์เนตต์ฯ ยังมีโอกาสคืนทุนได้เร็ว โดยคาดการณ์ว่าสามารถคืนทุนให้บ้านปูฯ ได้ภายในปี ขณะที่มีปริมาณสำรองการผลิตระยะยาวอย่างน้อย16 ปี

              นอกจากนี้ บ้านปูฯ ยังปรับกระบวนทัพทางธุรกิจครั้งสำคัญ โดยการจัดตั้ง บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัดที่มีทุนจดทะเบียน7,919 ล้านบาท แล้วเสร็จเมื่อวันที่27กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งจะดำเนินงานเป็นบริษัทหลัก (Flagship) ของกลุ่มบริษัทบ้านปูฯ เพื่อมุ่งลงทุนและพัฒนาธุรกิจพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงานอาทิ การดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน การให้บริการวางระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด การออกแบบและผลิตยานยนต์ไฟฟ้า การผลิตและจำหน่ายแบตเตอรี่ไฟฟ้า ระบบกักเก็บพลังงาน และระบบการจัดการเทคโนโลยีพลังงาน เพื่อเสริมทัพสมาร์ทโซลูชันด้านพลังงานอย่างครบวงจร โดยมีความคืบหน้าทางธุรกิจตลอดปี2562 ทั้งการขยายพอร์ตธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคากับลูกค้าระดับพรีเมี่ยมทั่วประเทศ แผนความร่วมมือด้านโลจิสติกส์ทั้งการขนส่งสินค้าและพัสดุไปรษณีย์ด้วยยานยนต์ไฟฟ้า และการขยายกำลังผลิตโรงงานแบตเตอร์รีลิเธียมอิออนกิกะวัตต์ต่อชั่วโมง การสร้างพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ ๆ ไปพร้อม ๆ กับการรุกขยายธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและฉับไวเช่นนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบ้านปูฯ ในการเติบโตในพอร์ตพลังงานสะอาดทั้งในระยะสั้นและระยะยาว อีกทั้งความตั้งใจในการดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืนตามหลักESG ซึ่งประกอบด้วย สิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และการกำกับดูแลกิจการ (Governance)

“บ้านปูฯ กำลังก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่กลยุทธ์Greener & Smarter รวมถึงการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้อย่างชาญฉลาด และการเสริมสร้างแพลตฟอร์มทางธุรกิจที่เอื้อประโยชน์และส่งเสริมซึ่งกันและกันระหว่างกลุ่มธุรกิจทั้งหมดของเราใน10 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก คือหัวใจหลักในการเดินหน้าสร้างการเติบโตที่ตอบรับกับเทรนด์พลังงานแห่งโลกอนาคตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว ทั้งในส่วนธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้บ้านปูฯในปัจจุบันคือกลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน”

ปี 62 บ้านปูฯรายได้ตก 2.24 หมื่นล้านบาท

นางสมฤดี กล่าวต่อไปอีกว่า บ้านปูฯจะไม่หยุดยกระดับการปรับปรุงคุณภาพและลดต้นทุน รวมทั้งพิจารณาถึงตลาดที่มีศักยภาพใหม่ ๆ อาทิ อินเดียและบังคลาเทศ ส่วนในกลุ่มธุรกิจผลิตพลังงานจะมุ่งหน้าสู่เป้าหมายการมีกำลังการผลิตรวม5.3 กิกะวัตต์เทียบเท่า ภายในอีก 5 ปี โดยให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่เน้นประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเสริมความแข็งแกร่งในศักยภาพการสร้างกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอผ่านการพัฒนาโครงการในพอร์ตฟอลิโอให้ทันตามระยะเวลาที่กำหนด ในส่วนกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน บ้านปูฯ จะพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพของเราในการสร้างสมาร์ทโซลูชันที่หลากหลายแบบครบวงจรและสามารถสร้างรายได้ให้กับกลุ่มบริษัทบ้านปูฯ อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ เราจะยังคงยืนหยัดก้าวข้ามความท้าทายทั้งหลาย เพื่อแสดงความเป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานแบบครบวงจรอย่างแท้จริง