“สมคิด-อุตตม” นำทีมผนึกญี่ปุ่นเสริมแกร่งเกษตรอุตฯไทย

นายณัฐพล  รังสิตพล  อธิบดี กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยว่า ได้หารือกับหน่วยงานที่ประเทศญี่ปุ่น  พร้อมกับคณะเจ้าหน้าที่ จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อบุกเบิกความร่วมมือกับองค์การส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) และธนาคารโนรินจูคิน (The Norinchukin Bank) ซึ่งเป็นธนาคารเพื่อการเกษตรของญี่ปุ่น ในเรื่องการพัฒนายกระดับรายได้ชุมชน เกษตรอุตสาหกรรม และธุรกิจชุมชน

                ทั้งนี้  ฝ่ายไทยได้มอบหมายให้ ธ.ก.ส. ผนึกกำลังกับ กสอ. ประสานความร่วมมือกับบริษัทคูโบต้า ซึ่งเป็นบริษัทเครื่องจักรกลการเกษตรยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น เพื่อสร้างระบบนิเวศเครื่องจักรกลการเกษตรในสองประเด็น คือ 1.การสรรหาเครื่องจักรกลสำหรับการทำเกษตรสมัยใหม่และเครื่องจักรกลสำหรับการแปรรูปผลผลิตเป็นสินค้าแนวเกษตรอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าสูง เช่น การแปรรูปผลผลิต  เป็นสินค้าในกลุ่มด้านความงามและเครื่องสำอาง

                และ 2.การสร้างธุรกิจบริการทางการเกษตรแบบครบวงจร  ซึ่งอาจมีลักษณะคล้ายกับการให้บริการในธุรกิจสาขาอื่น เช่น การบริหารโรงแรม ที่มีการแบ่งผลประโยชน์ระหว่างเจ้าของที่ดินและผู้บริหารการเกษตร เป็นต้น โดย ธ.ก.ส. จะให้การสนับสนุนด้านเงินทุน และ กสอ. จะสนับสนุนด้านองค์ความรู้ในการบริหารจัดการสำหรับทำธุรกิจและอุตสาหกรรม เน้นสร้างแนวคิดให้เกษตรกรยกระดับการทำเกษตรเพื่อยังชีพ ไปสู่การเป็นนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม เพื่อสร้างเกษตรกรพันธุ์ใหม่ที่มีทั้งแนวคิด (Mindset) และ ศักยภาพ (Compentency) ที่จะก้าวสู่การเป็นนักธุรกิจมืออาชีพ

อย่างไรก็ดี  หากผู้ประกอบการเครื่องจักรกลเกษตรของไทยสนใจที่จะเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตร ทางภาครัฐพร้อมยินดีให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยจะขอให้ผู้ประกอบการเครื่องจักรกลเกษตรเป็นผู้ให้บริการเช่าเครื่องจักรผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ บีโอไอยังพร้อมจะพิจารณาให้สิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเรื่องพัฒนาชุมชนอีกด้วย   

                “การเดินทางไปครั้งนี้นำทีมโดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งญี่ปปุ่นถือเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาชุมชน โดยใช้โมเดลการเกษตรร่วมกับการท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งสอดคล้องกับกลไกของหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (CIV) ของกระทรวงอุตสาหกรรมที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ญี่ปุ่นยังมีความสนใจในการจับคู่ทางธุรกิจกับไทย ทั้งในแง่ของการให้บริการเครื่องจักรและการจับคู่แลกเปลี่ยนสินค้าชุมชนเพื่อการต่อยอดซึ่งกันและกัน และเชื่อมโยงการท่องเที่ยวชุมชนระหว่างกัน ในส่วน กสอ. พร้อมที่จะผนึกกำลังกับ ธ.ก.ส. สร้างเป็นทีมงาน ธ.ก.ส.อ. และร่วมมือกับพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาและขับเคลื่อนเกษตรอุตสาหกรรมของประเทศไทยให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งบทบาทและความท้าทายใหม่ของ กสอ. ในปีนี้”