เฮ!พรุ่งนี้ ดีเซล B10 ถูกกว่า B7 3 บาท

27 ก.พ. 2563 | 09:25 น.

กบน. เคาะปรับโครงสร้างอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลส่งผลดีเซล B10 ลดราคา 0.50 บาทต่อลิตร B7 ราคาเพิ่มขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ราคาดีเซล B10 ถูกกว่า B7 3 บาท

 

นายวีระพล  จิรประดิษฐกุล  ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.)ที่มีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ว่า  ที่ประชุมเห็นชอบปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของดีเซลหมุนเร็ว  เพื่อส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซล B10 เป็นน้ำมันพื้นฐานตามมติคณะกรรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)เมื่อ 21 ก.พ.63 ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วB10  ลดลง 0.50 บาทต่อลิตร ดีเซลB7 เพิ่มขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลB20 คงเดิมมีผลตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.เป็นต้นไป โดยราคาใหม่เป็นดังนี้ B7  ราคา 26.09 บาทต่อลิตร B10 ราคา 23.09 บาทต่อลิตร และB20 ราคา 22.59 บาทต่อลิตร

เฮ!พรุ่งนี้ ดีเซล B10 ถูกกว่า B7 3 บาท

ทั้งนี้  อัตราเงินกองทุนน้ำมันดีเซลที่มีการปรับเปลี่ยนใหม่มีดังนี้ B7 เดิมเก็บอยู่ 0.25 บาทต่อลิตรปรับเป็นเก็บ 1 บาทต่อลิตรหรือเพิ่มขึ้น 0.75 บาทต่อลิตร ดีเซลB10 เดิมอุดหนุน 2 บาทต่อลิตร ปรับเป็นอุดหนุน 2.50 บาทต่อลิตรหรืออุดหนุนเพิ่มขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร และB20 เดิมอุดหนุน 3.91 บาทต่อลิตร ปรับเป็นอุดหนุน 4.41 บาทต่อลิตร หรืออุดหนุนเพิ่ม 0.50 บาทต่อลิตร

เมื่อปรับกองทุนฯราคาขายปลีกB7 จะสูงกว่า B10 จำนวน 3 บาทต่อลิตรจากเดิม 2 บาทต่อลิตร ราคาดีเซลB20 ต่ำกว่าB10 อยู่ 0.50 บาทต่อลิตรจากเดิมต่ำกว่า 1 บาทต่อลิตร และB20 ต่ำกว่าB7 ที่ 3.50 บาทต่อลิตรจากเดิมต่ำกว่า 3 บาทต่อลิตร

 

อย่างไรก็ดี  ในการปรับเปลี่ยนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงทำให้อัตราเงินกองทุนน้ำมันฯเฉพาะบัญชีน้ำมันติดลบจาก 381 ล้านบาทต่อเดือน (รวมกับบัญชีก๊าซแอลพีจีที่ส่งเข้ามา 32 ล้านบาทต่อเดือน) เป็นติดลบ 787 ล้านบาทต่อเดือนหรือการอุดหนุนจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวราว 406 ล้านบาท  โดย ปัจจุบันณ วันที่ 26 ก.พ. 63 ประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันฯสุทธิ 36,005 ล้านบาทแบ่งเป็นประเภทน้ำมันฯ 41,522 ล้านบาท ประเภทแอลพีจี ติดลบ 5,517 ล้านบาท

เฮ!พรุ่งนี้ ดีเซล B10 ถูกกว่า B7 3 บาท

นางสาวนันธิกา  ทังสุพานิช  อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) กล่าวว่า ในการประชุมครั้งดังกล่าวนี้ยังพิจารณาเพิ่มค่าการตลาดน้ำมันB10 มากขึ้น  เพื่อส่งเสริมให้ผู้ค้ามาจำหน่ายซึ่งคาดว่าสถานีบริการน้ำมันที่เป็นเจ้าของแบรนด์หลักจะปรับหัวจ่ายมาขายB10 ครบ 6,000 แห่งภายในสิ้นเดือนมี.ค.นี้และคาดว่าภายในก.ย.นี้จะมียอดขายB10 เป็น 52 ล้านลิตรต่อวัน

นอกจากนี้ ธพ.อยู่ระหว่างการติดตามผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา(โควิด-19) ที่คาดการณ์ว่าจะมีผลกระทบต่อยอดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงภาพรวมในปี 2563 ที่อาจจะชะลอตัวจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่าปีนี้จะเติบโตระดับ 2-3% เมื่อเทียบกับปี 2562 โดยคาดว่าผลกระทบน่าจะเริ่มเห็นผลต่อปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรวมในเดือนกุมภาพันธ์นี้